ถ้าพูดถึง “สุกี้ ชาบู ปิ้งย่าง” ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในอาหารยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะเป็นคน Gen B, Gen X หรือ Y ต่างก็รู้จักและสัมผัสกับ “สุกี้ ชาบู ปิ้งย่าง” กันมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อทำการแยกแยะออกมาจากความหลากหลายดาษดื่น ที่เราคุ้นลิ้นชินตามาโดยตลอด เราจะพบว่ายังมีอีกหลายร้านที่ให้ความแตกต่างและยังคงความเป็น “ออริจินอล” ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยหนึ่งในนั้นคือ Donabe ร้าน Sukiyaki สไตล์ญี่ปุ่นออริจินอล โดยมีจุดขายคือ “สุกี้น้ำดำ” ที่มาพร้อมความโดดเด่นด้วยรูปแบบการปรุงโดยนำเนื้อและผักไปผัดในหม้อ พร้อมเติมน้ำซุปในตำหรับดั้งเดิมตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่พร้อมให้คุณสัมผัสความ “อูมามิ” โดยไม่ต้องพึงพาน้ำจิ้มแต่อย่างใด
ประวัติความเป็นมาของร้าน Donabe
Donabe เป็นร้านสุกี้ยากี้ ชาบู ชาบู และยากินิกุ (ปิ้งย่าง) ในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 15 ปี โดยสูตรสุกี้ยากี้ของทางร้าน ได้รับการถ่ายทอดจากเชฟในร้านต้นตำหรับ “สุกี้ยากี้” ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้ร้าน Donabe ยังคงสืบทอดเอกลักษณ์ของสุกี้น้ำดำ ที่ให้รสชาติแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นซึ่งหาได้ยากในเมืองไทย ณ ปัจจุบัน
นอกจากนี้ทาง Donabe ยังนำเสนอการตกแต่งร้านด้วยสไตล์ญี่ปุ่นในแนวเรโท จึงส่งผลให้ร้าน Donabe นั้นมีความโดดเด่นทั้งเรื่องรสชาติและสไตล์การตกแต่งร้าน และถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอิน ที่ลูกค้ามาแล้วจะได้รับความดื่มด่ำของบรรยากาศ ไปพร้อม ๆ กับอรรถรสในการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยมด้วยการนำเข้ามาจากแหล่งต้นกำเนิดที่ดีเยี่ยมอีกด้วย
บรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งในสไตล์เรโทร ให้ฟิลลิ่งแบบร้านอาหารญี่ปุ่นในแถบชานเมืองผสานกับความลงตัวในแบบไทย ๆ เมื่อลูกค้าแวะมาจะได้สัมผัสดื่มด่ำกับบรรยากาศ โดยสามารถถ่ายรูปเช็คอิน ไปพร้อม ๆ กับอรรถรสในการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ
ต้นตำหรับ Sukiyaki น้ำดำ ในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ
ลูกค้าที่มาร้าน Donabe ครั้งแรก แต่ไม่รู้จะเลือกชิมเมนูไหนดี ผู้เขียนขอแนะนำ “Sukiyaki น้ำดำ” เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ต้องบอกเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
สำหรับชุดเนื้อทางร้าน พร้อมเสริฟเนื้อคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ทั้งจากประเทศ ออสเตรีย ญี่ปุ่นและเนื้อคัดสรรจากฟาร์มคุณภาพในเมืองไทย โดยชุดเนื้อสำหรับ Sukiyaki น้ำดำ จะเน้นไปในแบบ A La Carte โดยมีจุดขายด้วยเมนูใหม่ที่แนะนำคือ ชุดเนื้อมิยาซากิ Wagyu A4 สุกียากี้ เนื้อวากิวเกรดพรีเมียมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อมิยาซากิ นั้นคือเนื้อวัวจากประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านการเลี้ยงและคัดสรรอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารสำหรับวัว ที่เน้นธัญพืช และอาหารที่มีกากใยสูงอุดมด้วยโปรตีน พร้อมทั้งมาตรฐานการสถานที่ในการเลี้ยงวัวที่ต้องได้มาตรฐานสำหรับวัวพันธ์นี้เท่านั้น โดยเนื้อมิยาซากิ ของที่ร้านโดนาเบะนั้น จะเป็นเนื้อสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เหนียวนุ่ม ไขมันแทรกเป็นเส้นๆอยู่ในเนื้อคล้ายหินอ่อน ทำให้เกิดรสสัมผัสเวลารับประทาน เหมือนละลายในปากในทันที
ทั้งนี้ทางร้านยังมีเมนูเนื้อแบบเป็นเซ็ตที่รวมผัก รวมน้ำซุปในราคาที่เข้าถึงได้ หรือถ้าไม่กินเนื้อก็ยังมีเซ็ทหมูหรือซีฟู้ดให้เลือกปรับเปลี่ยนได้ตรงสไตล์และรสนิยมของลูกค้า แต่ถ้าพูดกันตามตรง Sukiyaki น้ำดำของสไตล์คนณี่ปุ่นแท้ ๆ เซ็ทเนื้อจะเข้ากันอย่างกลมกลืนมากกว่าเนื้อหมูหรือซีฟู้ดครับ
ชุดเซ็ตผักมาตรฐานของ Sukiyaki น้ำดำ โดยเราสามารถสั่งแบบท็อปปิ้งเพิ่มเติมได้อีกด้วย
สุกี้จีน สุกี้ไทย สุกี้ญี่ปุ่น ต่างมีสไตล์ที่แตกต่างกัน ถ้าพูดถึงความคุ้นชินของคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่จะนึกถึงร้านสุกี้ที่มีเกือบทุกสาขาในห้างสรรสินค้าหรือซูเปอร์สโตร์อย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สุกี้นั้นมีความหลากหลายกว่าที่เราคิด ทั้งสุกี้จีนหรือญี่ปุ่นที่มีกรรมวิธีในการปรุงและการกินที่แตกต่างกัน สำหรับ สุกี้ญี่ปุ่น ของร้าน Donabe จะนำเนื้อและผัก (บางชนิด) ลงไปผัดในหม้อก่อนที่จะเติมน้ำซุปลงไป ซึ่งวิธีการปรุงแบบนี้ เป็นสไตล์สุกี้น้ำดำแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ครับ
สุกี้น้ำดำของทางร้าน Donabe สืบทอดเอกลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่นมาแบบครบถ้วน แต่ก็มีการปรับแต่งบางส่วนเพื่อให้เข้ากับสไตล์การกินของคนไทย โดยตัวน้ำซุปจะปรุงให้มีความกลมกล่อมและสามารถซดน้ำได้ ซึ่งจะแตกต่างจากคนญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยนิยมทานน้ำซุปในหม้อสุกี้ แต่จะปรุงให้น้ำซุปมีความเข้มข้นมาก ๆ โดยจะหนักทั้งความเค็มผสานความหวาน จึงไม่เหมาะกับคนไทย ที่ส่วนใหญ่เราคุ้นกับการกินสุกี้ไปพร้อม ๆ กับการลิ้มรสความหอมหวานจากน้ำซุปด้วยนั่นเอง
สำหรับรสชาติสุกี้น้ำดำของทางร้าน Donabe ตัวน้ำซุปของที่ร้าน มีความ “อูมามิ” ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัวมาก ๆ หลังจากชิมคำแรก สัมผัสได้ถึงความสดชื่นและความหอมละมุนไปพร้อม ๆ กัน และเมื่อคีบชิ้นเนื้อที่ซึมซับน้ำซุปจนเข้าที่แล้ว นำมาจิ้มกับไข่ไก่ดิบ ซึ่งเป็นการกินสุกี้น้ำดำในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ จะให้รสสัมผัสที่มีความเค็มพอเหมาะ หอมน้ำซุบ ผสานด้วยเท็กเจอร์ของเนื้อที่เคลือบด้วยไข่ไก่ นี่คือความลงตัวที่สายเนื้อต้องฟินจิกหมอนกันอย่างแน่นอน
ในส่วนของน้ำจิ้ม ต้องบอกเลยว่าการกินสุกี้น้ำดำของคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะจิ้มเพียงไข่ดิบเท่านั้น ซึ่งทางร้านเลือกใช้ไข่จากฟาร์มที่ถูกสุขอนามัย สามารถทานดิบได้ เรื่องความปลอดภัยนั้นหายห่วง แต่ถ้าเราไม่คุ้นกับการจิ้มไข่ไก่ดิบ ทางร้านมีน้ำจิ้มพอนสึ ที่ให้รสเค็มออกเปรี้ยวและหอมสดชื่นจากเลมอน และ “น้ำจิ้มงา” ที่ให้รสชาติออกเปรี้ยวหวานกลมกล่อมหอมงาเป็นชุดน้ำจิ้มมาตรฐาน และยังเติมได้ไม่อั้น ไม่มีชาร์จ แต่สิ่งที่น่าประทับใจไปกว่านั้น ทางร้านยังมีน้ำจิ้มที่ปรุงเป็นพิเศษ คือ “น้ำจิ้มเผ็ด” หรือน้ำจิ้มแซ่บที่เป็นการเติมพริกสด ต้นหอม กระเทียมและพริกเผาที่ท้านร้านทำเองผสมเข้าไป จนเกิดเป็นความกลมกล่อมลงตัว ไม่เผ็ดจนเกินไป หอมพริกเผาและได้ความสดชื่นจากต้นหอม เป็นน้ำจิ้มที่เข้ากันได้ดีทั้ง “สุกี้ ชาบู ปิ้งย่าง” และถือว่าเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของทางร้านอีกด้วย
ต่อกันด้วยเมนู ชาบู ชาบู
ชุดผักมาตรฐานของชาบู จะมีความแตกต่างจากชุดสุกี้เล็กน้อย
ไฮไลท์ยังคงเป็นเนื้อ แต่คนไม่ทานเนื้อที่ร้านก็มีเนื้อหมูคุณภาพดีให้สั่ง ไม่ว่าจะเป็น คุโรบูตะ, สันคอ, สามชั้น ที่นุ่มละมุนลิ้นละลายในปากกันเลยทีเดียว
ส่วนซีฟู้ดก็มีหลากหลายเมนูเช่นกัน และที่สำคัญทางร้านใส่ใจและคัดสรรวัตถุดิบในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะสั่ง เนื้อ หมู หรือซีฟู้ด รับประกันคุณภาพทุกจาน
โดยพื้นฐานชาบู ไม่ได้มีจุดขายที่น้ำซุป และส่วนใหญ่จะมีรสชาติที่อ่อนบางอยู่แล้ว โดยความกลมกล่อมของน้ำซุปจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จากการใส่ผักสบัดเนื้อลงหม้อสักระยะหนึ่งนั่นเอง สำหรับรสชาติน้ำซุปของทางร้าน ถ้าเทียบกับ สุกี้น้ำดำ จะให้รสสัมผัสที่เบากว่าอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับจืดชืดไม่มีรสชาติแต่อย่างใด โดยไฮไลท์หลักนั้นอยู่ที่คุณภาพและความสดใหม่ของวัตถุดิบ ซึ่งจากประสบการณ์กว่า 15 ปีของทางร้าน สามารถการันตีความพึงพอใจ ทั้งจากลูกค้าหน้าใหม่และลูกค้าประจำที่ยังคงแวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย
ในส่วนของน้ำจิ้มก็ยังมี พอนสึ, น้ำจิ้มงา และน้ำจิ้มเผ็ดเป็นตัวชูโรงเหมือนเช่นเคย ส่วนถ้าใครที่ “รักเผ็ดเด็กกินไม่ได้” สามารถขอพริก กระเทียมมาเติมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนมะนาวจะไม่ฟรีนะครับ แต่ก็ไม่ได้แพง แถมเป็นมะนาวแท้ ๆ มาเป็นลูก ๆ ไม่ใช่น้ำมะนาวขวดแต่อย่างใด
ทางฝั่งของเครื่องดื่ม ที่ร้านมีซิกเนเจอร์ “น้ำมะนาวโซดา” ที่ให้ความสดชื่น คลายร้อน โดยทางร้านคุมโทนรสชาติออกมาได้ดีมาก ๆ คือไม่โดดไปทางใดทางหนึ่ง เหมือนบางร้านที่บางทีก็หวานหรือเปรี้ยวจนเกินเหต เอาเป็นว่าสำหรับเมนูนี้ ถ้ามาแล้วไม่สั่งถือว่าพลาดละกัน !
สำหรับคนชอบดื่ม L ที่ร้านมีเมนูแอลกอฮอล์ให้เลือกสั่ง ทั้งเบียร์สด เหล้าบ๊วย สาเกร้อน/เย็น และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปิดท้ายกันไปด้วย Yakiniku (ปิ้งย่าง)
สำหรับ Yakiniku หรือปิ้งย่าง มีเมนูเนื้อวัว, หมู, ซีฟู้ด ให้เลือกสั่งหลากหลายเมนู ทั้งเนื้อริบแคป ริบอาย เนื้อใบพาย เนื้อลาย เนื้อซี่โครง เนื้อสะโพก สันคอ เนื้อติดมัน หมูคุโรบูตะ กุ้ง หอยเชลล์ ฯลฯ
การสไลด์เนื้อหรือหมูที่ทานแบบปิ้งย่างจะแตกต่างจากสุกี้หรือชาบูอยู่บ้าง โดยในภาพรวมจะมีความหนากว่า ซึ่งจะช่วยให้เวลาย่างไม่หดตัวจนเกินไป และยังคงความหวานของเนื้อหรือหมูไว้ได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับ โคชูจังที่ทางร้านทำเองแบบโฮมเมด และยังสามารถปรุงรสชาติให้ถูกปากโดนใจตามสไตล์ของตนเอง ด้วยน้ำมะนาว กระเทียมปั่นและพริกขี้หนู
ทางร้านใช้ถ่านไร้ควัน ช่วยให้การปิ้งย่างเป็นไปอย่างราบลื่น ส่วนรสชาตินั้นไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยคุณภาพของวัตถุดิบที่ทางร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดี ผสานกับน้ำจิ้ม 3 สหาย พอนสึ, น้ำจิ้มงา และน้ำจิ้มเผ็ด ใครที่ชอบสไตล์ปิ้งย่าง หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศจาก สุกี้ ชาบู มาลอง Yakiniku ที่ร้าน Donabe เชื่อว่าจะ…. “ปิ้งกันเพลิน มีเติมเรื่อย ๆ”
นอกจาก “สุกี้ ชาบู ปิ้งย่าง” ทางร้านยังมี Donabe Lunch Set หรือชุดอาหารกลางวันสุดคุ้ม อิ่มอร่อยในราคาเริ่มต้นเพียง 1xx บาท ซึ่งมีเมนูให้เลือกเยอะมาก ๆ โดยทุกชุดเสริฟพร้อมผลไม้ และชาเขียวร้อนหรือเย็นแบบ รีฟิลเติมไม่อั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูทางเลือกสำหรับคนเวลาน้อย แต่ยังสามารถสัมผัสกับรสชาติสไตล์ญี่ปุ่นที่ปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพได้ในราคาสุดคุ้ม
สรุป! บอกเล่าหลังลอง “สุกี้ ชาบู ปิ้งย่าง” ของทางร้าน Donabe
“สวรรค์ของคนรักเนื้อ” พบกับความดื่มด่ำไปกับเนื้อคุณภาพพรีเมี่ยมที่ผ่านการคัดสรรด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 15 ปี
ร้าน Donabe มีเนื้อเกรดพรีเมี่ยมทั้งจากประเทศออสเตรีย ญี่ปุ่นและเนื้อคัดสรรจากฟาร์มคุณภาพในเมืองไทยที่พร้อมเสริฟให้ลูกค้าได้เลือกนำมารังสรรค์ในสไตล์ที่ชื่นชอบ โดยจะปิ้งย่าง สบัดในน้ำชาบู หรือผัดลงหม้อในแบบสุกี้น้ำดำฉบับญี่ปุ่นออริจินอล ก็ให้ความฟินทุกเมนู ส่วนคนไม่ทานเนื้อ ทางร้านมีเนื้อหมูและซีฟู้ดไว้คอยซัพพอร์ต ซึ่งทางร้านใส่ใจและคัดคุณภาพของวัตถุดิบไม่แพ้เนื้อวัวเช่นกัน
สำหรับความประทับใจของผู้เขียนหลังจากได้มาลองลิ้มชิมรส “สุกี้ ชาบู ปิ้งย่าง” ครบ 3 สไตล์ ของ Donabe แล้ว โดยส่วนตัวชื่นชอบรสชาติของน้ำซุปสุกี้น้ำดำมาก ๆ เพราะในความเป็นออริจินอล ทางร้านยังได้มีการปรับเปลี่ยนสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เข้ากับสไตล์การกินของคนไทยส่วนใหญ่ไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งเรื่องของความกลมกล่อมของตัวน้ำซุปที่สามารตักซดได้ ผสานกับน้ำจิ้มที่ปรุงเป็นพิเศษ จนกลายเป็นน้ำจิ้มที่เข้ากันได้ดีทั้ง “สุกี้ ชาบู ปิ้งย่าง” โดยไม่ต้องร้องขอเครื่องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด แถมทางร้านยังมีเมนู ชุดอาหารกลางวันสุดคุ้ม ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในชั่วโมงเร่งด่วนได้เป็นอย่างดี เมื่อรวมกับการตกแต่งร้านอันโดดเด่น ส่งผลให้ร้าน Donabe เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอิน ที่ลูกค้ามาแล้วจะได้รับความดื่มด่ำของบรรยากาศ ไปพร้อม ๆ กับอรรถรสในการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยมด้วยการนำเข้ามาจากแหล่งต้นกำเนิดที่ดีเยี่ยมอีกด้วย
ร้าน Donabe Sukiyaki Shabushabu อยู่ตรงทางเข้า RCA จากฝั่งถนนเพชรบุรี ตรงข้าม Office Mate เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว, รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีเพชรบุรี (ต่อมอเตอร์ไซต์หรือแท็กซี่ในระยะทาง 1.8 กม.) รถประจำทางลงป้ายอาคารกรมดิษฐ์ (บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด)
- ร้านเปิดทุกวัน โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง เริ่มตั้งแต่ 12:00 – 14:30 น. และ 18:00 – 22:00 น. และรองรับ Deliveree ลูกค้าสามารถสั่งไปรับประทานที่บ้านได้
- ระบบ Payment รับเงินสด บัครเครดิต และระบบโอนเงินออนไลน์
- ผู้ที่สนใจสามารถโทรมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม หรือ สำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 02 641 4141/ 081-3590615
facebook : Donabe-Sukiyaki-Shabusha
