ย่างเข้าสู่กลางปี 65 ค่ายหัวเว่ยก็ยังไม่แผ่ว เพราะล่าสุดได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลากหลายไลน์อัพ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ Huawei FreeBuds SE หูฟัง TWS รุ่นใหม่ล่าสุดของซีรีส์ FreeBuds ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมอล มีน้ำหนักเบาพกพาสะดวก สวมใส่สบายด้วยรูปแบบ Semi-in-ear หรือกึ่งอินเอียร์นั่นเอง นอกจากนี้ยังให้คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมด้วยไดนามิกไดรเวอร์ 10 มม. และไดอะแฟรมโพลีเมอร์ที่มีความไวสูง พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนจากรอบข้าง รองรับเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 เชื่อมต่ออัจฉริยะระหว่างอุปกรณ์ได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น แถมยังมีแบตสุดอึดที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงอีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์ที่ให้มาแบบอัดแน่นของ Huawei FreeBuds SE นั้นยังมีความน่าสนใจอีกมากมาย สามารถรับชมรีวิวฉบับเต็มไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
สเปกเบื้องต้น HUAWEI FreeBuds SE
ชนิด |
Semi-in-ear |
น้ำหนัก |
หูฟัง (2 ชิ้น) : 10.2 g | เคสชาร์จ : 35.6 ก. (ไม่รวมหูฟัง) |
ลำโพง/ไดรเวอร์ |
ไดรเวอร์ยูนิตไดนามิกเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 มม. |
ไมโครโฟน |
หูฟังแต่ละข้างมีไมโครโฟนซิลิโคนสองตัว ซึ่งรองรับการตัดเสียงรบกวนจากการโทร |
ความถี่ไมโครโฟน |
20 Hz–20,000 Hz |
กันน้ำ |
IPX4 |
การตัดเสียงรบกวนในการโทร |
รองรับ (2 ไมค์) |
สี |
ขาว และ ฟ้า |
บลูทูธ |
บลูทูธ 5.2 |
ความจุแบตเตอรี่ |
หูฟัง : 37 mAh | เคสชาร์จ 410 mAh |
เทคโนโลยีการชาร์จแบบมีสาย |
การชาร์จ 5W(5V/1A) (ฟัง 80 นาทีต่อการชาร์จ 10 นาที) |
เวลาในการชาร์จแบบมีสาย |
การชาร์จเต็มสำหรับหูฟัง: ประมาณ 1.5 ชั่วโมง การชาร์จเต็มสำหรับเคสชาร์จ (ที่ไม่มีหูฟังข้างใน) : ประมาณ 2 ชั่วโมง |
ระยะเวลาการเล่น |
หูฟัง: เล่นเสียง 6 ชั่วโมง สนทนาด้วยเสียง 4 ชั่วโมง รวม:24 ชั่วโมง (ไม่มี ANC) |
ภายในกล่อง |
หูฟัง เคสชาร์จ สาย USB-C จุกหูฟัง 3 คู่ (มีให้เลือกในขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก และจุกหูฟังขนาดกลางติดตั้งไว้ล่วงหน้าบนหูฟัง) คู่มือเริ่มต้นใช้งาน ข้อมูลความปลอดภัย และบัตรรับประกัน (three in one) |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องแพ็กเกจของ Huawei FreeBuds SE มาในโทนสีขาว ด้านหน้าโชว์รูปตัวหูฟังเห็นชัดสะดุดตา พร้อมกำกับฟีเจอร์อันเป็นจุดขาย ทั้งคุณภาพเสียงในระดับสตูดิโอ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
สำหรับด้านหลังและด้านล่างกล่องจะพิมพ์บอกไฮไลท์ฟีเจอร์เด่น ๆ ของ Huawei FreeBuds SE รวมถึงรายละเอียด อย่างชื่อรุ่น, สี, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลของผู้ผลิต
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- หูฟังไร้สาย Huawei FreeBuds SE 1คู่
- จุกยางสำรองอีก 2 ขนาด
- เคสชาร์จ
- สายชาร์จ USB-C
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ ข้อมูลความปลอดภัย และใบรับประกันสินค้า (อยู่ในเล่มเดียวกัน)
รูปลักษณ์ดีไซน์ & การออกแบบ
Huawei FreeBuds SE มาด้วยกัน 2 สี 2 สไตล์ ได้แก่สีฟ้าและสีขาว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความไร้น้ำหนักของเมฆและท้องฟ้า ในยามพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก โดยสีขาวจะใสดุจคริสตัล มอบเสน่ห์ที่มาพร้อมกับแสงสะท้อนของแสงแดด ขณะที่สีฟ้านั้นเพลินตาและชวนให้น่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าคลาสสิกและเข้ากันได้กับทุกลุคอย่างแท้จริง
ตัวเคสมาในดีไซน์สุดมินิมอล ด้วยรูปแบบแคปซูลที่มีความโค้งมนในขนาดกะทัดรัด ด้วยน้ำหนักเพียง 5.1 กรัม ส่งผลให้สามารถหยิบจับได้พอดีมือ มอบความสะดวกสบายและไร้ความกังวลที่จะหลุดหายจากมือ และยังมาพร้อมพื้นผิวมันวาวสวยงาม ที่ให้ความหรูหราในเวลาเดียวกัน
สำหรับด้านหน้าของตัวเคสจะมีไฟแจ้งเตือนสถานะ และร่องบากในแบบทูโทนที่ล้อมคาดเกือบรอบตัวเคส สำหรับด้านหลังจะมีพอร์ตชาร์จแบบ Type – C มาให้ใช้งาน
ด้านใต้ตัวเคสจะระบุรายละเอียดของโมเดล, เลข Serial Number และข้อมูลผู้ผลิต
เมื่อเปิดตัวเคสชาร์จ จะพบกับปุ่ม function button เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน ส่วนตัวหูฟังจะมีการกำกับไอคอน L R หรือฝั่งซ้าย ขวาไว้ที่ด้านหน้า เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บวางและสะดวกในการชาร์จนั่นเอง
ตัวหูฟัง Huawei FreeBuds SE จะมีดีไซน์ที่แตกต่างจาก HUAWEI FreeBuds 4 ที่ทางทีมงานได้เคยรีวิวไปก่อนหน้า ซึ่งในภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า แม้จะเป็นรูปทรงก้านเหมือนกัน แต่ Huawei FreeBuds SE จะมีดีไซน์ที่ดูโมเดิร์นขึ้น ด้วย curve แบบไล่ระดับ พร้อมการออกแบบกึ่งอินเอียร์รูปแบบใหม่ของ HUAWEI FreeBuds SE จึงมีความโดดเด่นในแง่ดีไซน์ รวมถึงการสวมใส่ที่มอบความกระชับ พร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
ตัวหูฟังแต่ละข้างมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 37 mAh และเคสชาร์จอีก 410 mAh ทำให้เล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง โทรนาน 4 ชั่วโมง
นอกจากนี้เคสชาร์จที่มีแบตเตอรี่เต็มนั้นสามารถชาร์จหูฟังได้ตั้งแต่ 0% – 100% ได้มากถึง 4 ครั้ง โดยไม่ต้องชาร์จใหม่ นั่นหมายความว่า ด้วยเคสชาร์จที่ชาร์จเต็มแล้ว สามารถเล่นเพลงได้ 24 ชั่วโมง เพราะเอียร์บัดที่ชาร์จเต็มหนึ่งคู่สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องนาน 6 ชั่วโมง
ส่วนการชาร์จหูฟังเอียร์บัดจนเต็มนั้นใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง และสำหรับเคสชาร์จ โดยไม่มีเอียร์บัดอยู่ข้างในจะอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง
ด้านการส่วมใส่และการคอนโทรล
สวมใส่สบายด้วยดีไซน์ทันสมัยกึ่งอินเอียร์ น้ำหนักเบาเพียง 5.1 กรัม การออกแบบแบบกึ่งอินเอียร์ใหม่ของ HUAWEI FreeBuds SE ได้รับการออกแบบเพื่อมอบความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับซิลิโคนครอบหู 3 ขนาด ด้วยวัสดุน้ำหนักเบาและยืดหยุ่น ช่วยทำให้เป็นมิตรกับผิวหนังมากขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกขนาดของจุกซิลิโคนได้ตามต้องการ
ด้วยดีไซน์แบบกึ่งอินเอียร์ของ HUAWEI FreeBuds SE ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับส่วนโค้งของหูชั้นนอก จึงช่วยลดแรงกดที่ช่องหู ให้ความพอดีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี มอบความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน และยังมาพร้อมฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นในมารตฐาน IPX4 สามารถป้องกันละอองน้ำ จากเหงื่อ หรือฝน จากทุกทิศทางได้ ซึ่งใส่ลุยฝนปรอย ๆ ได้สบาย แต่ไม่แนะนำให้เอาไปจุ่มน้ำ เพราะยังไม่รองรับถึงขั้นนั้น
สวมใส่สบายด้วยการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 5.1 กรัม ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น เพราะมาพร้อม G-sensor โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นระบบควบคุมแบบสัมผัสมีความแม่นยำสูง เพียงแตะสองครั้งเพื่อหยุดชั่วคราวและเล่นต่อ หรือรับสายและวางสาย หรือจะสลับเป็นเพลงก่อนหน้า/ถัดไป สไลด์ขึ้น/ลงเพื่อปรับระดับเสียง หรือสามารถตั้งค่าคำสั่งการใช้งานตามความคุ้นเคยของแต่ละคนได้อย่างอิสระผ่านแอปพลิเคชัน AI Life ซึ่งรองรับบน HarmonyOS, Android และ iOS
นอกจากนี้ Huawei FreeBuds SE ยังมาพร้อมเซนเซอร์อินฟราเรด ที่จะช่วยตรวจจับการใช้งาน โดยถ้าเราดึงหูฟังออกจากหู ก็จะหยุดเล่นเพลงทันที และเมื่อสวมใส่กลับเข้าไปก็จะเริ่มเล่นเพลงให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยในด้านการประหยัดพลังได้เป็นอย่างดี
ด้านการเชื่อมต่อ
HUAWEI FreeBuds SE ชูศักยภาพการทำงานแบบ Multi-tasking ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ด้วย Bluetooth 5.2 ทั้งกับ Android และ iOS และมอบความเสถียรในการเชื่อมต่อที่สูงขึ้น รวมถึงระบบตรวจจับการเชื่อมต่อได้อัตโนมัติเพียงเปิดฝาเคสชาร์จ หน้าต่าง Pop-up ก็จะจับคู่สมาร์ตโฟน พีซีหรือแท็บเล็ตที่อยู่ในบริเวณเดียวกันให้ทันที ขณะเดียวกันก็สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของทั้งเอียร์บัดและเคสชาร์จบนหน้าจอได้อย่างง่ายดาย
ด้านคุณภาพเสียง
ส่งต่อประสบการณ์เสียงอันไพเราะก้องกังวานยิ่งกว่าที่เคย กับไดนามิกไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 10 มม. คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ที่ถูกวางไว้ในตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด สะท้อนเสียงเบสที่หนักแน่น และสนามเสียงที่กว้างให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม พร้อมไดอะแฟรมคอมโพสิตความไวสูง มอบทุกรายละเอียดและประสบการณ์เสียงได้ครบทุกมิติ
ยกระดับการลดเสียงรบกวนรอบข้างของหูฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบตัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม (Environmental Noise Cancellation) ให้เสียงที่ชัดเจนระหว่างการโทรได้ แม้มีเสียงรบกวนรอบข้าง ทำงานคู่กับเทคโนโลยีบีมฟอร์มมิ่งแบบไมค์คู่แยกเสียงเป้าหมายออกจากเสียงรบกวนรอบข้างด้วยความแม่นยำระดับสูง จึงช่วยให้การคุยสายมีความราบรื่น ปลายสายได้ยินเสียงสนทนา ที่คมชัดใสเคลียร์ ถือว่าสอบผ่านสำหรับการใช้งานด้านคุยสายโทรศัพท์
ด้วยไดนามิกไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 10 มม. ให้คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ที่ถูกวางไว้ในตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด สะท้อนเสียงเบสที่หนักแน่น และสนามเสียงที่กว้างให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม พร้อมไดอะแฟรมคอมโพสิตความไวสูง มอบทุกรายละเอียดและประสบการณ์เสียงได้ครบทุกมิติ
HUAWEI FreeBuds SE ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีสำหรับการเล่นเพลงป๊อป เพราะเสียงร้องจะถูกเน้นในเฟรมเวิร์กเสียงแบบสามแชนเนลที่สมดุล ให้เสียงเบสที่ทรงพลังและจังหวะกลองที่คมชัด ขณะเดียวกันเสียงแหลมก็นุ่มและยืดหยุ่น ส่งมอบบทเพลงอันไพเราะได้ครบทุกมิติเสียง
Huawei FreeBuds SE ตอบโจทย์ด้านการรับชมวิดีโอได้เป็นอย่างดี โดยการทดสอบครั้งนี้ เป็นการรับชมภาพยนตร์เรื่อง Inception ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลการบันทึกและการลำดับเสียงของเรื่องยอดเยี่ยม ทำให้สามารถทดสอบคุณภาพหูฟังได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของการถ่ายทอดเอฟเฟกต์ การแยกทิศทางเสียง ความคมชัดของเสียงพูด และดนตรีประกอบในภาพยนตร์ ทำให้การรับชมภาพยนตร์ผ่านทาง Huawei FreeBuds SE นั้นครบทุกอรรถรส และไม่พบอาการดีเลย์ให้หงุดหงิดใจ
ส่วนการนำมาใช้งานร่วมกับการเล่นเกม ทดสอบบนเกม ROV, PUBG, Asphalt 9 พบว่าการถ่ายทอดเสียง เอฟเฟกต์ต่าง ๆ นั้นให้ความสมจริง แยกมิติซ้ายขวาได้ค่อนข้างดี ส่วนเสียงต่าง ๆ ภายในเกมมีความคมชัด ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาภายในเกม เสียงลม เสียงจากการเดิน ฯลฯ
บทสรุป
Huawei FreeBuds SE เป็นหูฟัง TWS รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล FreeBuds ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นรอบด้าน ด้วยดีไซน์สวยงามทันสมัยในสไตล์มินิมอล และยังสวมใส่สบายด้วยการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ มีน้ำหนักเบาเพียง 5.1 กรัม ควบคุมง่ายแค่ปลายนิ้ว พร้อมเปิดประสบการณ์เสียงระดับสตูดิโอด้วยไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 10 มม. และไดอะแฟรมโพลีเมอร์ที่มีความไวสูง พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนจากรอบข้าง อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 เชื่อมต่ออัจฉริยะระหว่างอุปกรณ์ได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น แถมยังมีแบตสุดอึดที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
สรุปในภาพรวม Huawei FreeBuds SE สามารถตอบโจทย์การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมและคุยสายได้อย่างลงตัว และด้วยราคาเปิดตัวเพียง 1,899 บาท ก็คงต้องบอกเลยว่า Huawei FreeBuds SE เป็นหนึ่งในหูฟังไร้สายแบบ True Wireless Stereo (TWS) ที่มาแรง และน่าจับจองเป็นเจ้าของอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ราคาและโปรโมชั่น
- HUAWEI FreeBuds SE ฟังสบายต่อเนื่อง เชื่อมต่อง่ายทุกความรู้สึกในราคาสบายกระเป๋า 1,899 บาท
- วางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น
- สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 18-27 พฤษภาคม 2565
โปรโมชันพรีออเดอร์
- HUAWEI Store: ชำระค่ามัดจำ 100 บาท รับ Code ส่วนลดมูลค่า 800 บาท ระหว่างวันที่ 18-27 พฤษภาคม 2565 และสามารถใช้ Code ส่วนลดได้ในระหว่างวันที่ 22-27 พฤษภาคม 2565
- Lazada / Shopee: สามารถพรีออเดอร์ในราคา 1,099 THB ระหว่างวันที่ 18-27 พฤษภาคม 2565
- Thisshop: แจ้งโปรโมชันเพิ่มเติมในสัปดาห์ที่ 9 พฤษภาคม 2565