รีวิว Huawei Watch D สมาร์ตวอทช์เรือธง จัดเต็มด้านสุขภาพ มาพร้อมฟีเจอร์ วัดความดันโลหิตและวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG ในเครื่องเดียว !!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 3.9K views

Huawei ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมบนสมาร์ตวอทช์ ด้วยการเปิดตัว Huawei Watch D สมาร์ตวอทช์ที่สามารถวัดความดันโลหิตและวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG ได้ในเครื่องเดียว ซึ่งตอบทั้งโจทย์ด้านการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ Huawei Watch D จึงเข้ามาเติมเต็ม ช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทที่ 2 ที่มีขนาดกะทัดรัด สวมใส่ไปได้ทุกที่ทุกเวลาอีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ด้านการออกกำลังกายแบบจัดเต็ม ด้วยโหมดออกกำลังกายมากกว่า 70 โหมด พร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพ ทั้งการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ติดตามการนอนหลับ,  วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับฟีเจอร์และความน่าสนใจของตัว Huawei Watch D จะตอบโจทย์คนที่รักสุขภาพได้ดีแค่ไหน ไปรับชมรีวิวฉบับเต็มกันได้เลยครับ 

สเปกเบื้องต้น HUAWEI WATCH D

ขนาดกรอบนาฬิกา 51 มม × 38 มม × 13.6 มม. (ไม่รวมเซ็นเซอร์) วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ 
หน้าจอ AMOLED 1.64 นิ้ว ความละเอียด 456 x 280 พิกเซล PPI 326
ปุ่มกด 2 ปุ่ม ประกอบด้วยปุ่ม HOME และปุ่มลัด  HEALTH
น้ำหนัก 40.9 กรัม (ไม่รวมสายรัด)
วัสดุสายนาฬิกา Black Fluoroelastomer Strap
การเชื่อมต่อ GPS, NFC และ Bluetooth 5.1
เซ็นเซอร์ Accelerometer sensor, Gyroscope sensor, Optical heart rate sensor, Ambient light sensor, Temperature sensor, Differential pressure sensor และ Hall sensor
ประเภทแบตเตอรี่ Built-in lithium-ion polymer battery
ความจุแบตเตอรี่ 451 mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 7 วัน
เทคโนโลยีชาร์จ ชาร์จไร้สาย
มาตรฐานการกันน้ำ IP68
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ Android 6.0 หรือสูงกว่า, HarmonyOS 2 หรือสูงกว่า และ iOS 12.0 หรือสูงกว่า
ราคา 14,990 บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งมาในโทนสีขาวสะอาดตา ด้านหน้าจะโชว์รูปตัว Huawei Watch D เห็นได้เด่นชัดสะดุดตา โดยมีโลโก้แบรนด์และชื่อรุ่นอยู่ที่มุมบน ส่วนมุมขวาล่างจะมีข้อความ Powered by Harmony OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของตัวสมาร์ตวอทช์นั่นเอง ส่วนด้านหลังกล่องมาพร้อมรายละเอียดชื่อรุ่น, สี, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่อง และข้อมูลของผู้ผลิต

อุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย 

  • ตัวเรือน HUAWEI WATCH D
  • สาย Strap ไซส์ L (อยู่ที่ตัวเรือน) และไซส์ M + สำรอง
  • แถบวัดขนาดข้อมือ
  • แท่นชาร์จแบบแม่เหล็กพร้อมสายเคเบิล
  • คู่มือการใช้งาน
  • ข้อมูลความปลอดภัย
  • ใบรับประกันสินค้า

 

ตัวสายของ Huawei Watch D จะมีความพิเศษ ด้วยองค์ประกอบถึง 3 ชั้น เริ่มจากตัวสายด้านนอกทีผลิตมาจากวัสดุ Fluoroelastomer ให้ความยืดหยุ่นและไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และด้านในจะกำกับด้วยตัวเลขบอกขนาดตามขนาดข้อมือที่สวมใส่ ถัดจากสายนาฬิกาจะเป็นถุงลม (airbag) ที่หุ้มด้วยแถบผ้า สำหรับตัวล็อกจะเป็นแบบบานพับสเตนเลสสตีล Double press ซึ่งจะช่วยให้การสวมใส่มีความกระชับ และตอบโจทย์ในด้านการตรวจวัดค่าต่าง ๆ จากชีพจรได้ดียิ่งขึ้น 

สำหรับการถอดเปลี่ยนสายให้ดันสลักไปตามลูกศรที่กำกับอยู่ด้านบน ส่วนในการใช้งานครั้งแรก ให้นำแถบวัดขนาดข้อมือมาลองวัดที่ข้อมือของผู้ใช้งานก่อน เพื่อให้สามารถรู้ขนาดสายที่จะสวมใส่ได้พอดีกับข้อมือ ซึ่งข้อมูลเบื้องต้น ตัวสายขนาด L: จะประกอบด้วยสายยาวประมาณ 133 มม. และสายสั้นประมาณ 90 มม. (รวมความยาวตัวล็อก) เหมาะกับเส้นรอบวงข้อมือ 161–200 มม. ส่วนสายขนาด M: ตัวสายยาวประมาณ 118 มม. และสายสั้นประมาณ 90 มม. (รวมความยาวหัวเข็มขัด) เหมาะกับเส้นรอบวงข้อมือ 130-160 มม.

 

ตัวถุงลม (airbag) สามารถถอดออกเพื่อทำความสะอาดหรือจะสลับไปใช้ถุงลมสำรองก็ได้เช่นกัน โดยกดปุ่มที่มุมล่างซ้ายเพื่อถอดตัว airbag ออก และหากจะใช้งานในรูปแบบสมาร์ตวอทช์ปกติ โดยไม่ต้องการวัดค่าความดันก็สามารถถอด ตัว airbag ออกพร้อมปิดฝาตัวปั๊มลมกลับเข้าไปเพื่อป้องกันน้ำเข้า 

นอกจากนี้ Huawei Watch D ยังมาพร้อม Hardware ระดับเรือธง ด้วยตัวเรือนด้านหลังที่ผลิตจากวัสดุแซฟไฟร์ พร้อมออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และผสานด้วยอิเล็กโทรดที่เคลือบ PVD5 เพื่อให้สวมใส่ได้พอดีและแนบสนิทกับผิวหนังช่วยให้การสวมใส่และตรวจวัดค่าชีพจรได้เที่ยงตรงแม่นยำ อีกทั้งยังมาพร้อมโฟโตอิเล็กทริคเซนเซอร์ 8 ตัวในรูปแบบวงแหวน โดยมีแหล่งกำเนิดแสงสองกลุ่ม เพื่อเพิ่มความสามารถในการป้องกันการรบกวนด้วยการรวมสัญญาณที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ HUAWEI WATCH D สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจในแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ

HUAWEI WATCH D มาพร้อมหน้าปัดดีไซน์แบบสี่เหลี่ยม โดยตัวกรอบนาฬิกาใช้วัสดุที่ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ น้ำหนักเบาเพียง 40.9 มิลลิกรัม เนื่องจากตัวเรือนมาพร้อมปั๊มลมขนาดเล็ก (mini pump) ในตัว จึงไม่ได้มีขนาดที่บางมาก แต่ในภาพก็ถือว่าไม่ได้ใหญ่เทอะทะแต่อย่างใด 

ฝั่งซ้ายของตัวเรือนจะมีปุ่ม Home เพื่อเข้าถึงเมนูและฟีเจอร์ต่าง ๆ และเมื่อกดค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีจะเป็นการรีสตาร์ทเครื่องหรือปิดเครื่อง ส่วนปุ่มด้านล่างจะเป็นปุ่ม Health ซึ่งค่าเริ่มต้นตั้งมาเป็นฟังก์ชันวัดความดันโลหิต ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเรียกใช้งานปุ่มบนแอป HUAWEI Health ได้ตามที่ต้องการ

HUAWEI WATCH D มาพร้อมหน้าจอกระจกขอบมุมโค้ง 2.5D ขนาดใหญ่ ให้สีสันสดใสคมชัด ด้วยพาเนลแสดงผลชนิด  AMOLED ในขนาด 1.64 นิ้ว บนความละเอียด 456 x 280 พิกเซล และมีความหนาแน่นของพิกเซลที่สูงถึง 326 PPI รองรับการใช้งานระบบสัมผัสได้ลื่นไหลไม่ต่างไปจากสมาร์ตโฟน 

และยังรองรับการสร้างหน้าปัด DIY Watch Face หรือเลือกรูปภาพมาตั้งเป็นภาพหน้าจอได้ ผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health ซึ่งยังมีหน้าปัด Watch Face พร้อมให้เลือกใช้งานได้มากกว่า 200 แบบทั้งยังสามารถตั้งค่าหน้าจอให้เป็น Always On Display เพื่อตอบรับการใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา

ด้านการสวมใส่ 

ด้วยความที่มาพร้อมฟีเจอร์วัดความดันโลหิต ซึ่งมีทั้งถุงลม (airbag) และปั๊มลมขนาดเล็ก (mini pump) ในตัว ส่งผลให้การส่วมใส่จะมีความแตกต่างจากสมาร์ตวอทช์ทั่วไปอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมก็ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด สามารถอ่านจากคู่มือที่มาให้ในกล่อง เพื่อเลือกสายและการสวมใส่ที่กระชับพอดีกับข้อมือของผู้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม แต่จากการใช้งานจริง หากต้องการใช้งานฟีเจอร์วัดความดันโลหิต ทางทีมงานแนะนำให้เลือกค่าตัวเลขที่ต่ำลงมาอีกหนึ่งเบอร์เพื่อไม่ให้สายรัดข้อมือแน่นจนเกินไปในขณะที่ตัวถุงลม หรือ airbag ทำงานนั่นเอง 

นอกจากนี้ HUAWEI WATCH D ยังรองรับฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IP68 สามารถสวมใส่ในขณะล้างมือโดยไม่ต้องถอดออก หรือจะสวมใส่กำลังกายในขณะฝนตกพรำ ๆ ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ไม่สามารถสวมใส่เพื่อใช้ในกิจกรรมทางน้ำ อย่างว่ายน้ำหรือดำน้ำได้ เพราะตัวอุปกรณ์ไม่ได้ออกแบบมาในระดับ Water Resistant  นั่นเอง 

 

การเชื่อมต่อ 

การเชื่อมต่อมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ Huawei Watch D ผ่านแอป  Huawei Health ซึ่งรองรับการใช้งานทั้ง Android และ iOS โดยสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 หรือสูงกว่า, HarmonyOS 2 หรือสูงกว่า และ iOS 12.0 หรือสูงกว่า โดยในการเชื่อมต่อครั้งแรกให้ทำการล็อคอิน หรือลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งาน Huawei Health จากนั้นเชื่อมต่อตามขั้นตอนที่แอปแนะนำได้เลย

การใช้งานเบื้องต้น 

ใช้งาน Huawei Watch D ได้เต็มประสิทธิภาพ ด้วยแอป HUAWEI Health ซึ่งจะทำการซิงค์ข้อมูลต่าง ๆ จาก Huawei WATCH D มายังตัวแอป พร้อมจัดการข้อมูลและสรุปและรายงานอย่างละเอียดไว้บนหน้าจอสมาร์ตโฟน ทั้งข้อมูลการวัดความดันโลหิต การออกกำลังกาย การเดิน การวิ่ง และการนอน เพื่อการดูข้อมูลที่ละเอียดขึ้น อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลต่าง ๆ ย้อนหลังได้อีกด้วย 

จากหน้าจอหลัก เมื่อลากจากหน้าจอแสดงผลด้านบนลงมาด้านล่าง จะเป็นการเข้าสู่หน้าแสดงผลระดับแบตเตอรี่, วันที่/เดือน, เมนูทางลัดต่าง ๆ เช่น เปิดโหมดห้ามรบกวน, เปิดหน้าจอ 5 นาที, ค้นหาโทรศัพท์, นาฬิกาปลุก, การตั้งค่าหลักของตัวเครื่องเป็นต้น

ส่วนการลากจากหน้าจอแสดงผลด้านล่างขึ้นมาด้านบน จะเป็นการเข้าสู่หน้าการแจ้งเตือน Notification ซึ่งรองรับการแจ้งเตือนจากระบบ เช่นการโทร ข้อความ อีเมล ปฏิทิน รวมถึงการแจ้งเตือนจากแอปโซเชียลเป็นต้น

และเมื่อปัดหน้าจอไปทางด้านขวา จะเข้าหน้าจอแสดงสภาพภูมิอากาศ และเครื่องเล่นเพลง

และเมื่อปัดหน้าจอไปทางด้านซ้าย จะเข้าหน้าจอแสดงข้อมูลการวัดความดันโลหิต, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดออกซิเจนในเลือด SpO2, วัดการนอนหลับ, สภาพภูมิอากาศ และดูข้างขึ้นข้างแรม และบันทึกกิจกรรม

เมื่อกดที่ปุ่ม HOME จะเข้าสู่แอปพลิเคชันและการตั้งค่าหลักของตัวสมาร์ตวอทช์ ซึ่งตัวระบบปฏิบัติการ HarmonyOS มอบความสะดวกความสบายผ่าน UI ที่เรียบง่าย ด้วยไอคอนเมนูที่จัดเรียงแบบในแนวตั้งแบบเลื่อนขึ้นลง พร้อมกว่า 20 แอปพลิเคชันให้เลือกใช้ได้อย่างสะดวกสบายแค่ปลายนิ้วสัมผัส

ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่น

ฟีเจอร์วัดความดันโลหิต (Blood Pressure Measurement)

HUAWEI WATCH D  มาพร้อมฟีเจอร์วัดความดันโลหิต ในรูปแบบดิจิตอลสำหรับใช้ในการวัดความดันโลหิตและอัตราชีพจรในผู้ใหญ่ มีคุณสมบัติการเตือนคลื่นไฟฟ้าหัวใจและจังหวะชีพจรเป็นระยะได้รับการอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้จัดเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทที่ 2

HUAWEI WATCH D สามารถเป็นเครื่องตรวจวัดความดันโลหิตให้กับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงหรือต่ำได้ทุกเมื่อที่ต้องการ โดยใช้นวัตกรรมของสายรัดข้อมือที่มีถุงลม (airbag) และปั๊มลมขนาดเล็ก (mini pump) ในตัว ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะให้ตรวจวัดความดันโลหิตได้อย่างแม่นยำแม้มีพื้นที่และขนาดที่จำกัด

ปั๊มลมซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีขนาดเล็กเท่าเหรียญ สามารถทำแรงดันได้ถึง 40kPa วัดความดันโลหิตได้สูงสุดที่ 230mmHg เทียบเท่าเครื่องวัดความดันโลหิตทั่วไปในท้องตลาด ส่วนถุงลมที่มีลักษณะยาวและแคบได้รับการออกแบบมาให้มี 2 ชั้น เมื่อถูกปั๊มลมเข้าไป ถุงลมจะพองออกและรัดข้อมือได้พอดี ช่วยให้ตรวจวัดความดันโลหิตได้แม่นยำมากขึ้น



HUAWEI WATCH D
ใช้เซนเซอร์ความดันที่มีความละเอียดสูง 0.01mmHg ซึ่งสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของค่าความดันโลหิตได้อย่างแม่นยำ และได้รับการออกแบบช่องทางการไหลของลมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงสามารถควบคุมการคลาดเคลื่อนให้ต่ำได้โดยอยู่ระหว่าง ±3mmHg

รวมทั้งมาพร้อม Motion Sensor และเซนเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ Pulse Wave Detection ซึ่งจะสามารถตรวจจับและแจ้งเตือนผู้สวมใส่ให้ปรับลักษณะการสวมใส่ได้อัตโนมัติเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ รวมถึงสามารถตรวจจับความสูงต่ำของการแกว่งแขนได้ว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ ข้อมือของผู้ใช้จะต้องอยู่ในระดับเดียวกับหัวใจขณะที่วัดความดันโลหิต

ขั้นตอนการตรวจวัดความดันโลหิต 

ยกแขนข้างที่ใส่สมาร์ทวอทช์ขึ้นมาวางบริเวณหน้าอกให้สมาร์ทวอทช์อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ และเอามืออีกหนึ่งข้างประคองข้อศอกที่ใส่สมาร์ทวอทช์ไว้เพื่อรักษาระดับ วางเท้าให้ราบไปกับพื้น นั่งหลังตรงปล่อยตัวตามสบายพิงเก้าอี้ และไม่กดฟังก์ชัน airbag เพื่อให้ผลการวัดออกมาถูกต้องมากที่สุด ขอให้นั่งพัก 5 นาทีก่อนการตรวจวัดความดันโลหิต

รองรับการตรวจวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า (ECG Analysis) ได้อย่างแม่นยำ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ไฮไลต์ของ HUAWEI WATCH D ก็คือฟีเจอร์ตรวจวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า (ECG Analysis) ซึ่งหัวเว่ยมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (2022) มาเป็นระยะเวลาหลายปี โดยใช้เซนเซอร์ ECG ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้ได้ผลการตรวจวัดที่แม่นยำและสามารถตรวจวัดได้ทุกที่ทุกเวลา รู้เท่าทันสุขภาพหัวใจได้จากบนข้อมือ 

โดย HUAWEI WATCH D รุ่นที่วางขายในประเทศไทยสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน ECG ได้แล้วโดยได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตามใบรับแจ้งรายการละเอียดที่ 65-2-2-2-0003968 

 

การตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยแอปพลิเคชัน ECG เป็นแอปพลิเคชันสำหรับนาฬิกา HUAWEI และโทรศัพท์มือถือสามารถบันทึกผล ECG ได้โดยการวัดแบบ single lead โดยแอปพลิเคชันจะรับสัญญาณรูปคลื่นภายใน 30 วินาที และสามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้แบบเรียลไทม์ กำหนดจังหวะไซนัส และความเสี่ยงของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ 

โดยพิจารณาจากรูปคลื่นของคลื่นไฟฟ้าหัวใจในแอป ECG และมีคุณสมบัติแจ้งเตือนความผิดปกติของภาวะหัวใจเบื้องต้น ที่สามารถติดตามและตรวจสอบทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ตวอทช์เพียงเครื่องเดียว

HUAWEI TruSeen™ 5.0

Huawei Watch D รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruSeen™ 5.0 ที่แม่นยำ พร้อมแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี รวมถึงวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หรือค่า SpO2 ระหว่างออกกำลังกายได้อีกด้วย

รองรับการวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจ และค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) อัตโนมัติได้ตลอดวัน โดยมาพร้อมเทคโนโลยี HUAWEI TruSeen™ 5.0 + ที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยโฟโตไดโอด 8 ตัว เพื่อการรับแสงที่มากขึ้น และใช้ฟิล์มแบบ Micro Nano ที่เพื่อช่วยให้แสงส่องผ่านได้ดีขึ้น

สำหรับฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด หรือค่า SpO2 จะช่วยให้ผู้ใช้งานทราบถึงสุขภาพร่างกายในขณะนั้น อีกทั้ง HUAWEI WATCH 3 ยังสามารถวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หรือค่า SpO2 ระหว่างออกกำลังกายได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานรับรู้ถึงรู้สถานะของร่างกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ

วัดอุณหภูมิผิวหนังบริเวณจุดที่สวมใส่พร้อมแจ้งเตือนหากอุณหภูมิร้อนขึ้นหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

HUAWEI Healthy Living Shamrock

ดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอด้วยฟีเจอร์ HUAWEI Healthy Living Shamrock คอยแจ้งเตือนกิจวัตรต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ดื่มน้ำ รับประทานยาตามเวลา นับก้าว หรือเตือนเมื่อนั่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

สำหรับฟีเจอร์ช่วยฝึกการหายใจจะช่วยให้ผู้ใช้งานลองฝึกควบคุมการหายใจของตัวเอง ผ่านฟังก์ชันที่จะช่วยให้จังหวะการหายใจดีขึ้น ลดความดัน และผ่อนคลายจากความเครียดจากการทำงานทั้งวันได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งการหายใจเข้าเป็นการนำเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกายและเข้าไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ที่ช่วยให้การทำงานระหว่างอวัยวะประสานกันได้ดี และออกซิเจนที่เข้าไปนั้นสามารถขจัดของเสียหรือสารพิษที่ตกค้างให้ออกจากร่างกายได้ทางหนึ่งด้วย

โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ HUAWEI TruSleep™  ที่คอยตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะหลับได้ทั้ง 4 ช่วงและนำมาวิเคราะห์คุณภาพการนอนของคุณ อีกทั้งยังสามารถติดตามและวินิจฉัยปัญหาการนอนหลับได้อย่างละเอียด และพร้อมให้คำแนะนำ เพื่อให้ทุกการนอนหลับมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

และ Huawei Watch D ยังรองรับการติดตามความเครียดแบบเรียลไทม์ด้วยฟีเจอร์ HUAWEI TruRelaxTM 6  โดยการวัดค่าจะอ้างอิงจากอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานรักษาสมดุลของระดับความเครียดได้ เมื่อรู้สึกเครียด ก็สามารถผ่อนคลายด้วยแนวทางใหม่ ๆ ในการดูแลความเครียดได้นั่นเอง

Huawei Watch D มอบประสบการณ์ฟิตที่เหนือระดับด้วยโค้ชออกกำลังกายส่วนตัวบนข้อมือ เสมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัวมาเทรนให้ถึงบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโหมดวิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, ปั่นจักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม, ว่ายน้ำในสระ, ว่ายน้ำในพื้นที่เปิด และกระโดดเชือก รวมไปถึงท่าวอร์มอัปและยืดเหยียดกล้ามเนื้ออีกด้วย

และยังสามารถติดตามและเก็บบันทึกสถิติด้านการออกกำลังกายได้อย่างละเอียด กับโหมดออกกำลังกายมากกว่า 70 โหมด ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมและเครื่องออกกำลังกายยอดนิยมอย่าง วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก เครื่องเดินวงรี เครื่องกรรเชียงบก เป็นต้น

ตรวจสอบค่าต่าง ๆ ทางสุขภาพและเก็บบันทึกสถิติการออกกำลังกายผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health

ตอบทุกโจทย์การออกกำลังกายด้วย Huawei Watch D ที่รองรับการระบุตำแหน่งผ่านสัญญาณดาวเทียม 5 ระบบทั่วโลก (GPS, Beidou, GLONASS, GALILEO, QZSS) เพื่อมอบตำแหน่งที่แม่นยำขึ้นและรวดเร็วขึ้น

แบตเตอรี่สุดอึด ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 7 วัน

HUAWEI WATCH D มาพร้อมแบตเตอรี่สุดอึด ความจุ 451mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 7 วันสำหรับการใช้งานทั่วไป สวมใส่ต่อเนื่องได้ยาวๆ โดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ สามารถดูค่าบ่งชี้ทางสุขภาพที่หลากหลายได้แม้ระหว่างการนอนหลับ มอนิเตอร์สุขภาพได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะออกกำลังกาย ประชุมงาน หรือเดินทางท่องเที่ยว และรองรับการชาร์จไร้สาย เพื่อความสะดวกสบายและชีวิตที่คล่องตัว

บทสรุป

นี้คือสมาร์ตวอทช์ระดับflagshipที่มีความเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ และโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งที่มีอยู่ในท้องตลาด ด้วยการรองรับการวัดความดันโลหิตผ่านปั๊มลมกับถุงลมที่มาพร้อมสายรัดข้อมือในตัว อีกทั้งยังสามารถตรวจวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้าด้วยแอป ECG ที่มีความแม่นยำสูง ผ่าน Hardware ระดับเรือธง ส่งผลให้ HUAWEI WATCH D  เป็นสมาร์ตวอทช์ที่ตอบโจทย์สายคนรักสุขภาพและการออกกำลังกายที่ต้องการความคล่องตัวในการพกพา และมาพร้อมฟีเจอร์ระดับโปรได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว 

HUAWEI WATCH D วางจำหน่ายราคา 14,990 บาท พิเศษ! รับทันที HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าในช่วงพรีออเดอร์ ตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2565 ถึง 7 กรกฎาคม 2565 หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน  My HUAWEI และศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

 

 

 

 

 

 

Facebook Comments

Related Posts