Nokia ส่งสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นกลุ่ม C-series ลงตลาดในบ้านเรา โดยมาพร้อมจุดเด่นด้วยหน้าหน้าจอ 6.5” HD+ แบบตัววี พร้อมรองรับ 4G แบบ Dual SIM and Dual Standby ผสานด้วยกล้องหน้า – กล้องหลัง 5MP และแฟลช LED พร้อมโหมด HDR และให้แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh สามารถใช้งานได้นานทั้งวัน อีกทั้งยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ AndroidTM 11 (Go edition) และซีพียู SC9863a Oct-core 1.6Ghz สามารถอัปเดตความปลอดภัยประจำทุก 3 เดือน ตลอด 2 ปี
และเพื่อเป็นไปตามความมุ่งหมายหลักของ HMD Global ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือคุณภาพ เชื่อถือได้ ในราคาที่จับต้องได้ HMD จับมือดีแทค ส่งแคมเปญ “คุ้มแห่งปี ซื้อเลยไม่ต้องรอ!” จัดแพ็คเกจพิเศษราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 199 บาท ตอบโจทย์การใช้จ่ายที่ต้องการความยืดหยุ่น เจาะตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นส่งท้ายปี
สเปคเบื้องต้น Nokia C20
ขนาด | 169.9 x 77.9 x 8.8 มม. |
น้ำหนัก | 191 กรัม |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1600 HD+ V-notch อัตราส่วน: 20:9 |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Unisoc SC9863A (28nm) Octa-core (4×1.6 GHz Cortex-A55 & 4×1.2 GHz Cortex-A55) หน่วยประมวลผลกราฟิก IMG8322 |
RAM | 2GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 32GB |
microSD Card | รองรับได้สูงสุด 256 GB |
ระบบปฏิบัติการ | Android™ 11 (Go Edition) |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 b/g/n บลูทู 4.2 GPS/AGPS Micro USB (USB 2.0) |
กล้องถ่ายภาพ |
กล้องหลัง: 5 ล้านพิกเซล แฟลชหลัง LED |
รองรับระบบ |
รองรับการทำงาน Dual-SIM 2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby
|
แบตเตอรี่ | 3000mAh แบบถอดได้ |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย สีน้ำตาลทอง (Sand) และสีน้ำเงินเข้ม (Dark Blue) |
ราคา | ราคาเปิดตัว 3,290 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งเป็นกล่องกระดาษทรงยาว ด้านหน้าจะโชว์รูปตัวเครื่อง Nokia C20 ขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ที่เห็นได้ชัดสะดุดตา ที่ด้านข้างกล้องพิมพ์บอกถึงการรับประกันการอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นระยะเวลาต่อเนื่องถึง 2 ปี ส่วนด้านหลังจะกำกับด้วยไฮไลท์ที่เป็นฟีเจอร์เด่น ๆ ของ Nokia C20
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง Nokia C20 ในสี Dark Blue ซึ่งได้ติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- อแดปเตอร์ชาร์จ OUTPUT 5V-1A
- สายดาต้าลิงค์แบบ Micro USB
- หูฟังสมอลทอร์ค
- แบตเตอรี่ BL-29CI 2950mAh
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ , ใบรับประกันสินค้า, คู่มือผลิตภัณฑ์และความปลอดภัย
- Soft Case TPU แบบใส
Nokia C20 ชูจุดขายด้วยการออกแบบและคุณภาพงานประกอบมาตรฐานสแกนดิเนเวีย โดยตัวบอดี้จะเป็นแบบถอดประกอบได้ ซึ่งจะเหมือนกับฟีเจอร์โฟนในยุคแรก ๆ นั่นเอง สิ่งที่แตกต่างก็จะเป็นปุ่มนำทางที่ไม่ได้ใช้ระบบ Hardware แต่จะเป็น Software เหมือนสมาร์ตโฟนในยุคนี้ สำหรับด้านหลัง Nokia C20 มีเท็กเจอร์แบบลายเส้นที่มีความโค้งมน ช่วยขับเน้นความเรียบหรูได้ตั้งแต่แรกสัมผัส
หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่เต็มตาขนาด 6.5 นิ้ว บนความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ในอัตราส่วน: 20:9 มาพร้อม V-notch หรือรอยบากในรูปทรงหยดน้ำ
Nokia C20 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล จัดวางอยู่ในเลย์เอาท์ของ V-notch และมีไฟแฟลช LED อยู่ที่มุมขวาของหน้าจอแสดงผล สำหรับลำโพงสนทนาจะวางอยู่ในตำแหน่งของขอบจอ
กล้องหลังให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซลและมีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน 1 ดวง โดยถูกจัดวางบนโมดูลทรงกลม เมื่อมองไปที่กลางฝาหลังจะพบกับโลโก้ Nokia และที่มุมล่างขวาจะเป็นที่อยู่ของลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ที่ด้านล่างจะมีไมค์สนทนาและพอร์ตชาร์จแบบ Micro USB ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ สำหรับฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ ถัดลงมาด้านล่างจะมีร่องบากเพื่อใช้ในการถอดประกอบตัวเครื่อง
Nokia C20 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม และรองรับ Dual SIM and Dual Standby โดยช่องใส่ซิมก็จะเป็นรูปแบบเหมือนฟีเจอร์โฟน ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เปิดถาดซิมนั่นเอง
สำหรับฝั่งซ้ายจะเป็นที่อยู่ของช่องเสียบหน่วยความจำภายนอก microSD Card โดยรองรับได้สูงสุดที่ 256 GB
ฟีเจอร์และการใช้งานเบื้องต้น
Nokia C20 เปิดตัวมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 Go Edition ซึ่งเราจะพบกันได้ในสมาร์ตโฟนที่มีสเปคไม่แรง แต่สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล และเหมาะกับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นตระกูล Go หรือ Lite นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดเด่นด้วยการการันตีการอัปเดตความปลอดภัยทุก 3 เดือน ได้นานถึง 2 ปี
Android 11 Go Edition รองรับแอปพลิเคชั่นพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน ทั้งแอปโซเชี่ยลมีเดีย แอปธนาคาร ฯลฯ
แม้จะปรับแต่งไม่ได้มาก เนื่องจากไม่มีธีมเหมือน Android เวอร์ชั่นปกติเหมือนแบรนด์อื่น ๆ แต่ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดธีมมาติดตั้งได้เองในภายหลัง ส่วนการตั้งค่าพื้นฐานก็จะมีการปรับตั้งค่าในส่วนของวอลเปเปอร์, วิตเจ็ต การเพิ่มไอคอน และการหมุนหน้าจอ
ในด้านการแสดงผล Nokia C20 สามารถปรับตั้งค่าได้ค่อนข้างยืดหยุ่น ทั้งการปรับความสว่างอัตโนมัติ เปิดใช้ธีมมืดเพื่อถนอมสายตา รวมถึงปรับอุณหภูมิของสีหน้าจอเป็นต้น
มาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกในการใช้งาน ด้วยฟังก์ชั่น “ท่าทางสัมผัส” ที่ผสานการทำงานร่วมกับเซนเซอร์ภายในตัวเครื่อง
ในด้านความปลอดภัย Nokia C20 มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยปกป้องการใช้งานในภาพรวมได้อย่างครอบคลุม ทั้งล็อกหน้าจอ ปลดล็อกด้วยใบหน้า การล็อกซิมการ์ด และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้ผู้ใช้งานอุ่นใจและมีความปลอดภัยสูงสุด
ส่วนด้านการจัดสรรพลังงาน Nokia C20 มีโหมดประหยัดพลังงานที่สามารถตั้งค่าได้ค่อนข้างยืดหยุ่น ทั้งการตรวจจับแอปที่ทำให้แบตหมดเร็ว รวมถึงสามารถตั้งค่าเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานแบบอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 15%
มัลติมีเดียและการเล่นเกม
Nokia C20 มีวิทยุ FM มาให้ใช้งานในแบบพื้นฐาน โดยสามารถเปิดฟังผ่านลำโพงได้ (ต้องเสียบหูฟัง) แต่ไม่สามารถบันทึกไว้ฟังแแบออฟไลน์ สำหรับการรับชมวิดีโอ Nokia C20 สามารถรับชมคลิปความละเอียดที่ Full HD ได้ลื่นไหล แม้จะมีการ forward – backward ไปมาในขณะรับชมก็ตาม
ด้วยข้อจำกัดทางด้าน Hardware แน่นอนว่าการเล่นเกมที่ต้องการสเปคแรง ๆ กราฟิกสวย ๆ อาจจะยังไม่ใช่คำตอบสำหรับ Nokia C20 แต่ถ้าเป็นเกมทั่ว ๆ ไป ก็สามารถเล่นได้โดยปรับตั้งค่าการแสดงผลให้เหมาะสม โดยทางทีมงานได้ทดสอบกับเกม Free Fire พบว่าสามารถตั้งค่ากราฟิกได้ในระดับสูง แต่ถ้าจะเล่นให้ไหลลื่นควรเลือกปรับตั้งค่าตามที่ตัวเกมกำหนดให้เป็นค่าเริ่มต้นจะดีที่สุด
ด้านการถ่ายภาพ
ทดสอบการถ่ายภาพจากกล้องหน้า Nokia C20
กล้องหน้าของ Nokia C20 ให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซล ในภาพรวมคุณภาพที่ได้อยู่ในเกณฑ์พอใช้ แต่ก็มีข้อดีคือให้ไฟแฟลชกล้องหน้ามาด้วย จึงช่วยให้การเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น นอกจากนี้ Nokia C20 ยังมีโหมดบิวตี้มาให้ใช้งานด้วย โดยสามารถตั้งค่าโหมดบิวตี้หรือใบหน้าสวยได้ตั้งแต่ 0-10 ระดับ
ทดสอบการถ่ายภาพจากกล้องหลัง Nokia C20
กล้องหลังให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซลเหมือนกล้องหน้า คุณภาพต้องบอกว่าถ้าใช้ถ่ายวิวทิวทัศน์ในสภาพแสงเอาท์ดอร์นั้นถือว่าพอใช้ แต่ถ้าในที่แสงน้อยจะมีปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากไม่มีระบบ Auto Focus มาให้ใช้งานนั่นเอง
บทสรุป
Nokia C20 เป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นในกลุ่ม C-series ที่รองรับการเชื่อมต่อกับครือข่าย 4G โดยมาพร้อมกับจุดเด่นด้วยหน้าจอกว้าง ขนาด 6.5” แบบตัววี HD+ ที่ให้ความคมชัด เหมาะกับการดูหนัง วิดีโอคอลล์ หรือเรียนออนไลน์ได้อย่างลงตัว และด้วยระบบปฏิบัติการ AndroidTM 11 (Go edition) ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง ทำให้ Nokia C20 สามารถใช้งานได้ง่ายและเร็วกว่า อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยกล้องหน้าและกล้องหลัง 5MP ที่มีแฟลช LED มาให้ใช้งานทั้งคู่ทั้งคู่ ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพตอนกลางคืนหรือในที่มีแสงน้อยได้ชัดใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Nokia C20 ยังให้แบตเตอรี่ความจุถึง 3,000 mAh แบบถอดเปลี่ยนได้ จึงช่วยให้ใช้งานได้นานทั้งวัน และที่สำคัญ Nokia C20 ยังมีการจับมือกับดีแทค ในการจัดแพ็กเกจแบบ Exclusive ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและจับจองเป็นเจ้าของ Nokia C20 ได้ง่าย ๆ อีกด้วย
ราคาและช่องทางการจัดจำหน่าย
Nokia C20 เปิดตัวด้วยราคา 3,290 บาท มีสองสีให้เลือกใช้งานได้แก่ สีน้ำตาลทอง (Sand) และสีน้ำเงินเข้ม (Dark Blue) สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และแบบ Exclusive ผ่านทาง dtac โดยมีราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 199 บาท ไปจนถึง 690 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> Nokia C20