รีวิว OPPO A53 เร็วยิ่งขึ้น สนุกยิ่งกว่ากับจอ 90Hz Neo, แบตอึด 5,000mAh และลำโพงคู่สเตอริโอ

โดย K.ibelieveit
0 ความเห็น 5.5K views

OPPO A53 เปิดตัวในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล A Series ที่ยังคงชูจุดเด่นในด้านสเปคครบ สนุกทุกฟังก์ชัน ภายใต้สโลแกน “เร็วยิ่งขึ้น สนุกยิ่งกว่า”

 

โดดเด่นด้วยหน้าจอ 90Hz ดีไซน์กล้องหน้าแบบ Neo แบตเตอรี่สุดอึด 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จไว ให้สนุกได้นานขึ้น รวมไปถึง CPU Snapdragon, ลำโพงคู่สเตอริโอ และกล้องหน้าที่เป็นที่สุดของการเซลฟี่

เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาชมรีวิว OPPO A53 กันเลยครับ

 
 

สเปคเบื้องต้น  OPPO A53

ขนาด 163.9 x 75,1 x 8,4  มิลลิเมตร
น้ำหนัก 186 กรัม
หน้าจอ หน้าจอแสดงผล Neo-Display IPS LCD ความละเอียด HD+ 1600 x 720 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อมอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 120Hz Dual และมีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 89.2%
หน่วยประมวลผล Octa Core ความเร็ว 1.8GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 460 SoC, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610
RAM 4GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 3 ตัว (AI-Powered Triple Camera) พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
– กล้องหลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Color OS 7.2
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB Type-C reversible connector, USB On-The-Go
รองรับระบบ 4G LTE 850/900/1800/2100/2300/2500/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W
ราคา 5,499 บาท

PACKAGING & ACCESSORIES

กล่องแพ็คเกจจิ้งของ OPPO A53 เป็นกล่องกระดาษแข็ง 2 ชั้น โดยชั้นแรกมาพร้อมรูปตัวเครื่องกับชื่อรุ่น โดยมีโลโก้ OPPO อยู่มุมซ้ายด้านบน และขนาดหน่วยความจำ RAM 4GB/64GB อยู่มุมขวา ขณะที่ชั้นที่ 2 เป็นกล่องสีขาว
ด้านหลังกล่องแสดงข้อมูลสเปกเด่น ข้อมูลสินค้า สีเครื่อง เลขอีมี่ หน่วยความจำ และเครือข่ายที่รองรับ

 

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

 
  1. ตัวเครื่อง OPPO A53
  2. อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 18W
  3. สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
  4. เข็มจิ้มสำหรับเปิดถาดซิมการ์ด
  5. เคสซิลิโคนแบบใส
  6. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ / ใบรับประกันสินค้า

รูปลักษณ์ดีไซน์

 

 

ตัวเครื่อง OPPO A53 มาในดีไซน์ขอบโค้งมนแบบ 3 มิติ พร้อมกรอบเคลือบเมทัลลิกสีเงิน ด้วยความบาง 8.4 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 186 กรัม แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh แต่ยังสามารถถือจับใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือเดียว

ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผล Neo-Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 1600 x 720 พิกเซล (269 PPI) ขนาด 6.5 นิ้ว (A-Si) ที่มีขอบหน้าจอแคบลงเหลือเพียง 2.01 มม. ในอัตราส่วน 20:9 และสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 89.2% และเจาะรูสำหรับฝังกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่มุมซ้ายด้านบน
นอกจากนี้ยังมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อมอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 120Hz ที่มอบประสบการณ์การใช้งานเทียบเท่าสมาร์ตโฟนระดับเรือธง รวมถึงรองรับ AI Brightness ระบบปรับแสงอัจฉริยะ ปกป้องดวงตา โดยปรับความสว่างของหน้าจอได้อัตโนมัตติ ตามสภาพแวดล้อม และการใช้งานตามความต้องการ
พลิกมาด้านหลังเครื่องมาในดีไซน์สวยหรู โดยนำเทคนิคการแกะสลักและการเคลือบแบบใหม่มาใช้ทำให้ฝาหลังสะท้อนแสดง และเล่นสีไล่ระดับสายตามากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่โปร่งใสสะท้อนแรงบันดาลใจจากสีและแสง โดยมี 2 สีให้เลือกคือ สีน้ำเงิน Fancy Blue และสีดำ Electric Black ซึ่งสีเป็นที่ทางทีมงานได้มาพรีวิวครับ
โดยมุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว  (AI-Powered Triple Camera) เรียงในแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถัดลงมาตรงกลางมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และมีโลโก้ OPPO อยู่มุมขวาด้านล่าง
 
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่องแบบ microSD Card รองรับสูงสุด 256GB กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่องหรือปุ่มกดใดๆ
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

 

Facebook Comments

Related Posts