รีวิว : OPPO Find X2 5G เรือธงจอดี 120Hz, ชาร์จไวสุด และสเปคแรงจัดเต็มทุกด้าน

โดย K.ibelieveit
0 ความเห็น 1.1K views

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ OPPO Find X2 Series 5G ภาคค่อของ OPPO Find X ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2018 ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้มาเดี่ยวแต่มาเป็นคู่เลยคือ OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G

โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์สุดพรีเมี่ยม นวัตกรรมสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นจอรีเฟรชเรท 120Hz Ultra High Refresh Rate ใช้งานได้อย่างลื่นไหลขึ้น, กล้องหลัง 3 ตัว 48MP คมชัดสูง, รองรับการชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0, ชิปเซ็ทเรือธง Snapdragon 865 และรองรับ 5G เรียกว่าจัดเต็มจริงๆ 

ซึ่งรุ่นที่ทาง IbelieveIT นำมารีวิวให้อ่านกันคือ OPPO Find X2 5G ที่สเปกบางอย่างแตกต่างจาก OPPO Find X2 Pro 5G แต่ความแรงไม่แพ้กัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปติดตามรีวิวกันเลยดีกว่าครับ

 

สเปคเบื้องต้น  OPPO Find X2 5G

ขนาด 164.9 x 74.5 x 8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 196 กรัม (เซรามิก) / 187 กรัม (กระจก)
หน้าจอ Ultra Vision Screen  หน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด QHD+ ระดับ 3K 3168 x 1440 พิกเซล (513 ppi) ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ Ultra-High Refresh Rate 120Hz, 240Hz Touch Sampling Rate 10 Bit color และ 5000000:1 Contrast Ratio, รองรับ HDR10, DCI-P3 100%, อัตราส่วนจอต่อเครื่องที่ 93.1%และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 6
หน่วยประมวลผล Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 865  (7 nm+), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650
RAM 12GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB แบบ UFS 3.0
microSD Card
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera ประกอบด้วยกล้องหลัก Main Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2″, รูรับแสง f/1.7, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony IMX708, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.4″, รูรับแสง f/2.2, 6P lens, เก็บภาพกว้างสุด 120 องศา, กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 5P lens, ซูมแบบไฮบริด 5 เท่า, ซูมแบบดิจิทัล 20 เท่า และ Ultra Night Mode 3.0

กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4,  รองรับ AI Beauty, HDR และ Portrait

ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Color OS 7.1
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.1, NFC, USB Type-C, USB On-The-Go
รองรับระบบ 3G/4G/5G รองรับทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย

OPPO Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G สามารถเข้าถึงเครือข่าย 5G ในประเทศไทยได้เมื่อเครือข่าย 5G เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยจำเป็นต้องอัปเกรดซิมการ์ด และอัปเดตซอฟต์แวร์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละเครือข่าย  โดยอาจมีการคิดค่าธรรมเนียมการในการเปิดใช้บริการ

แบตเตอรี่ 4200mAh พร้อมเทคโนโลยี 65W SuperVOOC 2.0 Flash Charge (สามารถชาร์จ 0-100% ในเวลา 38 นาที)
ราคา  33,990 บาท

PACKAGING & ACCESSORIES

กล่องบรรจุภัณฑ์ของ OPPO Find X2 5G เป็นกล่องที่ต่างกับกล่องรุ่นอื่นๆ ของ OPPO โดยเป็นกล่องกระดาษแข็งสีน้ำเงินเข้มสลับโทนอ่อน พร้อมเล่นลวดลายตารางซึ่งช่วยเพิ่มความเรียบหรูได้เป็นอย่างดี ด้านหน้ากล่องมีการสลักชื่อรุ่น OPPO Find X2 เด่นเป็นประกายสีทอง และมุมขวาด้านบนบอกขนาดหน่วยความจำ RAM 12GB/256GB

ส่วนด้านหลังมีรายละเอียดรหัสรุ่นพร้อมชื่อสี, หน่วยความจำ RAM+ROM, เครือข่ายที่รองรับ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

  1. ตัวเครื่อง OPPO Find X2 5G
  2. อแดปเตอร์ชาร์จ 65 SuperVOOC 2.0
  3. สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
  4. ชุดหูฟังแบบ USB Type-C
  5. เข็มจิ้มสำหรับเปิดถาดซิมการ์ด
  6. เคสซิลิโคนแบบใส
  7. คู่มือการใช้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง OPPO Find X2 5G มีดีไซน์สวยหรูดูพรีเมี่ยม มาพร้อมวัสดุพรีเมี่ยมอย่างเซรามิค ด้วยขนาด 164.9×74.5×8.0 มม. และน้ำหนัก 196 กรัม (สำหรับฝาหลังแบบเซรามิค) และรองรับการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP54 (กันน้ำได้ระดับหนึ่ง เช่น น้ำฝนหรือละอองน้ำในอากาศ แต่ไม่สามารถเอาไปล้างน้ำหรือจุมน้ำได้)

ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Ultra Vision Screen โดยเป็นจอขอบโค้งทั้ง 2 ด้าน ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 3K QHD+ 3168 x 1440 พิกเซล (551 ppi) ประกอบกับอัตรารีเฟรชเรทมากถึง 120Hz Ultra High Refresh Rate ให้คุณใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว และลื่นไหล

หน้าจอของ OPPO Find X2 5G ยังได้รับการรับรองในระดับอุตสาหกรรม โดยได้รับคะแนนเกรด A+ จาก DisplayMate การรับรอง Eye Comfort certification จากTÜV Rheinland และ ได้รับการรับรองมาตรฐาน HDR 10+ ที่สามารถชดเชยความละเอียดของภาพ

พร้อมกับหน้าจอแบบ True Billion Colour Display (10 bit Colour Display) หรือหน้าจอที่สามารถประมวลผลได้มากถึงหนึ่งพันล้านสี ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 6 โดยมีอัตราส่วนจอต่อตัวเครื่องที่ 93.1% และเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่ที่มุมซ้ายด้านบน

พลิกมาด้านหลังเครื่อง ตัวเครื่องที่ได้มารีวิวเป็นสีดำเซรามิค โดยมีแถบคาดสีดำเข้ม พาดบริเวณกล้องถ่ายภาพยาวมาจนถึงด้านล่าง

มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว ความละเอียด 48MP+12MP+13MP พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED วางเรียงในแนวตั้ง

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง

ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง

ด้านท้ายเครื่องตรงกลางมีพอร์ต USB Type-C โดยด้านขวาเป็นช่องลำโพงเสียง ส่วนด้านซ้ายมีช่องใส่ SIM Card ที่รองรับ Nano SIM จำนวน 2 ซิม ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้ และมีไมโครโฟน

คุณสมบัติการใช้งาน

OPPO Find X2 5G รันบนระบบปฎิบัติการ ColorOS 7.1 บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 10 เวอร์ชั่นล่าสุดของ OPPO ที่มีการอัปเดตใหม่ทั้งเรื่องของดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายและสบายตา ใช้งานง่าย รวมไปถึงฟังก์ชั่นใช้งานต่างๆ ระบบความปลอดภัย และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ทำให้การทำงานมีความลื่นไหล และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมี Dark Mode ที่ช่วยถนอมสายตา และประหยัดแบตเตอรี่

ในส่วนของหน้าจอหลักนั้น มีหน้าจอเริ่มต้นให้ใช้ทั้งหมด 2 หน้าหลักด้วยกัน โดยด้านซ้ายเป็นหน้า Smart Assistant หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับใข้งานฟังก์ชั่นด่วนที่ใช้บ่อยโดยการแตะครั้งเดียว และดูข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็วในขั้นตอนเดียว

นอกจากนี้ถ้าแตะที่ด้านบนแล้วลากลงมาจะเป็นหน้าจอแจ้งเตือน Notifications และถ้าเลืjอนจากใต้หน้าจอขึ้นมาเปิดปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต, WiFi รวมทั้งปรับความสว่าง มีฟังก์ชันถนอมสายตา (Eye protection) เป็นต้น และตั้งค่าใช้งานต่างๆ

รวมทั้งสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอได้

OPPO Find X2 5G มีหน้าจอแสดงผลแบบ Ultra Vision Screen ซึ่งเป็นจอคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม โดยมาพร้อมค่า Refresh Rate ที่ 120Hz พร้อมความหนาแน่นของพิกเซล 513ppi, มีค่าความสว่างสูงสุดที่ 1200mit และความสว่างสูงสุดที่ 1200nit รวมถึงค่า Contras Ratio ที่ 5,000,000:1

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงสีสันแบบ 10 Bit (8+2bit) เป็นรุ่นแรกของวงการสมาร์ทโฟน ที่สามารถแสดงสีสันได้มากกว่า 1.07 พันล้านสี มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่มีหน้าจอแบบ 8 bit ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่แสดงสีสันได่เพียง 16 ล้านสีเท่านั้น

และใช้เทคโนโลยี AI Adaptive Eye Protection ที่ช่วยเปลี่ยนสีสัน และความสว่างของหน้าจอให้ผู้ใช้รู้สึกสบายตามากที่สุด ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบันชั้นนำอย่าง TÜV Rheinland

รวมถึงมาพร้อมชิปเซ็ทสำหรับช่วยประมวลผลภาพโดยเฉพาะในชื่อ O1 Ultra Vision Engine โดยชิปรุ่นดังกล่าวจะเข้ามาทำหน้าที่สำคัญ 2 อย่างด้วยกัน ได้แก่ Motion Clear หรือการช่วยเติมเฟรมต่างๆ บนคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ เพื่อช่วยให้วิดีโอเล่นได้ไหลลื่นเหมาะสมกับหน้าจอแสดงผลแบบ 120Hz

และ HDR Video Enhancement สำหรับปรับส่วนมืด-ส่วนสว่าง ของเม็ดสีบนวิดีโอเพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจนกว่าเดิม มาตรฐาน HDR 10+

รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G และ 5G แบบ Dual-Mode และรองรับ Wi-Fi 6 ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้รวดเร็วมากขึ้น ในระยะที่กว้างกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย

โดย OPPO Find X2 5G สามารถเข้าถึงเครือข่าย 5G ในประเทศไทยได้เมื่อเครือข่าย 5G เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยจำเป็นต้องอัปเกรดซิมการ์ด และอัปเดตซอฟต์แวร์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละเครือข่าย โดยอาจมีการคิดค่าธรรมเนียมการในการเปิดใช้บริการ

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังบนหน้าจอแบบออปติคอล Hidden Fingerprint Unlock 3.0 พร้อมพื้นที่การสแกนขนาดใหญ่ขึ้น 10%  โดยตัวเซ็นเซอร์จะอยู่ที่ใต้หน้าจอด้านล่าง รองรับการตั้งค่าได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ โดยก่อนใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือพร้องตั้งรหัสแบบ PIN หรือแบบอื่นๆ ก่อน

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น สามารถใช้งานด้วยการปัดหน้าจอขึ้น เพื่อเรียกการทำงานของกล้องหน้าให้ขึ้นมาปลดล็อค แล้วมองไปที่กล้องหน้าจอก็จะปลดล็อค อาจใช้เวลามากกว่าการสแกนด้วยนิ้วเล็กน้อย

มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos เมื่อผู้ใช้เล่นเกมพร้อมใส่หูฟังแบบครอบหู ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์เอฟเฟกต์เสียงในเกมแบบไร้ทิศทางที่มีความสมจริงมากขึ้น เสมือนเข้าไปอยู่ในเกมนั้นจริงๆ นอกจากนี้ในเรื่องของการฟังคลิปเสียงต่างๆ ก็ดังกระหึ่มชัดเจนไม่แพ้กันอีกด้วย

ประสิทธิภาพ

OPPO Find X2 5G ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa-core (1×2.84 GHz Kryo 585 & 3×2.42 GHz Kryo 585 & 4×1.8 GHz Kryo 585) โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8250 Snapdragon 865 (7 nm+), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650, RAM 12GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 256GB

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV และ PUBG ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ ด้วยฟีเจอร์ 240Hz Touch Smapling Rate ที่ช่วยให้การตอบสนองดีที่จะเป็นประโยชน์ขณะเล่นเกม ทำให้สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Game Assistant ที่ช่วยในเรื่องของภาพให้ออกมาสมจริง พร้อมเพิ่มอรรถรสเวลาเล่นเกม และ Game Space ที่ช่วยปิดกั้นการรบกวนระหว่างการเล่นเกม รวมถึงจีดการเกมต่างๆ ที่ดาวน์โหลดมา และปรับการตั้งค่าของประสิทธิภาพให้เหมาะกับเกมแต่ละประเภทได้

โดยใน Game Space ยังมี Graphics Acceleration สำหรับรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด รวมไปถึง Network Protection สำหรับจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลดอาการแลคขณะเล่นเกมออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ OPPO Find X2 5G ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ OPPO Find X2 5G ผ่านแอป GeekBench

ด้านการถ่ายภาพ

OPPO Find X2 5G  มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual  LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก Main Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2″, รูรับแสง f/1.7, 6 ชิ้นเลนส์
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX706, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.4″, รูรับแสง f/2.2, 6 ชิ้นเลนส์ และเก็บภาพกว้างสุด 120 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 5 ชิ้นเลนส์, ซูมแบบไฮบริด 5 เท่า และดิจิทัล 20 เท่า

โดยหน้าตาอินเทอร์เฟสของแอปพลิเคชั่นกล้องออกแบบให้ใช้งานง่าย สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Protrait, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน, โหมด Slow-motion, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมดสติ๊กเกอร์, ระบบสแกนข้อความ, โหมด Panorama และโหมด Time-Lapse

รวมทั้งสามารถตั้งค่าเปิดปิดไฟแฟลช, เปิดปิดฟังก์ชัน HDR, เปิดปิดโหมด AI เพื่อสีสันสดใส, เลือกฟีลเตอร์ และตั้งค่าใช้งานกล้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกรอบ, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, โหมด 48MP สำหรับถ่ายภาพความละเอียดสูง และการตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มเติม

และยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน AI Scene Recognition สำหรับในการตรวจจับซีนในแต่ละภาพ เพื่อนำไปปรับแต่งให้เหมาะสม ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI)

โหมดปกติ

โหมดปกติ พร้อม Beauty 50%

โหมดปกติ พร้อม Beauty 100%

นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมด HDR  (High Dynamic Range) สำหรับการถ่ายภาพย้อนแสง ที่สามารถตั้งค่าเปิดปิด หรือแบบอัตโนมัติ เพื่อลดแสงสำหรับการถ่ายภาพในพื้นที่มีแสงสว่างมากเกินไป และเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่ที่มีแสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนโหมด AI Beauty สามารถจำแนกและปรับภาพได้อย่างชาญฉลาด โดยใช้ AI มาช่วยประมวลผลฉากหลังให้แยกออกจากบุคคลที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้ภาพถ่ายออกมาดูสวยเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ปรับโทนสีผิวของแต่ละบุคคลได้มากถึง 4 คนในภาพเดียวกันได้อีกด้วย

โหมด Portarit

โหมด Portrait พร้อม Beauty 50%

โหมด Portrait พร้อม Beauty 100%

สำหรับการถ่ายภาพ Portrait หรือบุคคล มาพร้อมโหมด Portrait Bokeh ใหม่ที่สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังก่อนถ่ายได้ง่ายๆ โดยรองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเพียงแค่เอาแบบเข้าฉาก กล้องก็จะจับโฟกัสทันที และปรับภาพละลายหลังตามระดับที่ต้องการได้

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Ultra Night Mode 3.0 ให้ภาพที่สว่างเหมือนกลางวัน โดยกล้องด้านหลังทั้งสามตัวของ OPPO Find X2 5G มีโหมดกลางคืนที่ถ่ายได้ชัดเจนเป็นพิเศษ พร้อมกับมีการปรับปรุงคุณภาพการถ่ายภาพตอนกลางคืนด้วยเลนส์ Telephoto

ในขณะที่การถ่ายภาพมุมกว้างนั้น แน่นอน OPPO Find X2 5G มีเลนส์มุมกว้าง พร้อมโหมด Ultra Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 120 องศา และเก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด และยังใช้กับการถ่ายวิดีโอได้ด้วย ทำใหผู้ใช้สามารถสร้างผลงานวิดีโออันยอดเยี่ยมที่แสดงรายละเอียดมากขึ้นด้วยมุมที่กว้างขึ้นได้

โหมดปกติ 1X

ซูม 2X

ซูม 5X

ซูม 10X

ซูม 20X

OPPO Find X2 5G รองรับการซูมแบบไอบริดได้ 5 เท่า และซูมดิจิทัลได้ไกลถึง 20 เท่า

OPPO Find X2 5G มีฟังก์ชัน Ultra Macro Mode สามารถถ่ายภาพ Macro ได้ใกล้ถึง 3 เซนติเมตร และยังจับทุกรายละเอียดแม้มุมมองเล็กๆเพื่อให้ได้ภาพที่มีสีสวยและคมชัดที่สุด

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ของ OPPO Find X2 5G ฝังบนหน้าจอความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.4 สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน, โหมด Panorama, โหมด  Time-Lapse และโหมดสติ๊กเกอร์ และรองรับฟีเจอร์ Portrait Bokeh และ AI Beauty Mode เหมือนกับกล้องหลัง

รวมทั้งมีโหมด HDR Portrait ที่ช่วยถ่ายเซลฟี่ได้สวยทุกมุมมอง แม้ต้องถ่ายย้อนแสง ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูเป็นธรรมชาติไม่สว่างหรือมืดเกินไป และเห็นท้องฟ้าอย่างชัดเจน

โหมดเซลฟี่

โหมดเซลฟี่ Portrait

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

แบตเตอรี่

OPPO Find X2 5G ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 4,200 mAh  ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน พร้อมเปิดใช้งานในโหมดประหยัดพลังงานอย่าง Smart Power Saver ที่ช่วยจัดการพลังงานให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเมื่อกดใช้งานแถบแบตเตอรี่บนหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน

นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงแบบ 65W SuperVOOC Flash Charge 2.0 (10V/6.5A) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ในเวลา 38 นาที ที่ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จได้เป็นอย่างดี

รวมทั้งมีระบบความปลอดภัยแบบ 5 ขั้นตอน ที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland  ตั้งแต่อุปกรณ์ที่ชาร์จไปจนถึงแบตเตอรี่ที่อยู่ภายในสมาร์ทโฟน สามารถเล่นเกมไปพร้อมกับการชาร์จได้โดยที่ตัวเครื่องไม่ร้อน ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนจะมีความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการชาร์จอีกด้วย

บทสรุป

OPPO Find X2 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงในตระกูล Find X2 Series ที่มีดีไซน์สุดพรีเมียม และเทคโนโลยีสุดล้ำ ด้วยหน้าจอขอบโค้ง Curved AMOLED Ultra Vision Screen ขนาด 6.78 นิ้ว พร้อมความคมชัดสูงระดับ 3K QHD+ โดยมีอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 120Hz รวมทั้งยังรองรับมาตรฐานการแสดงผลสีแบบ True Billion Colour Display (10-bit) ที่แสดงผลสีได้มากถึง 1 พันล้านสีเลยทีเดียว

และยังมาพร้อมเทคโนโลยี 01 Ultra Vision Engine ที่ช่วยให้รับชมภาพและวิดีโอได้คมชัดกว่าเดิม ในระดับ high-frame-rate HDR Masterpieces ซึ่งถือเป็นหน้าจอคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม โดยได้รับคะแนนเกรด A+ จาก DisplayMate รวมถึงใช้วัสดุแบบเซรามิกสวยหรู พร้อมรองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP54

ด้านประสิทธิภาพเรียกว่าจัดเต็ม โดยใช้ชิปเซ็ทเรือธงอย่าง Snapdragon 865 รองรับ 5G ในตัว บวกกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650 ที่ประมวลผลด้านกราฟิกได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 25% และมีประสิทธิภาพโดยรวมแรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนที่ 35% จับคู่กับ RAM 12GB+256GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Color 7.1

ในส่วนการถ่ายภาพก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 พร้อมเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX706 ถ่ายภาพมุมกว้างสุด 120 องศา และเลนส์ซูม Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซูมแบบไฮบริด 5 เท่า และดิจิทัล 20 เท่า ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ฝังบนหน้าจอแบบ In-Display Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุ 4200 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงแบบ 65W SuperVOOC Flash Charge 2.0 (10V/6.5A) โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ในเวลา 38 นาที ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรองรับระบบป้องกันถึง 5 ชั้น ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานขณะชาร์จได้อย่างปลอดภัย และไม่ทำให้ตัวเครื่องร้อนจนน่ากังวล

ทั้งนี้ OPPO Find X2 5G มีให้เลือก 2 สีคือ Black (Ceramic) และ Ocean (Glass) ราคา 33,990 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ  

Facebook Comments

Related Posts