คุณสมบัติการใช้งาน
OPPO Reno8 Z 5G รันบนระบบปฎิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่ได้รับการออกแบบ User Interface ให้สวยงามสบายตา สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้มีความอัจฉริยะมากขึ้น เพื่อมอบความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจหลายอย่าง
Omoji มีองค์ประกอบตกแต่งสุดเก๋มากกว่า 200 รายการสำหรับปรับแต่ง Omoji ในแบบของคุณ โดย Omoji ทุกอันถูกสร้างขึ้นโดยการผสมผสานรูปร่างใบหน้าที่แตกต่างกันมากถึง 50 แบบเข้าด้วยกัน โดยอิงจากจุดที่กล้องตรวจพบบนใบหน้ามากถึง 77 จุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมการสร้างแบบจำลอง และการเรนเดอร์ที่มีความแม่นยำสูงในการสร้างการแสดงอารมณ์บนใบหน้า
นอกจากนี้ใน OPPO Reno8 Z 5G ยังมีการเพิ่มองค์ประกอบตกแต่ง Omoji ใหม่กว่า 20 รายการ เช่น ปลอกคอ หมวก และองค์ประกอบใบหน้าพื้นฐาน ให้คุณแสดงสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองผ่านอวาตาร์ส่วนตัวได้
Wallpaper-based Theming System ด้วยการใช้อัลกอลิธึมการแยกสีขึ้นสูง คุณสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ของโทรศัพท์ทั้งเครื่องในแบบของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือน การตั้งค่า วิดเจ็ต และแอปที่เลือก
ด้วยฟีเจอร์ Wallpaper-based Theming System ให้คุณปรับแต่งโทรศัพท์ตามสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
วิธีใช้งาน
Setting > Personallisations > Wallpapers > Inventive wallpapers
Wi-Fi Nearby Share เพิ่ม Nearby Share ในหน้าการแชร์ QR Code ของรหัสผ่าน Wi-Fi โดยผู้ใช้สามารถแชร์รหัสผ่าน Wi-Fi กับครอบครัวและเพื่อนๆ ผ่านโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย มอบความสะดวกในการสื่อสาร และง่ายต่อการป้อนรหัสผ่านมากขึ้น
ด้วยวิธีนี้ ครอบครัวและเพื่อนๆ จึงสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วโดยการแตะเพียงครั้งเดียว
Air Gestures ด้วยการตรวจจับ AI อัจฉริยะในกล้องหน้า ทำให้ฟีเจอร์ Air Gestures ที่อัปเดตใหม่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานสมาร์ตโฟนที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นบน OPPO Reno8 Z 5G
- การควบคุมการเล่นของ YouTube : ยกฝ่ามือหันไปทางหน้าจอเพื่อเล่น/หยุดวิดีโอโปรดของคุณชั่วคราว
- รับสาย/เปิดเสียง : ปัดขึ้นหรือลงเพื่อรับหรือปิดเสียงสายเรียกเข้า
- ปัดมือเพื่อเลื่อนหน้าจอขึ้นหรือลงในแอปพลิเคชัน : เลื่อนดูแอปโซเชียลยอดนิยม เช่น Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube
นอกจากนี้ สมาร์ตโฟนที่ทำงานบน ColorOS 12.1 ยังได้รับการป้องกันข้อมูลส่วนตัวหลายชั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ รายชื่อ ประวัติการสนทนา ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมผ่านการรับรองโดย ePrivacy และ ISO27001
รองรับ Always-On Display
มาพร้อม Dark Mode สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ และยังทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยลงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ด้วย และที่พิเศษคือ Dark Mode ใน OPPO Reno8 Z 5G มีโทนสีเข้มให้เลือก 3 รูปแบบ คือ โทนเทาๆ, มืด และมืดดำสนิท
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเพียงแค่มองไปที่หน้าจอก็สามารถปลดล็อกได้แล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
รองรับการปลดล็อคหน้าจอ ล็อคแอป และเก็บข้อมูลส่วนตัวด้วยการสแกนลายนิ้วมือ โดยติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอ
รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G แบบ Dual Mode (SA/NSA) และรองรับการใช้ 4G/5G ทั้ง 2 ซิม (Standby บนเครือข่าย 5G ได้ทีละซิมการ์ด) สามารถใช้งานได้ในประเทศไทยได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง โดยรองรับคลื่นความถี่
5G NSA: n77/78/38/40/41/1/3/5/7/8/20/28
5G SA: n77/78/38/40/41/1/3/5/7/8/20/28
ประสิทธิภาพ
OPPO Reno8 Z 5G ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform จับคู่กับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 มอบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการใช้งานแอป การเรนเดอร์กราฟิก การท่องเว็บ และการเล่นวิดีโอที่ลื่นไหลไร้สะดุดโดยใช้พลังงานน้อยลง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ RAM 8GB + ROM 128GB และเมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ RAM Expansion อัจฉริยะ จะสามารถเพิ่ม RAM 8GB ได้โดยการยืม ROM ที่ไม่ได้ใช้สูงสุด 5GB มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหลมากขึ้น
OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อม AI System Booster ซึ่งสามารถลดการใช้หน่วยความจำ และการใช้พลังงานในเบื้องหลังได้อย่างชาญฉลาดเมื่อเปิดใช้งาน ทำให้สมาร์ตโฟนทำงานได้อย่างลื่นไหลตลอดเวลา และยังมีการติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบ 6 ชั้นเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการกระจายความร้อนโดยรวม
OPPO Reno8 Z 5G ยังเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้รับการจัดอันดับในระดับ A จาก TÜV SÜD 36-Month Fluency ซึ่งแสดงถึงประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลในระยะยาวของผู้ใช้ระดับสูงสุด
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ โดยเกม ROV ตั้งค่าเลือกเฟรมเรทระดับสูง ผลปรากฎว่าเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด โดยที่เฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 59-60fps
ขณะที่เกม PUBG Mobile ตั้งค่าปรับความคมชัดระดับ HD และเลือกเฟรมเรทระดับสูง ผลปรากฎว่าสามารถเล่นได้ลื่น ไม่มีสะดุดเช่นเดียวกัน
แบตเตอรี่
OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมการชาร์จไว 33W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,500mAh ได้เต็ม 100% ในเวลาเพียง 63 นาที และในการชาร์จเพียง 5 นาทีสามารถคุยโทรศัพท์จ่อได้ถึง 3.4 ชั่วโมงหรือดูวิดีโอ
รวมถึงฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เช่น Visualized Battery Dashboard และ Power Consumption Notifications ช่วยให้ผู้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้พลังงานในรูปแบบภาพ และสามารถตั้งค่าการประหยัดพลังงานต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
บทสรุป
OPPO Reno8 Z 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล Reno Series ที่สานต่อจุดเด่น “The Portrait Expert” โดยมาพร้อมความสามารถด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรตให้ถ่ายภาพคนได้สวย เป็นธรรมชาติ ผ่านกล้อง 64MP AI Portrait Camera กล้องหลังความละเอียด 64MP และกล้องหน้า 16MP เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait เป็นพิเศษ
โดดเด่นด้วยฟีเจอร์การถ่ายพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพอย่าง AI Portrait Retouching สามารถปรับแต่งโทนสีผิวและแต่งหน้าได้อย่างชาญฉลาด สวยอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ถ่ายพอร์ตเทรตกับดวงไฟโบเก้ในพื้นหลังได้สวยเสมือนถ่ายด้วยกล้อง DSLR และฟีเจอร์ Selfie HDR ถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดแม้ถ่ายในที่ย้อนแสง
ด้านประสิทธิภาพแกร่งด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป และเล่นเกมได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีดีไซน์สวยสะดุดตา ด้วยฝาหลังที่อัปเกรดแบบกระจก anti-glare 0.5 ม.ม. ผสมผสานรวม OPPO Glow อันเป็นเอกลักษณ์ มอบความสวยงามทุกมุมมอง โดยเฉพาะสีใหม่ Dawnlight Gold สีทองประกายรุ้งที่เปลี่ยนสีตามแสงตลอดเวลา และยังรองรับชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC อีกด้วย
ทั้งนี้ OPPO Reno8 Z 5G มีให้เลือก 2 สีคือ สีทอง Dawnlight Gold และสีดำ Starlight Black วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท และราคาเริ่มต้นเพียง 4,990 บาท เท่านั้น เมื่อซื้อผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายที่ร่วมรายการ ตามเเพ็กเกจที่กำหนด
พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 18 สิงหาคม 2565 โดยผู้จองจะได้รับของสมนาคุณมูลค่า 7,499 บาท ประกอบไปด้วย E-VIP CARD มูลค่า 5,000 บาท ลูกค้าจะได้รับการรับประกันจอแตกและรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และ RENO BACKPACK มูลค่า 2,499 บาท และเริ่มจำหน่าย 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3BiW1I6
#OPPOReno8Z5GTH
#ThePortraitExpert
#ถ่ายรูปคนสวยเป็นธรรมชาติ