realme เดินหน้าเปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัว realme 7 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นที่ 3 ต่อจาก realme X50 Pro 5G และ X50 5G ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยมุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยี 5G เพื่อให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ความทรงพลังเร็วแรงของ 5G และกล้าที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและยืนหยัดในการส่งมอบสมาร์ตโฟน 5G ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้
จุดเด่นที่น่าสนใจของ realme 7 5G คือ จอลื่นไหล 6.5 นิ้ว โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, ใช้ชิปเซ็ท Dimensity 800U 5G ที่รองรับ 5G+5G Dual Standby, กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung S5KGM1ST, กล้องหน้า In-Display ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และคุณภาพเสียง Hi-Res และรองรับการชาร์จเร็ว 30W Dart Charge ในราคาประหยัด
อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่า realme 7 5G สมาร์ตโฟน Dual 5G รุ่นแรกในราคาจับต้องได้รุ่นนี้จะปลุกพลังความเร็ว 5G สำหรับทุกคนได้แค่ไหน ไปชมรีวิวเต็มกันเลยครับ
สเปคเบื้องต้น realme 7 5G
ขนาด | 162.2 x 75.1 x 9.1 มม. |
น้ำหนัก | 195 กรัม |
หน้าจอ | 120Hz Ultra Smooth Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (405ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.5% ความสว่าง 480nits พร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U 5G (7 nm) และหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC3 |
RAM | 8GB ชนิด LPDDR4x dual-channel |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB UFS 2.1 |
microSD Card | รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | realme UI v 1.0 based on Android 10 |
เชื่อมต่อ | Wireless network 2.4/5 GHz, 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, GPS/A-GPS, GLONASS, BDS. NFC, USB Type-C 2.0, USB On-The-Go |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera – กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Samsung S5KGM1ST และ รูรับแสง f/1.8 – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8MP, รูรับแสง f/2.3 และ FOV 119 – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 4ซม. และรูรับแสง f/2.4 – กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.1 |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม รองรับ 5G+5G DSDS, รองรับ 12 คลื่นความถี่ 5G ทั่วโลก (n1, n3, n5, n7, n8, n20, n28, n38, n40, n41, n77, n78) รองรับ 2/3/4G GSM 850/900/1800/1900 WCDMA B1/B2/B4/B5/B6/B8/B19 TD-LTE B38/B39/B40/B41 LTE FDD B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28/B66 |
แบตเตอรี่ | 5000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 30W Dart Charge |
สี | Mist Blue และ Flash Silver |
ราคา | 9,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 7 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งในโทนสีเหลือง ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของแบรนดฺ์ realme โดยด้านหน้ากล่องและด้านข้างมีชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน และมุมขวาด้านบนมีข้อความ 5G ที่ตอกย้ำว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ใช้งาน 5G ได้แน่นอน
ด้านหลังกล่องระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกันคือ ชิปเซ็ท Dimensity 800U 5G Chip, หน้าจอแสดงผล 120Hz Ultra Smooth Display, แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับขาร์จเร็ว 30W Dart Charge และกล้องหลัง 4 ตัว AI Quad Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง realme 7 5G ในสี Flash Silver ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 30W Dart Charger
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- เคสพลาสติก TPU แบบใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
ตัวเครื่อง realme 7 5G มาในดีไซน์เรียบหรู มีให้เลือก 2 สีด้วยกันคือ สี Mist Blue ที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพสะท้อนจากธรรมชาติ โดยแบ่งฝาหลังออกเป็น 2 ส่วน พร้อมเอฟเฟกต์แสงสะท้อน เคลือบแบบด้าน AG Split Design ทำให้เกิดมุมมองดีไซน์ดูพรีเมียม กับสี Flash Silver โดยมีการนำโลโก้ realme มาดีไซน์บนฝาหลัง ซึ่งโลโก้ realme เมื่อขยับฝาหลังโลโก้ realme จะมองเห็นเป็นแบบ 3 มิติสวยงาม ซึ่งสีที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือ สี Flash Silver
หน้าจอแสดงผลเป็นจอไร้ขอบ ไร้รอยบาก แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (405ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.5% ความสว่าง 480nits พร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass
มุมซ้ายด้านบนเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่ In-display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ด้านหลังติดตั้งกล้อง 4 ตัว Quad Camera โดยกล้อง 3 ตัวแรกเรียงกันในแนวตั้ง และกล้องตัวที่สี่จะอยู่ด้านขวาของเลนส์กล้องตัวแรก และมีไฟแฟลช LED อยู่ด้านบนข้างเลนส์กล้องตัวที่ 4 ซึ่งกล้อง 4 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Samsung S5KGM1ST และ รูรับแสง f/1.8
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8MP, รูรับแสง f/2.3 และ FOV 119
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 4ซม. และรูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.4
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Hybrid Slot แบ่งเป็นช่องแรกใส่ SIM Card แบบ nanoSIM และช่องที่ 2 ใส่ SIM Card แบบ nanoSIM หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง พร้อมฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่มนี้
ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ฟีเจอร์เด่น realme 7 5G
realme 7 5G มาพร้อมหน้าจอ Ultra Smooth ขนาด 6.5 นิ้ว โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz แสดง 120 ภาพต่อวินาที ซึ่งเป็นอัตรารีเฟรชเรทที่สูงขึ้น 100% เมื่อเทียบกับจอแสดงผล 60Hz ทั่วไป เพื่อประสบการณ์การรับชมและการสัมผัสที่ลื่นไหล และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz ตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดีขึ้นในการเล่นเกม และสามารถเลือกปรับได้อัตโนมัติ หรือตั้งค่าที่รีเฟรชเรท 60Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้
ใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 800U 5G โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 7 นาโนเมตรให้ประสิทธิภาพสูงในขณะที่ยังลดการใช้พลังงาน และมอบประสบการณ์การเล่นเกมลื่นไหลอย่างที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับ ชิปเซ็ต Dimensity 700 เวลาในการเปิดแอพพลิเคชั่นของ ชิปเซ็ต Dimensity 800U มีความเร็วกว่า 1.4 เท่า ประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 11% และ GPU เร็วขึ้น 28%
รองรับ Dual 5G SIM สามารถเชื่อมต่อ 5G ผ่านซิมการ์ดใดก็ได้เพื่อประสบการณ์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง นอกจากนี้ยังรองรับ 5G-CA (2CC 5G Carrier Aggregation) การนำความถี่หลายย่านมารวมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการรับสัญญาณ โดยรองรับ 12 คลื่นความถี่ 5G ทั่วโลก (n1, n3, n5, n7, n8, n20, n28, n38, n40, n41, n77, n78) และยังรองรับคลื่นความถี่ 2G, 3G และ 4G ด้วย
realme 7 5G ใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 65 นาที รวมถึงรองรับการชาร์จ 15W PD ทำให้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น และมีระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 5 ชั้น และรับรองความปลอดภัยในการชาร์จตั้งแต่หัวชาร์จ สายชาร์จ และตัวสมาร์ตโฟน
รวมทั้งมีโหมด Super Power Saving ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อย 6 แอพปลิเคชั่น เพื่อการใช้ได้อย่างต่อเนื่องและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น โดยจากการทดสอบ realme 7 5G เมื่อเปิดใช้งานโหมด Super Power Saving พบว่าแบตเตอรี่เพียง 5% สามารถใช้งาน WhatsApp ได้ 70 นาที หรือฟังเพลง Spotify 5 ชั่วโมง และสามารถสแตนด์บายได้ถึง 30.8 ชั่วโมง