รีวิว realme Watch S Pro สมาร์ทวอทช์ดีไซน์พรีเมี่ยม ฟีเจอร์สุขภาพครบ แบตอึดใช้ได้นาน 2 สัปดาห์ ราคาเพียง 4,999 บาท

อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องแพ็คเกจจิ้งของ realme Watch S Pro เป็นกล่องกระดาษแข็งสีเหลือง รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้ากล่องมาพร้อมรูปของสมาร์ทวอร์ช และชื่อรุ่น realme Watch S Pro

ส่วนด้านหลังกล่องมาพร้อมไอคอนสเปกเด่น realme Watch S Pro โดยมี 6 จุดเด่นด้วยกันได้แก่ ขนาดหน้าจอ, การวัดระดับออกซิเจนในเลือด และวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, รองรับระบบ GPS และ Path Tracking, กันน้ำลึก 50 เมตร, แบตเตอรี่ที่ใช้งานยาวนาน และโหมดกีฬา 15 โหมด พร้อมข้อมูลของผู้ผลิต

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับอุปกรณ์ดังนี้

• ตัวเรือน realme Watch S Pro พร้อมสาย
• แท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก
• คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเรือนของ realme Watch S Pro มาพร้อมหน้าปัดทรงกลม ใช้วัสดุที่ทำมาจากสแตนเลสสตีล SUS316L ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีความทนทาน โดยพื้นผิวถูกขัดเงาที่ด้านหน้า ขัดด้านที่ด้านข้าง และปิดท้ายด้วยการเคลือบแบบ PVD+AF เพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์ภาพระดับพรีเมียม

ส่วนสวยนาฬิกามีให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่ สายทำจากซิลิโคน (สีน้ำเงิน/สีเขียว/สีส้ม), สายทำจากหนังวีแกน (สีน้ำเงิน/สีเขียว/สีน้ำตาล) และสายทำจากแสตนเลสสตีล (สีดำ) ซึ่งทาง ibelieveIT ได้สายซิลิโคน (สีดำ) มารีวิวครับ

หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส ความละเอียด 454 × 454 พิกเซล ขนาด 1.39 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 336 ppi ให้คุณภาพหน้าจอที่สดใสเสมือนจริง รวมถึงให้ความสว่างสูงสุด 450 nits ปรับระดับความสว่างได้ 5 ระดับ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่แสงน้อย กับค่าความคมชัดสูงถึง 100,000:1 ให้ภาพคมชัดระดับพรีเมียมในทุกวัน และครอบทับด้วยกระจกกันรอย 2.5D Corning Gorilla Glass พร้อมกับกรอบทรงกลม ตอบสนองการสัมผัสอย่างลื่นไหล สะดวกสบาย

ด้านขวาข้างตัวเรือน มีปุ่มกด 2 ปุ่มด้วยกัน โดยด้านบนเป็นปุ่มสำหรับเข้าเมนู/ย้อนกลับ ส่วนด้านล่างจะเข้าสู่โหมดการออกกำลังกายต่างๆ ซึ่งทำงานควบคู่กับการสั่งงานผ่านหน้าจอ

ส่วนด้านหลังติดตั้งเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ กับเซ็นเซอร์ SpO2 สำหรับการวัดระดับออกซิเจนในเลือด และมีขั้วแม่เหล็กสำหรับแนบติดกับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 

การเชื่อมต่อ

realme Watch S Pro รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านทางแอปพลิเคชั่น realme Link ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งใน App Store และ Play Store หรือสแกน QR Code บนหน้าจอสมาร์ทวอร์ชแต่ถ้าใช้กับสมาร์ตโฟน realme รุ่นใหม่ก็ไมต้องดาวน์โหลด เพราะติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว

โดยแอป realme Link จะเชื่อมต่อ realme Watch S Pro กับสมาร์ตโฟนเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมด รวมถึงเป็นตัวช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น การเปลี่ยนหน้าปัดในแอปที่มีให้เลือกมากกว่า 100 แบบ หรือจะอัปโหลดรูปจากสมาร์ตโฟนเพื่อตั้งเป็นหน้าปัดบนสมาร์ทวอทช์ก็ทำได้เช่นกัน

เมื่อดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น realme Link เรียบร้อยแล้ว ให้แตะที่ “เพิ่มอุปกรณ์” และผูกข้อมูลนาฬิกาเข้ากับแอป แล้วทำตามคำแนะนำที่อยู่บนหน้าจอ โดยให้ค้างหน้าจอไว้ตรงหน้าจอจับคู่ เพื่อทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนของคุณ อย่าลืมเปิด Bluetooth ที่สมาร์ตโฟนก่อนด้วยนะครับ

สำหรับปุ่มที่อยู่ด้านขวาข้างเครื่อง 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนจะเป็นปุ่มย้อนกลับ เมื่อกดค้างไว้จะเป็นการรีสตาร์ท และปิดตัวเครื่องส่วนป่มด้านล่างจะเป็นปุ่มเข้าโหมดออกกำลังกาย 15 ประเภท ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, เดินกลางแจ้ง, เดินในร่ม, ขี่จักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม, การเดินทางไกลด้วยเท้า, ว่ายน้ำ, บาสเกตบอล, โยคะ, เครื่องออกกำลังกายกรรเชียงบก, เครื่องเดินวงรี, คริกเก็ต, การฝึกความแข็งแรง และ Free workout

ในส่วนของหน้าปัดนาฬิกา เมื่อใช้นิ้วปัดลงมาจะเข้าสู่หน้าจอแจ้งเตือนข้อความที่ได้รับทั้ง SMS, Line, Messenger เป็นต้น

เมื่อใช้นิ้วปัดขึ้นจะเข้าสู่หน้าจอแสดงเมนูการใช้งานต่างๆ ได้แก่ นาฬิกาปลุก, การตั้งค่า, เข็มทิศ, โหมดออกกำลังกาย, สภาพภูมิอากาศ, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การฝึกลมหายใจ, เครื่องเล่นเพลง, วัดระดับออกซิเจนในเลือด, ตรวจสอบประวัติ และประสิทธิภาพการนอนหลับ, นาฬิกาจับเวลา, เครื่องจับเวลา, ค้นหาสมาร์ตโฟน, ควบคุมการถ่ายภาพ และบันทึกการออกกำลังกาย

เมื่อใช้นิ้วปัดไปทางซ้ายจะเข้าสู่หน้าจอแสดงผลการนับก้าวเดิน, แสดงสภาพภูมิอากาศ, แสดงผลการวัดคุณภาพการนอน, แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ, เครื่องเล่นเพลง และหน้าจอการตั้งค่าที่ประกอบด้วยตั้งค่าโหมดประหยัดพลังงาน, เปิดไฟฉาย (ไฟหน้าจอ), ความสว่างหน้าจอ, โหมดห้ามรบกวน, เปิดปิดการแสดงผลหน้าจอเมื่อมอง และเช็คแบตเตอรี่เหลืออยู่

และเมื่อกดค้างบนหน้าปัดจะสามารถเลือกเปลี่ยนหน้าปัดใหม่ที่ต้องการได้ทันที

คุณสมบัติการใช้งาน

realme Watch S Pro มีหน้าปัดนาฬิกาหลากหลายสไตล์ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ โดยผู้ใช้งานและนักออกแบบที่มีชื่อเสียงได้ร่วมมือกันสร้างหน้าปัดที่ทันสมัยขึ้นมาสำหรับ Watch S Pro สามารถเลือกและใช้งานได้ถึง 3 เดือน และยังสามารถเลือกภาพที่อยู่ในแกลอรี่ภาพถ่านมาตั้งเป็นหน้าปัดเองได้

รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยใช้เซ็นเซอร์ PPG ที่มีการอัปเกรดความแม่นยำสูงในตัว สามารวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะได้รับการแจ้งเตือนหากมีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงหรือต่ำเกินไป ช่วยดูแลสุขภาพได้ตลอดวัน ซึ่งหากมีอัตราการเต้นของหัวใจที่ต่ำกว่า หรือสูงกว่าภายใต้สภาวะพิเศษเกินกว่าเกณฑ์ที่ปลอดภัย จะส่งสัญญาณเตือนให้คุณระวังสุขภาพร่างกายอยู่เสมอ

รองรับการตรวจจับระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งออกซิเจนในเลือดนั้นเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญอย่างหนึ่งของสุขภาพร่างกาย หากออกซิเจนในเลือดต่ำเกินไป หมายความว่าเซลล์ในร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอ ซึ่งจะนำไปสู่อาการต่าง ๆ ได้ ตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้ตลอดเวลา โดยมีความแม่นยำค่อนข้างสูงเทียบเท่ากับเครื่องตรวจทางการแพทย์

รองรับโหมดกีฬามากถึง 15 ประเภท ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, เดินกลางแจ้ง, เดินในร่ม, ขี่จักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม, การเดินทางไกลด้วยเท้า, ว่ายน้ำ, บาสเกตบอล, โยคะ, เครื่องออกกำลังกายกรรเชียงบก, เครื่องเดินวงรี, คริกเก็ต, การฝึกความแข็งแรง และ Free workout สามารถระบุได้ว่าคุณกำลังเดินหรือวิ่ง พร้อมระบบอัลกอริธึมการนับก้าวที่แม่นยำทำให้ทุกก้าวมีความหมาย

ด้วยคุณสมบัติกันน้ำระดับ 5ATM ป้องกันแรงดันน้ำที่ 50 เมตร ทำให้โหมดว่ายน้ำสามารถบันทึกข้อมูลการว่ายน้ำของคุณแบบเรียลไทม์ รวมถึงการนับ SWOLF/แคลอรี/ระยะทาง/ประเภท ฯลฯ สามารถบันทึกและแชร์ข้อมูลการว่ายน้ำผ่าน realme Watch S Pro

และในโหมดกีฬานี้จะมีการทำงานร่วมกับระบบ Dual-Satellite GPS ที่มีความแม่นยำสูง พร้อมวัดระยะทางไปในตัว เมื่อออกกำลังกายเสร็จ ก็สามารถซิงค์ข้อมูลกับสมาร์ตโฟนเพื่อดูข้อมูลในได้แอปเลย

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การวัดการนอน ที่สามารถบอกค่าการหลับลึก, การหลับตื้น, การตื่นระหว่างนอน รวมถึง REM ได้ โดยสามารถใส่ตัวนาฬิกานอนไปพร้อม ๆ กัน ไม่ต้องกลัวแบตจะหมด เพราะมันสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 2 สัปดาห์เลย และยังสามารถเช็คดูอัตราการเต้นของหัวใจขณะนอนหลับได้

นอกจากนี้ realme Watch S Pro ยังมีฟังก์ชั่นด้านสุขภาพที่ครอบคลุมมากที่สุด และสามารถใช้งานได้จริง เช่น รายงานการก้าวเดิน การแจ้งเตือนให้ขยับร่างกาย รายงานสถานะการนอนหลับ การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ และโหมดการทำสมาธิเพื่อผ่อนคลาย

รวมทั้งมาพร้อมฟีเจอร์ Always-On Display (AOD) ที่สามารถรับข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟหน้าจอ ช่วยการประหยัดแบตเตอรี่ หากเปิดการใช้งานฟีเจอร์ AOD อยู่ โดยสามารถเลือกเปิดหรือปิดฟังก์ชันนี้เองได้

realme Watch S Pro ยังใช้งานควบคู่กับสมาร์ตโฟน ทั้งสามารถปลดล็อกสมาร์ตโฟนโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้ realme Watch S Pro อย่างรวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น เพราะต้องสวมหน้ากากอนามัยในยุคปัจจุบัน หรือควบคุมการ เปิด/ปิด ปรับระดับเสียงเพลง หรือสลับเพลง บนสมาร์ตโฟนจากระยะไกลได้ อาทิ สั่งหยุดและเล่นเพลงขณะออกกำลังกาย

รวมทั้งยังรองรับการถ่ายรูประยะไกล สามารถถ่ายภาพตัวเองได้แม้อยู่คนเดียว, สามารถปฏิเสธการโทร เมื่อมีการโทรหาสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อไว้ จะแสดงบน realme Watch S Pro พร้อมปุ่มปฏิเสธ สามารถปฏิเสธสายได้ด้วยคลิกเดียว

และเมื่ออัปเดต OTA ในอนาคต realme Watch S Pro จะสามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์ AIoT หลายเครื่องจากระยะไกลเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ realme AIoT โดย realme Watch S Pro เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ศูนย์กลางของระบบ realme AIoT

realme Watch S Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 420mAh ที่ฝังภายในตัวเรือน ด้วยเซ็นเซอร์และโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงทำให้สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วัน หมดกังวลกับการชาร์จนาฬิกาทุกวัน ส่วนการชาร์จสามารถชาร์จผ่านฐานชาร์จแบบแม่เหล็กที่แถมมาในกล่อง โดยชาร์จเต็ม 100 % ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง

บทสรุป

realme Watch S Pro ถือเป็นสมาร์ทวอทช์หนึ่งในผลิตภัณฑ์ AIoT ใหม่ล่าสุดจาก realme ที่ตอบโจทย์สายรักสุขภาพ พร้อมดีโซน์และฟังก์ชั่นการทำงานระดับโปรที่จะช่วยให้ไลฟ์สไตล์ของคุณสมาร์ทยิ่งขึ้น โดยมาในดีไซน์พรีเมี่ยมสวยหรู หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และรองรับฟีเจอร์ Always-On Display

นอกจากเรื่องของดีไซน์แล้ว realme Watch S Pro ยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ติดตามสุขภาพต่างๆ ที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดระดับออกซิเจนในเลือด ติดตามสุขภาพการนอนหลับ และการออกกำลังกานต่างๆ ที่ให้เลือกมากถึง 15 ประเภทอีกด้วย

ทั้งนี้ realme Watch S Pro ราคาเพียง 4,999 บาท พิเศษ! ในวันที่ 11 16 และ 19 กุมภาพันธ์ พบกับ Flash Sale ราคาพิเศษเพียง 3,999 บาท ผ่าน realme Official Store ทาง Lazada, Shopee และ Thisshop เท่านั้น พร้อมวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ