หลังจากส่ง realme 5 / 5 Pro มาเขย่าวงการด้วยสเปคจัดเต็มในราคาสุดคุ้มค่ากันไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือน กย. ที่ผ่านมา ล่าสุด realme พร้อมจัดหนักจัดเต็มอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว realme XT สมาร์ทโฟน 4 กล้องความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซลเป็นรุ่นแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ที่มาพร้อมฟีเจอร์และนวัตกรรมอันล้ำสมัย ทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือภายใต้จอแสดงผล และระบบชาร์จไว VOOC Flash charging 3.0 ผสานดีไซน์อันโดดเด่น Xtreme Design ด้วยการออกแบบฝาหลังแบบ Sparkling Hyperbola บนตัวเครื่องที่บางเฉียบ พร้อมเคาะราคาออกมาได้โดนใจ ส่งผลให้ realme XT เป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้มและมีความโดดเด่นรอบด้านอย่างแท้จริง
สเปคเบื้องต้น realme XT
ขนาด | 158.6*75.3*8.6 มม. |
น้ำหนัก | 183 กรัม |
หน้าจอ | dew drop แบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 91.9% และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและหลัง |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ท Qualcomm SDM712 Snapdragon 712 (10 nm) หน่วยประมวลผล Octa-core (2×2.3 GHz Kryo 360 Gold & 6×1.7 GHz Kryo 360 Silver) หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 616 |
RAM | 8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB |
microSD Card | สูงสุด 256GB |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว AI Quad Camera ประกอบด้วย
กล้องตัวที่หนึ่ง Super Wide เลนส์มุมกว้างพิเศษ 119 องศา ระยะ 13mm ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.25, เซ็นเซอร์ขนาด 1/4″, พิกเซลไซส์ 1.12µm มาพร้อมฟีเจอร์ Chrome Boost, โหมดถ่ายภาพกลางคืน Super Nightscape, โหมดผิวสวย AI Beauty และฟังกัน AI Scene Recognition |
ระบบปฏิบัติการ | Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Color OS 6 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB Type-C, USB On-The-Go |
รองรับระบบ | LTE DATA RATE: 300Mbps/75Mbps HSPA DATA RATE: 42Mbps/11Mbps GSM,WCDMA,LTE FDD ,LTE TDD GSM:GPRS,EDGE;WCDMA:HSDPA,HSUPA,HSPA+;FDD-LTE;TD-LTE ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 4000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ VOOC 3.0 (5V/4A) 20W |
สี/ ราคา | Pearl White, Pearl Blue ราคา 10,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
แพ็กเกจจิ้งยังคงมาในสไตล์ของทางค่าย realme ที่เน้นโทนสีขาวสะอาดตา ด้านหน้ากล่องโชว์ความหล่อเหลาของ realme XT ทั้งด้านหน้าตัวเครื่องและฝาหลัง และตามด้วยจุดเด่นในเรื่องของกล้องหลัง 4 เลนส์ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซลเป็นรุ่นแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมผสานด้วยระบบชาร์จไว VOOC 3.0 ที่นอกจากจะชาร์จไว้สุด ๆ แล้ว ยังมาพร้อมความปลอดภัยที่รัดกุมถึง 3 ชั้น
ส่วนด้านหลังกล่องจะระบุชื่อรุ่น / สี / ขนาดความจุ ROM/RAM และเครือข่ายที่รองรับ
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้า
2. อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
3. เคสซิลิโคนชนิดใส (สีชา)
4. สาย USB Type C + อแดปเตอร์ชารจ์ Output 5V-2A / 5V-4A
รองรับเทคโนโลยีชาร์จไวรุ่นใหม่ล่าสุด VOOC Flash Charge 3.0 ด้วยกำลังไฟ 20W (5V4A) โดยใช้เวลาชาร์จ 30 นาที จะได้แบตเตอรี่ 55% และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยพิเศษมากถึง 3 ชั้น ที่ช่วยป้องกันแบตเตอรี่ร้อน แบตละลาย และแบตระเบิดตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
ยังคงมาพร้อมดีไซส์หน้าจอแบบ Dew drop FullScreen ที่มี Notch ในรูปทรงหยดน้ำที่เล็กลง และขอบจอที่บางเฉียบ แทบจะไร้ขอบเลยก็ว่าได้ ส่งผลให้มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นแบบสัมผัสได้จริง
สำหรับ realme XT เลือกใช้หน้าจอแสดงผลชนิด Super AMOLED ขนาดใหญ่เต็มตา 6.4 นิ้ว บนความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล (FHD+) ในอัตราส่วน 19.5:9 มีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 91.9% และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่อง
ในภาพรวมดีไซน์มีความหรูหราพรีเมี่ยมด้วยกระจกทั้งด้านหน้า/หลัง ตัวเครื่องโค้งมนเพรียวบาง มีน้ำหนักเพียง 184 กรัม อีกทั้งยังออกแบบได้สอดคล้องกับหลัก Ergonomics จึงทำให้การจับถือมีความกระชับ สอดรับเข้ากับสรีระของฝามือได้เป็นอย่างดี
สีได้ทางเว็บได้มารีวิวครั้งนี้คือสี Pearl Blue ที่ต้องบอกเลยว่าสวยสะกดทุกสายตาจริง ๆ
ที่สุดของความลงตัวด้านดีไซน์ ภายใต้แนวคิด Xtreme Design ด้วยการออกแบบฝาหลังแบบ Sparkling Hyperbola บนกระจก 3D Curved Glass ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยการแบ่งสีของตัวเครื่องออกเป็นสองฝั่ง โดยฝั่งหนึ่งใช้โทนสีฟ้า และอีกฝั่งใช้โทนสีน้ำเงินอมม่วง ซึ่งตัวฝาหลังจะสะท้อนแสงออกมาเป็นเส้นโค้งที่มีความอ่อนช้อยสวยงาม และเมื่อเราขยับตัวเครื่องให้แสงตกกระทบฝาหลัง เราจะพบว่าสีสันของตัวฝาหลังมีการไล่เฉดสีออกมาเป็นแบบทูโทนแบบเล่นระดับได้อย่างกลมกลืน ซึ่งถือว่าเป็นดีไซน์ที่แปลกตา และทำให้รู้สึกว่ามองได้นาน ๆ ก็ไม่รู้สึกเบื่อแต่อย่างใด
พาเนลจอ Super AMOLED ให้สีสันสดใส มุมมองกว้าง ในด้าน Respond ก็ลื่นไหลสมูทดีมาก ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ในการปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งการเลือกโทนการแสดงผลในอุณหภูมิสีที่ตอบโจทย์ได้ตรงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน รวมถึงโหมดถนอมสายตา และฟีเจอร์ OSIE ที่ช่วยปรับแต่งให้การแสดงผลมีความสดใสและให้โทนสีที่มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น
กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูง Sony IMX471 มีค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Beauty โดยจัดวางอยู่ภายในพื้นที่รอยบากรูปทรงหยดน้ำ ร่วมกับเซ็นเซอร์วัดแสง ส่วนลำโพงสนทนาถูกวางไว้บนตำแหน่งของขอบจอ จึงทำให้หน้าจอแสดงผลมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วยนั่นเอง
สำหรับกล้องหน้าบน realme XT มีไฮไลท์ที่ AI Beauty แบบล่าสุด รองรับ AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ สามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้ถึง 296 จุด ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมจำแนก เพศ อายุ และสีผิว เพื่อให้ภาพออกมาเหมาะสมเข้ากับบุคคลและเพศของผู้ใช้งาน
ออกแบบเลย์เอาท์ของกล้องหลังในแนวตั้งเหมือนรุ่นพี่ realme 5 / 5 Pro แต่ที่ขับเน้นให้โดดเด่นยิ่งขึ้นก็คือ โลโก้รูปม่านชัตเตอร์ และข้อความ AI CAMERA ที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งช่วยเสริมให้ดูมีความเป็น professional มากยิ่งขึ้น ส่วนในด้าน Hardware กล้องก็จัดเต็มขึ้นกว่าเดิมด้วย ความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Samsung GW sensor แบบ 6 ชิ้นเลนส์ พร้อมเทคโนโลยี Tetra-cell and 3D HDR ในการรวบรวมแสง เพื่อเพิ่มความคมชัดและความสว่างของภาพ ส่งผลให้ภาพคมชัดสดใสมีความเป็นธรรมชาติ
สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว AI Quad Camera บน realme XT ประกอบด้วย
- กล้องตัวที่หนึ่ง Super Wide เลนส์มุมกว้างพิเศษ 119 องศา ระยะ 13mm ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.25, เซ็นเซอร์ขนาด 1/4″, พิกเซลไซส์ 1.12µm
- กล้องตัวที่สอง Main Camera หรือกล้องหลัก ที่ให้ความละเอียสูงถึง 64 ล้านพิกเซล มาพร้อมเซ็นเซอร์ Samsung GW1 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72″, ขนาดพิกเซลไซส์ 0.8μm, ค่ารูรับแสงกว้า f/1.8 และระบบโฟกัส PDAF
- กล้องตัวสาม เลนส์ Depth สำหรับการถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอและสร้างโบโก้ให้กับภาพ โดยมาพร้อมความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 เซ็นเซอร์ขนาด 1/5″, และพิกเซลไซส์ 1.75µm
- กล้องตัวที่สี่ Ultra Macro สำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้ ให้ความละเอียดมาที่ 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 เซ็นเซอร์ขนาด 1/5″, พิกเซลไซส์ 1.75µm สามารถถ่ายวัตถุได้ใกล้สุดถึง 4ซม.
ในภาพรวมยังคงมาพร้อมฟีเจอร์หลักที่เป็นไฮไลท์ อาทิเช่น Chrome Boost, โหมดถ่ายภาพกลางคืน Super Nightscape, โหมดผิวสวย AI Beauty และฟังก์ชั่น AI Scene Recognition
จากนี้มาสำหรวจ Hardware ภายนอกกันต่อ
ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียงอีกด้วย โดยดีไซน์ของด้านบนจะเป็นการเล่นละดับแบบทูโทนเหมือนฝาหลัง
ด้านล่างไล่ระดับแบบทูโทนเหมือนด้านบน โดยมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ไมค์สนทนา, พอร์ตชาร์จ Type-C และลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของปุ่มพาวเวร์ ที่ตัดด้วยสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย realme แถมยังวางตำแหน่งเลย์เอาท์ได้ดีอีกด้วย โดยไม่อยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป ช่วยให้การใช้งานด้วยมือเดียวเป็นไปอย่างราบลื่น
ฝั่งซ้าย ด้านบนจะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ด ถัดลงมาคือปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง
ตัวถาดซิมของ realme XT เป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม พร้อมสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 256GB
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน realme XT
เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของทางค่าย realme ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือภายใต้จอแสดงผล (In-Display Fingerprint Scanner) และถึงแม้จะเป็นรุ่นแรก แต่ตัวเซ็นเซอร์นั้นใช้โมดูลคุณภาพสูงจาก Goodix 3.0 ที่มีความรวมเร็วแม่นยำ สามารถปลดล็อคได้ไวโดยใช้เวลาเพียง 0.34 วินาทีเท่านั้น เรียกว่าแตะปุ๊บปลดล็อคปั๊บ ไม่มีอาการหน่วงให้เห็นแต่อย่างใด และนอกจากนี้ยังมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 5 รูปแบบ ซึ่งช่วยเสริมให้ขณะใช้งานดูมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนระบบ face unlock บน realme XT นั้นก็ให้ความรวดเร็วแม่นยำ ไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ โดยใช้เวลาไม่ถึง 0.50 วินาที และยังทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อย อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
realme XT อัพเกรดหน้าจอแสดงผลด้วยการเลือกใช้พาเนลชนิด Super AMOLED ที่ให้สีสันสว่างสดใส มีความคมชัด สามารถแสดงขอบเขตสีได้สมจริงแม่นยำ มี Respond การตอบสนองที่อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ และมี Software ที่ช่วยปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น รวมถึงมีความปลอยภัยด้วยโหมดถนอมสายตา อีกทั้งยังมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 โดยมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 91.9% โดยมาพร้อม Notch หรือรอยบากในรูปทรงหยดน้ำที่มีขนาดเล็ก เมื่อผสานกับขอบจอที่บางเฉียบ จึงส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ตอบโจทย์คอเกมสายฮาร์ดคอร์ด้วย HyperBoost 2.0 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ FrameBoost และ TouchBoost แบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมอย่างเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ โดยสามารถวิเคราะห์สถานการณ์แบบ real-time และจัดการเฟรทเรทให้อยู่ในค่าที่ดีที่สุด ซึ่งลดอาการแลคหรือกระตุกได้ถึง 73.7%
สำหรับ TouchBoost จะช่วยเพิ่มการตอบสนองหน้าจอสัมผัสได้ดีขึ้น 34.9% และเมื่อเทียบกับ PUBG มีการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ดีกว่าเดิม 21.6% ส่วน FrameBoost จะช่วยลดปัญหาเฟรมเรทตก เมื่อเปรียบเทียบกับการเล่นเกม PUBG เฟรมเรทมีความสเถียรเพิ่มขึ้นถึง 26.8% นอกจากนี้ realme XT ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อน ที่ช่วยให้เครื่องเย็นขึ้น 14% ขณะเล่นเกม ช่วยให้การเล่นเกมได้ยาวนานอย่างต่อเนื่อง
Game Assistant ในขณะเล่นเกม กล่องข้อความจะแจ้งเตือนแบบโปร่งแสง เพื่อทำให้ไม่พลาดในช่วงสำคัญ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานทางลัด เช่นการปิดกั้นการแจ้งเตือน การจับภาพหน้าจอ และการบันทึกหน้าจอเป็นต้น
สำหรับ Game Space “การเร่งความเร็วเกม” ที่ช่วย optimization ให้เล่นเกมได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยจัดการด้านจัดการด้านเครือข่าย เช่นการปฏิเสทสาย จัดการด้านการแจ้งเตือน ล็อคความสว่างเป็นต้น ทำให้การเล่นเกมบน realme XT นั้นเป็นไปอย่างสมูทลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุดติดขัดให้หงุดหงิดใจในขณะเล่นเกม
เทคโนโลยีชาร์จเร็วรุ่นใหม่ล่าสุด VOOC 3.0 เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แรงดันไฟฟ้าต่ำแต่รองรับกำลังไฟฟ้าสูง ด้วยกำลังไฟ 20W (5V4A) โดยได้รับมาตรฐานและการันตีในด้านความปลอดภัย โดนผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสถาบัน TÜV SÜD สำหรับ VOOC 3.0 โดยอัพเกรดด้วยการใช้อัลกอริธึม VFC แบบใหม่ ลดเวลาการชาร์จแบบ trickle-charging ทำให้ฟีเจอร์ชาร์จเร็วเวอร์ชั่นใหม่ VOOC Flash Charge 3.0 นั้นดีกว่าเดิม โดยสามารถชาร์จตั้งแต่ 0-55% ภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI freezer ที่ช่วยลดการใช้พลังงานโดยการจัดสรรการใช้พลังงานของแอพพลิเคชั่น และระบบประหยัดพลังงานหน้าจอที่ช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นถึง 10% และจัดเต็มด้วยระบบการจัดการความร้อน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการกระจายความร้อนให้มีมากกว่าเดิม และเสริมด้วยเจลระบายความร้อนแบบพิเศษ ที่ทำให้สามารถจัดการความร้อนได้ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนเรทราคาเดียวกัน พร้อมทั้ง CPU ที่มีขนาดเพียง 10 nm ทำให้ลดการเกิดความร้อนมากกว่า CPU ขนาด 12 nm พร้อมระบบความปลอดภัยพิเศษที่มากถึง 3 ชั้น ที่ป้องกันแบตเตอรี่ร้อน แบตละลาย และแบตระเบิดตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์
realme XT เปิดตัวมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0.1 เวอร์ชั่นล่าสุด โดยตัว User Interface มาในสไตล์โมเดิร์น พร้อมเน้นประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความสะดวกคล่องตัว
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งในส่วนของเลย์เอาท์หน้าจอหลัก ทั้งรูปแบบคอลัมน์ และหน้า Apps Drawer ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล รวมถึงการปรับแต่งภาพพื้นหลัง และรูปแบบธีมที่สวยงาม ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากแอปพลิเคชัน ร้านขายธีม หรือ Theme Store ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วภายในเครื่อง
ฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรของ realme XT มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูงบนคลื่น 4G มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ในด้านการโทรที่ให้มาก็ถือว่าครบถ้วนและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวัน เช่นฟีเจอร์บล็อคสาย บล็อคข้อความ ได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถบันทึกสายขณะโทรได้โดยตรง ไม่ต้องลงแอปเพิ่มเติมแต่อย่างใด
จอแสดงผลของ realme XT มาพร้อมคุณภาพที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งการแสดงผลเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยถนอมปกป้องดวงตา จึงทำให้มีความปลอดภัยต่อการใช้งานในระยะยาว
ในโหมด Quick gestures หรือโหมดตัวช่วยเพิ่มความสะดวก เป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานมาอย่างยาวนานบนสมาร์ทโฟนของหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็คือการทำงานร่วมกับพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ โดยเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่นการคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียง, วาดบนหน้าเจอเพื่อเปิดแอปฯ / ควบคุมการคอนโทรล Music Player, การจับภาพหน้าจอด้วย 3 นิ้ว, การรับสายอัตโนมัติเมื่อนำโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเป็นต้น
สำหรับปุ่มนำทาง Navigation สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะกับความถนัดของเราได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Full Screen gesture ที่มาพร้อมฟีเจอร์สั่งการง่าย ๆ แต่สามารถใช้งานจอแสดงผลได้แบบเต็ม 100%
ซึ่ง Navigation gestures เป็นฟีเจอร์ที่ใช้การสไลด์นิ้วบนหน้าจอแสดงผลแทนการกดปุ่ม navigation เพื่อให้เป็นการแสดงผลแบบเต็มหน้าจออย่างแท้จริงนั่นเอง
Smart Slider สำหรับเรียกใช้งานคีย์ลัด เช่นการจับภาพ / บันทึกหน้าจอ, การเข้าถึงไฟล์, กล้อง, ข้อความและแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านการสไลด์ที่บริเวณขอบด้านข้างของหน้าจอแสดงผล โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้งและแนวนอน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาเข้ามาอยู่ในแถบ Smart Slider ได้อีกด้วย
แบ่งหน้าต่างเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นไปพร้อม ๆ กัน ได้ง่าย ๆ แค่ลากสาวนิ้วจากล่างขึ้นด้านบนของจอแสดงผล และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว
ในด้านความปลอย realme XT มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยป้องการใช้งานในภาพรวมได้อย่างคลอบคลุม ทั้งข้อมูลส่วนตัว การเข้าถึงแอปพลิเคชั่น พื้นที่สำหรับเด็ก และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมายที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้ผู้ใช้งานอุ่นใจและมีความปลอดภัยสูงสุด
Phone Manager เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการลบไฟล์ขยะและไฟล์แคชของระบบ, การจัดการด้านความปลอดภัยความเป็นส่วนตัว, การสแกนไวรัส และการปกป้องด้านการชำระเงินเป็นต้น ซึ่งแอปฯนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
ปิดท้ายกันไปด้วยการจัดสรรพลังงาน ในภาพรวมต้องบอกว่า realme XT นั้นมีแบตที่อึดอย่างน่าประทับใจ หากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ สามารถใช้งานได้ครบ 1 วันแบบสบาย ๆ
ตรงนี้นอกจากแบตเตอรี่ที่ให้ความจุมาสูงถึง 4,000mAh แล้ว ต้องบอกว่าเทคโนโลยี AI Cooling ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงานหน้าจอ และช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับแบตเตอรี่ จึงทำให้การจัดสรรพลังงานบน realme XT เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ประสิทธิภาพ
realme XT เปิดตัวมาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Snapdragon 712 AIE บนสถาปัตยกรรม 10nm ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ สามารถเทียบเคียงกับ Hexagon 685 DSP ของสมาร์ทโฟนระดับตัวท็อปได้ และเพิ่มพื้นที่การประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย octa-core 10 nm ทำให้แบตเตอรี่ใช้พลังงานได้ยาวนานกว่าเดิม
และเมื่อผสานเข้ากับ RAM ความจุสูงถึง 8GB แบบ LPDDR4X และพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 2.1 ใช้พื้นที่ลดลงถึง 17% ประสิทธิภาพเร็วกว่าเดิม และลดการใช้พลังงานถึง 35% เมื่อเทียบกับ EMMC พร้อมขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก AI Engine consisting จาก Qualcomm® Kryo™ 360 CPU ทำให้ในภาพรวมเรื่องความแรง ความลื่นไหลนั้นหายห่วง สามารถตอบทุกโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือเล่มเกมที่ต้องการประมวลผลหนัก ๆ ก็ตาม
สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ให้มาอย่างครบถ้วนตามเรียกว่าไม่น้อยหน้าสามาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นด้วยซ้ำ ส่วนในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของความเร็วและความแม่นยำ
มัลติมีเดียและความบันเทิง
realme ยังเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้ใช้งานที่ยังชื่นชอบการรับฟังวิทยุ FM จึงไม่แปลกใจที่หลาย ๆ รุ่นยังคงมาพร้อมกับ FM ซึ่งบน realme XT เป็น FM แบบทศนิยมหนึ่งจุด ทีมีภาครับสัญญาณถือว่าคมชัดใช้ได้เลย ส่วนฟีเจอร์อาจจะไม่ได้เยอะมาก โดยจะเน้นไปที่การใช้งานที่เรียบง่ายเป็นหลัก
Music Player บน realme XT มาพร้อมความสามารถที่ครบเครื่อง เรียกว่าไม่แตกต่างจากแอป Music Player ยอดนิยมทั่ว ๆ ไป เช่นการเล่นสุ่ม/เล่นซ้ำ การสร้างเพลย์ลิสต์ ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าเป็นต้น แต่สิ่งที่มีความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือในด้านกำลังขับและเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง อีควอไลเซอร์ได้ยืดหยุ่นตรงกับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การรับชมคอนเทนต์เต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน
สำหรับ Video Player บน realme XT รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
Asphalt 9 เลือกปรับกราฟิคคุณภาพสูง สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการแลคให้หงุดหงิดใจ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับชิปเซ็ตและพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 2.1 รวมถึง RAM ที่จัดเต็มถึง 8GB
ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา เมื่อลองเล่นที่บนเฟรมเรทสูง ก็ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่สมูทลื่นไหล แถมเฟรมเรทไม่ตกอีกด้วย โดยสามารถรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 58- 60fps แบบต่อเนื่อง
สำหรับ PUBG เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องการทรัพยากรขั้นสูง หากต้องการเล่นบนความละเอียดคมชัดระดับ HD พร้อมความลื่นไหล ซึ่งไม่มีปัญหากับ realme XT แต่อย่างใด เพราะสเปคนั้นจัดเต็มอยู่แล้ว เมื่อบวกกับ HyperBoost 2.0 ที่เป็นโหมดการเล่นเกมอันโดดเด่น จึงส่งผลให้ realme XT เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองในการเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมในงบประมาณที่ทุกคนเอื้อมถึง
ทดสอบกล้องหน้า/หลัง
ทางเรียลมีได้เกียรติจาก “แอรอน ฮิวอี้” ช่างภาพชาวอเมริกันและช่างภาพสารคดี National Geographic ที่มีชื่อเสียง มาร่วมทีมในฐานะ Chief Photography Officer ของเรียลมี โดยช่วยพัฒนากล้องให้สามารถถ่ายทอดคุณภาพออกมาได้ดีที่สุดบน realme XT
User Interface หรือหน้าเมนูกล้องออกแบบเน้นที่ความเรียบง่ายสะอาดตา การเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยประกอบไปด้วย การเปิด/ปิดไฟแฟลช, HDR Mode, โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง (Wide-Angle), Dazzle Color Mode, ฟีลเตอร์, และการตั้งค่าหลักของกล้อง
ส่วนกล้องหน้าจะมีไฮไลท์ที่ AI Beauty แบบล่าสุด รองรับ AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ สามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้ถึง 296 จุด ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมจำแนก เพศ อายุ และสีผิว เพื่อให้ภาพออกมาเหมาะสมเข้ากับบุคคลและเพศของผู้ใช้งาน
สำหรับโหมดการถ่ายอื่น ๆ สามารถเรียกใช้งานโดยแตะที่ปุ่มสามขีดที่มุมซ้ายล่าง โดยมีโหมดความละเอียด 64 MP พิเศษ, โหมดทิวศน์กลางคืน, พาโน, ผู้เชี่ยวชาญ, โหมดไทม์แลปส์, สโลว์โมชั่น และมาโครพิเศษ
ทดสอบกล้องหน้า
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty ในภาพรวม เก็บรายละเอียดความคมชัดได้ดี สกินโทนมีความเป็นธรรมชาติ และไวท์บาลานซ์ค่อนข้างแม่นยำ
เมื่อลองเปิดใช้งาน AI Beauty ด้วยความฉลาดของ AI ที่สามารถสามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้ถึง 296 จุด ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมจำแนก เพศ อายุ และสีผิว เพื่อให้ภาพออกมาเหมาะสมเข้ากับบุคคลและเพศของผู้ใช้งาน
ภาพที่ได้ดูสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ ทั้งในส่วนของโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ และเข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ realme XT ยังมาพร้อมกับ AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว โครงสร้างใบหน้าแบบ 3 มิติ เป็นต้น
โดยในรูปนี้ใช้เอฟเฟกต์ ปรับแต่งใบหน้าให้กระจ่างใส และให้ดวงตากลมโตขึ้นแบบ 100% (เพื่อให้เห็นความแตกต่างจากภาพบน) สรุปว่าปรับตั้งค่าได้ยืดหยุ่นมาก ๆ อยากเสริมจุดเด่น กลบจุดด้อยตรงไหน AI Effect บน realme XT นั้นช่วยได้อย่างแน่นอน
AI HDR (ค่าเริ่มต้นจะเปิด AI HDR เป็น Auto ไว้ให้แล้ว)
ประโยชน์ของโหมดนี้ก็คือ เมื่อเราถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างมาก ๆ หรือเมื่อย้อนแสง รวมถึงในที่แสงน้อย ถ้าเปิด HDR จะช่วยในเรื่องการเกลี่ยสภาพแสงโดยรวมและดึงดีเทลของภาพให้กลับมามีความสมดุล
ตัวอย่างภาพด้านซ้ายท้องฟ้าจะสว่างจ้าและรายละเอียดของพื้นหลังบางส่วนหายไป ภาพด้านขวาเมื่อเปิด HDR แล้วจะมีการเกลี่ยแสงที่สมดุล อีกทั้งยังสามารถดึงรายละเอียดของแบ็คกราวด์กลับมาได้อย่างครบถ้วน
โหมด portrait ที่ละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย
และในโหมด portrait ยังสามารถใช้งานร่วม AI Effect ได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถปรับแต่งการเซลฟี่ของเราได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งจะได้ภาพที่มีการละลายฉากหลังผสานเข้ากับเอฟเฟกต์บิวตี้ได้อย่างลงตัว
ในโหมด portrait จะมีฟีเจอร์ Artistic Portrait สามารถเลือกใช้ฟิลเตอร์ 5 รูปแบบ เพื่อปรับแต่งให้โบเก้และสกินโทนของภาพออกมาดูสวยงามและมีเสน่ห์ เช่นโทนภาพแนวเรโท หรือพาสเทลเป็นต้น
ทดสอบกล้องหลัง AI Quad Camera 64 ล้านพิกเซล
กล้องหลังมาพร้อมความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล ที่นอกจากจะให้ความคมชัดได้ดีเยี่ยมแล้วยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่อัดแน่นไม่แพ้กล้องหน้า
มีบิวตี้โหมดมาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้า โดยสามารถเลือกปรับระดับความสวยงามได้ตั้งแต่ 0-100 โดยรูปนี้เปิดใช้งานบิวตี้ที่ระดับ 50
รูปนี้เปิดใช้งานบิวตี้ที่ระดับ 100
โหมด portrait ของกล้องหลัง ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กล้องหน้า ทั้งการละลายฉากหลังและโบเก้ของภาพ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับตัว Hardware ชั้นแยี่ยม โดยกล้องหลัง 4 เลนส์บน realme XT จะมี 1 เลนส์ที่ทำหน้าที่เป็น deep sensor ที่ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอและการสร้างโบเก้ของภาพที่ทำให้เกิดมิติและความสวยงามได้ในสไตล์กล้องมือโปร
มีฟีเจอร์ Artistic Portrait มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าทุกประการ
Normal Mode ที่ระยะปรกติ 1x
Ultra-Wide (มุมกว้างพิเศษ)
2x Optical Zoom
5x Hybrid Zoom
10x Digital Zoom
เก็บความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล
รูปนี้ทดสอบด้วยการ Crop 100% ที่ 2000×1500 พิกเซล ตัวภาพก็ยังสามารถนำมาใช้งานได้ แต่หากเป็นกล้องที่มีความละเอียดต่ำ ก็จะสูญเสียรายละเอียดในภาพรวมออกไป ไม่สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนในภาพตัวอย่างนี้
และอีกหนึ่งประโยชน์ของกล้องที่มีความละเอียดสูง ก็คือสามารถต่อยอดนำภาพไปใช้งานได้ยืดหยุ่น เช่นนำไปอัดขยายได้ภาพที่มีขนาดใหญ่และยังคงความคมชัดไว้ได้นั่นเอง
ภาพมุมกว้าง (Wide-Angle)
Normal Mode ที่ระยะปรกติ 1x
Ultra-Wide (มุมกว้างพิเศษ)
Normal Mode ที่ระยะปรกติ 1x
Ultra-Wide (มุมกว้างพิเศษ)
Normal Mode ที่ระยะปรกติ 1x
Ultra-Wide (มุมกว้างพิเศษ)
เปิดใช้งาน Ultra-Wide ที่มีมุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 119 องศา ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป
Chroma Boost
เป็นโหมดที่ AI engines ระบุฉากเฉพาะ จากนั้นจะใช้อัลกอริธึมของ color-mapping ในระดับพิกเซล ในการคืนค่าสีและความสว่าง เพื่อให้ได้ภาพดูเป็นธรรมชาติ มีสีสันที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ Filter หรือ Vivid mode
โดยโหมด Chroma Boost จะมีประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้ง หรือในที่แสงน้อย สามารถเพิ่มเลเยอร์ของสีให้ภาพแม้ถ่ายในแสงไฟสลัว พร้อมปรับรายละเอียดให้ภาพแม้ในส่วนที่ไม่มีแสง, เพิ่มแสงให้การถ่ายภาพธรรมชาติ อาเช่นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก และคงความธรรมชาติไว้
Night scape
Auto Mode
Night scape
Auto Mode
Night scape
สำหรับ Night scape หรือโหมดกลางคืนบน realme XT จะใช้ความสามารถจาก AI HDR เพื่อทำการลด Noise ลดการสั่นไหว และเพิ่มประสิทธิภาพแบบ low-high และช่วงไดมิกที่กว้างขึ้น เมื่อบวกกับค่ารูรับแสงที่กว้าง f/1.8 จึงทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความสว่างคมชัด โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องแต่อย่างใด
Ultra macro
หนึ่งในไฮไลท์ของกล้องหลัง 4 เลนส์ บน realme XT ก็คือเลนส์มาโคร ที่สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
สรุป realme XT
หากเคยสัมผัสกับความสุดและความคุ้มค่าจาก realme 5 Pro มาก่อน เชื่อว่าทุกคนที่ได้สัมผัสกับ realme XT ก็คงประทับใจยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการอัพเกรดทั้งเรื่องของดีไซน์และวัสดุที่มีความพรีเมี่ยมขึ้น รวมถึงกล้องที่มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซลเป็นรุ่นแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งได้ “แอรอน ฮิวอี้” ช่างภาพชาวอเมริกันและช่างภาพสารคดี National Geographic ที่มีชื่อเสียง มาร่วมทีมในฐานะ Chief Photography Officer ของเรียลมี โดยช่วยพัฒนากล้องให้สามารถถ่ายทอดคุณภาพให้ออกมาได้ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ In-Display Fingerprint Scanner ที่มีความรวดเร็วแม่นยำ สามารถปลดล็อคได้ไวโดยใช้เวลาเพียง 0.34 วินาทีเท่านั้น และหน้าจอแสดงผลที่อัพเกรดจาก realme 5 Pro โดยเลือกใช้พาเนล Super AMOLED ที่ให้สีสันสว่างสดใส มีความคมชัด สามารถแสดงขอบเขตสีได้สมจริงแม่นยำ ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ นั้นจัดเต็มใส่มาให้อย่างครบถ้วย ทั้งชาร์จเร็วรุ่นใหม่ล่าสุด VOOC 3.0 , HyperBoost 2.0 และอื่น ๆ อีกมาก เมื่อรวมกับการเคาะราคาเปิดตัวที่ไม่ได้สูงกว่าคู่แข่ง แต่ให้ความครบครันครบเครื่องมากกว่า ส่งผลให้ realme XT เป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้ม สุดร้อนแรงของชั่วโมงนี้อย่างแท้จริง