Samsung เผยโฉมหูฟังไร้สาย True Wireless ในซีรีส์ Galaxy Buds รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามลงตัวยิ่งขึ้น รวมถึงยังให้ฟีเจอร์มาในแบบจัดเต็ม ทั้งระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ Active Noise Canceling ที่สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ถึง 98 % อีกทั้งยังให้เสียงที่คมชัดใสเคลียร์ มอบคุณภาพเสียงที่สมดุลด้วยลำโพงไดนามิกแบบ 2 ทิศทาง (Woofer + Tweeter) รองรับไฟล์ Hi-Res Audi และผ่านการ certificate คุณภาพเสียงจากค่าย AKG ซึ่งให้เสียงเบสที่ลุ่มลึกทรงพลัง และเสียงแหลมที่คมชัดในระดับสตูดิโอ และนอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่พร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนได้อย่างลงตัว
สเปกเบื้องต้น Galaxy Buds2
- ขนาดหูฟังแต่ละข้าง : 17.0 x 20.9 x 21.1 มม., น้ำหนัก 5.0 กรัม
- ขนาดเคสชาร์จ : 50 x 27.8 x 50.2 มม., น้ำหนัก 41.2 กรัม
- ชิปเซ็ต : BES2500ZP
- ระบบปฏิบัติการ : RTOS
- ลำโพง : Dynamic 2 Way : Woofer & Tweeter
- ไมโครโฟน : 3 Mics + VPU
- เทคโนโลยีเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
- BT Profile : HFP, A2DP, AVRCP
- แบตเตอรี่ : 61 mAh (หูฟัง), 472 mAh (เคสชาร์จ)
- ระยะเวลาการใช้งาน : 5 ชั่วโมง และ 21.5 ชั่วโมงเมื่อเปิดการใช้งาน ANC 7.5 ชั่วโมง และ 29 ชั่วโมงเมื่อปิดการใช้งาน ANC
- เทคโนโลยีและระยะเวลาชาร์จ : 11-hour play time / 5-minute quick charging Qi-certified wireless charging
- เซนเซอร์ : Accelerometer, Gyro, Proximity, Hall, Touch, VPU (Voice Pickup Unit)
- สี: Graphite, White, Olive และ Lavender
- ราคา 3,990 บาท
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวกล่องแพ็กเกจมีขนาดกะทัดรัดและมาในโทนสีขาวสะอาดตา สำหรับด้านหน้าจะแสดงชื่อรุ่นและแบรนด์พร้อมรูปตัวหูฟัง Galaxy Buds2 ที่เห็นได้เด่นชัดสะดุดตา ส่วนด้านหลังจะพิมพ์กำกับไฮไลท์ฟีเจอร์เด่น ๆ ของ Galaxy Buds2 อาทิเช่น คุณภาพเสียงที่คมชัด ใสเคลียร์ด้วยลำโพงแบบ 2 ทาง (Woofer + Tweeter), มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC , สวมใส่สบาย กระชับ เหมาะกับทุกกิจกรรม และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- หูฟังไร้สาย Samsung Galaxy Buds2
- เคสชาร์จ
- จุกหูฟัง Ear tips ขนาดเล็ก, กลาง และใหญ่ (ขนาดกลางติดตั้งอยู่ในตัวหูฟัง)
- สายชาร์จ USB Type-C
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
- ใบรับประกันสินค้า
รูปลักษณ์ดีไซน์/การออกแบบ
ตัวเคสชาร์จมีดีไซน์โค้งมนแบบ 360 องศา โดดเด่นด้วยการเล่นสีแบบทูโทน โดยตัวเคสด้านนอกจะเป็นสีขาว ส่วนด้านในจะเป็นสีเดียวกับตัวหูฟัง เมื่อมองที่ด้านบนของตัวเคสชาร์จจะพบว่ามีโลโก้ Samsung ส่วนด้านหน้าจะมีร่องบากเพื่อให้เปิดใช้งานตัวเคสชาร์จได้อย่างสะดวกคล่องตัว ถัดลงมาจะพบกับไฟแจ้งเตือนสถานะ สำหรับใต้ฐานของตัวเคสชาร์จ จะบอกโมเดลและข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งความจุแบตเตอรี่ และรองรับการชาร์จแบบมีสายและไร้สายเป็นต้น
ตัวเคสชาร์จ Galaxy Buds2 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 472 mAh โดยพอร์ตชาร์จที่ด้านหลังจะเป็นแบบ Type – C ซึ่งเป็นข้อดี เพราะสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับพอร์ต Type -C เป็นมาตรฐานแล้วนั่นเอง
เมื่อแง้มตัวเคสชาร์จออกมาจะพบกับข้อความกำกับ “Sound by AKG” ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของทางค่ายซัมซุงที่มีให้ใช้งานทั้งบนสมาร์ตโฟนและหูฟัง (บางรุ่น)
ส่วนระบบชาร์จจะเป็นแบบ Pogo pin แบบ 2 Dot พร้อมระบบยึดแบบแม่เหล็ก ช่วยให้การชาร์จเป็นไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่น แม้จะชาร์จขณะเดินทางก็ตาม โดยเมื่อทำการชาร์จไฟให้กับตัวกล่องเคสชาร์จ ไฟแจ้งเตือนจะเป็นสีแดงและจะดับไปเองเมื่อชาร์จเต็ม
สำหรับการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตัวหูฟังจะใช้งานได้ราว ๆ 5 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงถึง 21.5 ชั่วโมง (เมื่อเปิดการใช้งานฟีเจอร์ ANC และ 29 ชั่วโมงเมื่อปิดการใช้งาน ANC ) ช่วยให้ฟังการเพลง ดูหนัง เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน 1 วันโดยไม่ต้องชาร์จไฟอย่างแน่นอน
Galaxy Buds2 เป็นหูฟัง TWS แบบอินเอียร์ที่มีขนาดกะทัดรัด อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาเพียง 5 กรัมเท่านั้น และมาพร้อมปลอกหูฟังซิลิโคนที่มอบความนุ่มให้ความยืดหยุ่น สวมใส่กระชับ เบาสบายเป็นพิเศษ โดยมีให้เลือกถึง 3 ขนาด และสามารถตรวจเช็คการสวมใส่ที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานด้วยเมนู “การทดสอบความกระชับของหูฟัง” ในแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable
ด้านการสวมใส่
Galaxy Buds2 ออกแบบดีไซน์ตามหลักศรีระศาสตร์ มอบการสวมใส่ที่กระชับเบาสบายไม่อึดอัด และไม่หลุดร่วงง่าย พร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือจะใส่ออกกำลังกายก็ยังไหว อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์การกันน้ำได้ในระดับ IPX2 ที่สามารถกันน้ำกระเซ็นหรือหยดใส่ตัวผลิตภัณฑ์ จึงไม่มีปัญหาในการสวมใส่เพื่อออกกำลังกายแม้จะโดนเหงื่อตลอดเวลาก็ตาม
ฟีเจอร์ไฮไลท์ Galaxy Buds2
หูฟัง TWS ที่ให้เสียงระดับ World Class
Galaxy Buds2 แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ก็ให้เสียงที่คมชัดใสเคลียร์ มอบคุณภาพเสียงที่สมดุลด้วยลำโพงไดนามิกแบบ 2 ทิศทาง (Woofer + Tweeter) รองรับไฟล์ Hi-Res Audio พร้อมผ่านการ certificate คุณภาพเสียจากค่าย AKG ซึ่งให้เสียงเบสที่ลุ่มลึกทรงพลัง และเสียงแหลมที่คมชัด พร้อมมอบคุณภาพเสียงในระดับสตูดิโอให้แก่ผู้ใช้งาน ในราคาที่เข้าถึงได้
นอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมาพร้อมไมโครโฟนถึง 3 ตัว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี VPU (Voice Pickup Unit) สามารถตรวจจับเสียงพูดในตัว ช่วยให้ผู้ใช้งานคุยสายได้ด้วยเสียงที่คมชัดกว่าเดิม ในขณะที่โซลูชันแบบ Machine learning จะช่วยกรองเสียงที่ไม่ต้องการออกไปเพื่อให้การสนทนา แลกเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ กับครอบครัวและเพื่อน ๆ ได้ดียิ่งขึ้นผ่านดีไซน์ที่แทบจะไม่มีส่วนยื่นออกมา จึงช่วยลดการกระทบกับลมเพื่อทำให้การคุยสายขณะอยู่ข้างนอกนั้นมีความคมชัดขึ้นได้อีกทางหนึ่งด้วย
ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ ANC
Galaxy Buds2 มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Canceling ที่สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกออกได้มากถึง 98% ซึ่งรับรองโดย UL Verification และยังสามารถสลับไปใช้งานโหมด Ambient Sound เพื่อเปิดรับเสียงจากภายนอก ที่ปรับระดับได้อย่างง่ายดายถึง 3 ระดับ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินบนท้องถนน, การใช้งานในขณะออกกำลังกาย, การคุยสาย หรือการสื่อสารกับบุคคลรอบข้างเป็นต้น
การควบคุมการใช้งานผ่านระบบสัมผัสบนตัวหูฟัง
Galaxy Buds2 รองรับการควบคุมผ่านระบบสัมผัสบนตัวหูฟัง โดยมีรายละเอียดดังนี้
การเล่นเพลง
แตะ 1 ครั้ง เล่นเพลง/หยุดเพลง
แตะ 2 ครั้ง เล่นเพลงถัดไป
แตะ 3 ครั้ง เล่นเพลงก่อนหน้านั้น
การใช้งานด้านโทรศัพท์
แตะ 2 ครั้ง
สายเรียกเข้า: รับสาย
ระหว่างการโทร: วางสาย
สายเรียกเข้าที่ 2: พักสายปัจจุบันและรับสายเรียกเข้าใหม่
การโทรหลายสาย: พักสายปัจจุบัน & เปิดใช้งานสายที่ถือไว้
แตะค้างที่หูฟัง
แตะค้างที่หูฟัง 1 วินาที
เปิดใช้งานฟังก์ชัน Active Noise Canceling / Ambient Sound
โทรกลับ สายเรียกเข้า / สายเรียกเข้าที่ 2
ปฏิเสธสาย / ปฏิเสธสายที่ 2
(ในขณะที่เอียร์บัดทั้งสองข้างอยู่ในเคสเพื่อเข้าสู่โหมดจับคู่)
การเชื่อมต่อ
Galaxy Buds2 รองรับการใช้งานได้ทั้งบน ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
โดยถ้าเป็นการเชื่อมต่อผ่าน ระบบปฏิบัติการ iOS ให้ผู้ใช้งานเปิดเคสชาร์จ Galaxy Buds2 และเข้าไปที่การตั้งค่าบลูทูธใน iOS เพื่อทำการเชื่อมต่อได้เลย
ส่วนถ้าเป็นระบบปฏิบัติการ Android ให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน galaxy wearable และ Galaxy Bud2 Plugin เพื่อการเชื่อมต่อและใช้งานที่มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
ตัวแอป galaxy wearable จะช่วยให้การใช้งาน Galaxy Buds2 มีความสะดวกคล่องตัวยิ่งขึ้น โดยสามารถดูสถานะแบตเตอรี่ของตัวหูฟัง เข้าถึงการตั้งค่าและฟีเจอร์ต่าง ๆ อาทิเช่น เปิด/ปิด Active Noise Canceling, Ambient Sound, ความคุมการแตะ, อีควอไลเซอร์, อัปเดตเฟิร์มแวร์, ค้นหาหูฟังเป็นต้น
ใช้งานด้านโทรศัพท์
Galaxy Buds2 ในด้านการใช้งานจริง พบว่าการคุยสายให้ความชัดเจนที่น่าประทับใจมาก ๆ ด้วยไมโครโฟนถึง 3 ตัว พร้อมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี VPU (Voice Pickup Unit) ที่สามารถตรวจจับเสียงพูดในตัว ช่วยให้ผู้ใช้งานคุยสายได้ด้วยเสียงที่คมชัดกว่าเดิม และยังมีโซลูชันแบบ Machine learning ที่สามารถเรียนรู้และจดจำ เพื่อเลือกกันเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้การคุยสายมีความชัดเจน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน มาก ๆ ก็ตาม
ด้านการฟังเพลง
คาแรคเตอร์เสียง Galaxy Buds2 ในภาพรวมทำได้ดี ต้องบอกว่าเป็นหูฟัง ที่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่เก็บรายละเอียดได้ระดับมืออาชีพ ด้วยลำโพงแบบ 2 ทาง (Woofer + Tweeter)
สำหรับย่านเสียงต่ำ ทดสอบด้วยเพลง Boom Boom Pow ของ The Black Eyed Peas สัมผัสได้ถึงมวลเบสที่มีพลัง โดยเป็นเบสที่ลงได้ค่อนข้างลึก มีอิมแพคที่ดี เก็บตัวกระชับ เหมาะกับการฟังเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานได้อย่างลงตัว
เมื่อลองทดสอบย่านเสียงกลางด้วยเพลง Ready for the Times to get better เวอร์ชัน Crystal Gayle (Hi-Res Audio) พบว่าเสียงกลางมีความคม และหวานอิ่มแน่น หัวโน๊ตมีความคมชัด โดยเพลงที่เน้น Voice ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง
ส่วนย่านเสียงสูง ทดสอบด้วยเพลง Sweet Talks in The Dream (Hi-Res Audio) ที่ขับร้องโดย Tong Li ในเพลงนี้จะมีทั้งเครื่องสาย และเสียงนักร้องที่มีปลายเสียงสูง พบว่าปลายเสียงสูงให้ความใส ปลายเสียงทอดได้ยาว แถมไม่แหลมบาดหู สามารถฟังนาน ๆ ได้โดยไม่รู้สึกล้าหูแต่อย่างใด
สรุปในภาพรวม Galaxy Buds2 จูนเสียงออกมาได้ค่อนข้างดี โดยเสียงเบสมีความโดดเด่น ส่งผลให้ฟังเพลงแนวสนุกสนานและเพลงทั่ว ๆ ไปได้อย่างลงตัว
ด้านการรับชมวิดีโอ
Galaxy Buds2 ตอบโจทย์ด้านการรับชมวิดีโอได้เป็นอย่างดี โดยการทดสอบครั้งนี้ เป็นการรับชมภาพยนตร์ Mad Max ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล “Best Sound Editing and Best Sound Mixing” ในงาน Academy Award ปี 2016 ทำให้สามารถทดสอบคุณภาพหูฟังได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของการถ่ายทอดเอฟเฟกต์ การแยกทิศทางเสียง ความคมชัดของเสียงพูด และดนตรีประกอบในภาพยนตร์ ทำให้การรับชมภาพยนตร์ผ่านทาง Galaxy Buds2 นั้นครบทุกอรรถรส และไม่พบอาการดีเลย์ให้หงุดหงิดใจ
ด้านการเล่นเกม
ปิดท้ายกันไปด้วยส่วนการทดสอบเล่นเกม โดยทดสอบบนเกม ROV, PUBG, Asphalt 9 ไม่เจออาการดีเลย์ (ทดสอบร่วมกับดีไวซ์ที่รองรับ Bluetooth® 5.2) และพบว่าการถ่ายทอดเสียง เอฟเฟกต์ต่าง ๆ นั้นให้ความสมจริง แยกมิติซ้ายขวาได้ค่อนข้างดี ส่วนเสียงต่าง ๆ ภายในเกมมีความคมชัด ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาภายในเกม เสียงลม เสียงจากการเดิน การยิงปืนเป็นต้น
บทสรุป
นี่คือหูฟัง TWS ที่ซัมซุงเคลมว่ามีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่ซัมซุงเคยมีมา ซึ่งภาพรวมให้การสวมใส่ที่กระชับ ไม่หลุดร่วงง่าย พร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป รวมถึงสวมใส่ออกกำลังกาย ส่วนในด้านฟีเจอร์ และคุณภาพเสียงก็ถือว่าจัดเต็มไม่น้อยหน้าแบรนด์อื่น โดยมาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ และรองรับไฟล์เสียงระดับ Hi-Res Audio ที่ผ่านการ certificate คุณภาพเสียจากค่าย AKG ซึ่งให้เสียงเบสที่ลุ่มลึกทรงพลังและเสียงแหลมที่คมชัด สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ส่วนสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ ถ้าใช้งานร่วมกับระบบ iOS อาจจะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะไม่มีแอปพลิเคชันรองรับนั่นเอง
ราคาและการวางจำหน่าย
ทั้งนี้ Galaxy Buds2 มาพร้อมตัวเลือก 3 สี ได้แก่ Olive, Graphite และ Lavender วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 3,990 บาท ทาง Samsung Experience Store, samsung.com และร้านค้าที่ร่วมรายการ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3mEiibG
ดีลพิเศษ! ซื้อ Galaxy Buds2 ในราคาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 998 บาท กับโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 4 เดือน เฉพาะที่ samsung.com