เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทางทีมงานได้รีวิว Sony SRS-NB10 ลำโพงคล้องคอดีไซน์สุดคูล ที่มาพร้อมฟีเจอร์โดดเด่น ตอบโจทย์ช่วง WFH ได้อย่างลงตัว ล่าสุดทางทีมงานได้รับหูฟัง True Wireless ดีไซน์โดนัทที่ถือว่าฉีกแนวไปจากหูฟัง True Wireless ทั่ว ๆ ไปในท้องตลาด โดย Sony LinkBuds มาพร้อมคอนเซปต์ Never off ที่สวมใส่ได้สบายตลอด 24 ชั่วโมง และยังมาพร้อมฟีเจอร์เด็ด ๆ อีกมากมาย สำหรับความน่าสนใจของหูฟังดีไซน์โดนัทรุ่นนี้ จะตอบโจทย์โดนใจคนที่ชื่นชอบหูฟัง TWS ได้ดีขนาดไหน มาติดตามรับชมรีวิวไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
สเปคเบื้องต้น Sony LinkBuds
- เคสชาร์จ ขนาด 41.4 x 48.5 x 30.9 มม.
- น้ำหนัก 34 กรัม หูฟังประมาณ 4.1 กรัม x 2
- หูฟังแบบเปิด, ไดนามิก แม่เหล็กนีโอดิเมียมพลังสูง 20Hz-20,000Hz (การสุ่มตัวอย่าง 44.1kHz)
- Bluetooth : เวอร์ชัน 5.2 รองรับโปรไฟล์ A2DP, AVRCP, HFP, HSP
- รองรับการถอดรหัสเสียง SBC, AAC
- รองรับฟีเจอร์ HANDS-FREE
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 5.5 ชั่วโมง
- พอร์ตชาร์ตชนิด USB-C
- รองรับชาร์จเร็ว เพียง 10 นาที สามารถเล่นเพลงได้นานถึง 90 นาที
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IPX4
- มี2 สีให้เลือกใช้งาน ได้แก่ สีดำและสีขาว
- ราคาเปิดตัว 6,990 บาท
Unboxing แกะกล่อง Sony LinkBuds
แพ็กเกจจิ้งของ Sony LinkBuds เป็นกล่องกระดาษมาในโทษสีขาวขนาดกะทัดรัด โดยด้านหน้ากล่องจะโชว์รูปตัวหูฟังพร้อมชื่อแบรนด์ / รุ่น ที่ด้านหลังและด้านข้างกล่องมาพร้อมรายละเอียดชื่อรุ่น, สี, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลของผู้ผลิต รวมถึงรายละเอียดในการลงทะเบียนรับประกันสินค้า นอกจากนี้ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Sony LinkBuds จะไม่มีส่วนประกอบที่เป็นพลาสติก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Sony ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- หูฟังไร้สาย Sony LinkBuds
- เคสชาร์จ
- ear wing 4 ขนาด XS, S, L, XL
- สายชาร์จ USB Type-C
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, ใบรับประกันสินค้า, โค้ดในการใช้งาน 360 REALITY AUDIO เพื่อทดลองใช้งานฟรี
รูปลักษณ์ดีไซน์/การออกแบบ
นอกจากตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Sony LinkBuds จะไม่มีส่วนประกอบที่เป็นพลาสติก ตัวเคสชาร์จและหูฟัง ยังผลิตจากวัสดุพลาสติกรีไซเคิลจากชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของการมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
Sony LinkBuds มาพร้อมดีไซน์มินิมอล ซึ่งเมื่อเทียบกับเคสชาร์จหูฟัง TWS ในท้องตลาด ตัวเคส Sony LinkBuds ถือว่ามีขนาดกะทัดรัดกว่าอยู่พอสมควร ทั้งนี้ Sony LinkBuds มีให้เลือกใช้งาน 2 สี ได้แก่สีขาวและเทาดำ โดยด้านบนของตัวเคสชาร์จจะมีโลโก้ Sony ส่วนด้านล่างจะบอก OUTPUT – INPUT ของตัวแบตเตอรี่ , ชื่อโมเดลและประเทศที่ผลิต
สำหรับด้านหน้าจะมีปุ่มกดพร้อมร่องบากเพื่อเปิดฝากล่อง ส่วนด้านหลังจะเป็นพอร์ตชาร์จแบบ Type- C และปุ่ม Pairing
ด้านในตัวกล่องชาร์จจะมีไฟแจ้งเตือนสถานะในการชาร์จและเชื่อมต่อ และที่ด้านในจะเป็นหน้าสัมผัส (Pogo pin) สำหรับชาร์จไฟกับตัวเคสชาร์จพร้อมกับแบ่งสีสัญลักษณ์ L และ R คนละสี เพื่อให้การวางชาร์จและใช้งานได้สะดวกคล่องตัวนั่นเอง
Sony LinkBuds เป็นหูฟัง TWS ที่ออกแบบได้โดดเด่นสะดุดตา ด้วยดีไซน์รูปทรงโดนัท ที่ไม่ใช่ Earbud หรือ In-Ear แต่นี่คือหูฟังแบบ Open Ear ที่สามารถเปิดเสียงจากภายนอกให้เข้ามาได้ตลอดเวลา ผ่านทางไดรเวอร์ยูนิตแบบวงแหวนที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยตรงกลางจะมีช่องที่ออกแบบให้อากาศไหลเวียนเข้าสู่หูของผู้ฟัง ส่วนวงกลมอีกก้อนก็จะแยกเป็นพื้นที่ของชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ สำหรับยางที่เราเห็นจะเป็น ear wing หรือตัวยึดหูฟังเข้ากับใบหู ที่ช่วยให้การสวมใส่มีความกระชับเข้ากับรูปทรงใบหูของผู้สวมใส่ ซึ่งมีให้เลือกใช้งานถึง 4 ขนาด จึงตอบโจทย์การสวมใส่ได้ทั้งผู้มีใบหูขนาดใหญ่หรือเล็ก
แบตเตอรี่
Sony LinkBuds สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเต็มวันถึง 5.5 ชั่วโมง รวมถึงตัวเคสชาร์จอีก 12 ชั่วโมง ส่งผลให้ฟังเพลงได้ยาวนาน 17.5 ชั่วโมงเต็ม นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จอย่างรวดเร็วเพียง 10 นาที สามารถเล่นเพลงได้นานถึง 90 นาที และแอป Sony | Headphones Connect จะแจ้งให้ทราบเมื่อกล่องชาร์จมีแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่า 30%
ด้านการเชื่อมต่อ
การใช้งานหูฟัง Sony LinkBuds ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้ใช้งานควรดาวน์โหลดแอปฯ Sony | Headphones Connect มาติดตั้งใช้งานร่วมกัน โดยแอปฯ Sony | Headphones Connect รองรับทั้งบน iOS และ Android และอีกหนึ่งจุดเด่นของ Sony LinkBuds ก็คือมาพร้อม Bluetooth 5.2 ที่รองรับการเชื่อมต่อหูฟังทั้ง 2 ข้างเข้ากับสมาร์ตโฟนโดยตรง ซึ่งจะให้ความเสถียรและเชื่อมต่อได้เร็วกว่าแบบเชื่อมต่อหนึ่งข้างกับสมาร์ตโฟน แล้วให้หูฟังเชื่อมต่อกันเอง อีกทั้งยังส่งผลให้มีความหน่วงของเสียงที่ต่ำ ช่วยให้การฟังเพลงได้เต็มอรรถรสยิ่งขึ้น
Sony LinkBuds รองรับฟีเจอร์ Fast Pair ทำให้การจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android™ เป็นเรื่องง่าย เพียงแตะคำแนะนำป๊อปอัพแบบครั้งเดียว ก็จะทำให้ Sony LinkBuds จับคู่ Bluetooth® กับอุปกรณ์ Android™ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และสามารถค้นหาตำแหน่งที่วางหูฟังไว้ได้อย่างง่ายดายโดยการเปิดเสียงเรียกเข้าหรือตรวจสอบตำแหน่งที่ทราบล่าสุดในสมาร์ตโฟนของผู้ใช้งาน
เชื่อมต่อ PC ได้ง่ายดายด้วย Swift Pair
Swift Pair ทำให้การจับคู่หูฟัง Sony LinkBuds กับคอมพิวเตอร์ Windows 10 รวดเร็วและง่ายดายผ่าน Bluetooth® คำแนะนำการจับคู่ป๊อปอัพจะปรากฏบนอุปกรณ์ Windows 10 ที่อยู่ใกล้เคียงเมื่อเลือกโหมดการจับคู่
ด้านการสวมใส่
LinkBuds มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา โดยออกแบบดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์ มอบการสวมใส่ที่กระชับเบาสบายไม่อึดอัด และไม่หลุดร่วงง่าย พร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือจะใส่ออกกำลังกายก็ยังไหว อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์การกันน้ำได้ในระดับ IPX4 ที่สามารถป้องกันละอองน้ำจากเหงื่อ หรือฝน จากทุกทิศทางได้ ซึ่งใส่ลุยฝนปรอย ๆ ได้สบาย แต่ไม่แนะนำให้เอาไปจุ่มน้ำ เพราะยังไม่รองรับถึงขั้นนั้น
ในด้านการควบคุม Sony LinkBuds รองรับการแตะที่ด้านบนของตัวหูฟัง เพื่อสั่งการได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพลง/หยุดเพลง เพิ่ม/ลดระดับเสียง เลือกเพลงหรือเรียกใช้งานผู้ช่วยดิจิตอล ทั้ง Siri , Google Assistant และ Amazon Alexa โดยสามารถแยกการตั้งค่าของหูฟังทั้งสองข้างได้อย่างอิสระผ่านทางตัวแอป Sony | Headphones Connect
นอกจากนี้ Sony LinkBuds ยังมาพร้อม Wide Area Tap โดยแตะไปที่ด้านหน้าของใบหู ซึ่งใช้หลักการสั่นสะเทือนไปยังหูฟัง เพื่อใช้งานคอนโทรลเหมือนกับการแตะที่ตัวหูฟังโดยตรงนั่นเอง
ฟีเจอร์และคุณภาพเสียง
ในหน้าแรกของตัวแอปฯ (Status) จะแจ้งสถานะการเชื่อมต่อ ผ่านระบบ AAC/ DSEE ระดับแบตเตอรี่ทั้ง 2 ข้างของหูฟังและเคสชาร์จ ส่วนด้านล่างจะแสดงเพลงที่กำลังเล่นอยู่ ณ ปัจจุบัน ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถแตะที่ปุ่มสามขีดตรงมุมขวาบน เพื่อเข้าถึงเมนูต่าง ๆ รวมถึงสามารถสั่งปิดตัวหูฟังผ่านไอคอนที่ด้านบนได้อีกด้วย
ในหน้า Sound จะมีฟีเจอร์ Speak-to-Chat ที่จะช่วยให้ไม่พลาดการสื่อสารกับคนรอบข้าง เมื่อเริ่มการสนทนาในขณะที่กำลังฟังเพลง หูฟังจะหยุดเล่นเพลงอัตโนมัติทันที พร้อมเปิดไมค์ รับเสียงจากภายนอกเข้ามาให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียง จึงสามารถพูดคุยกับคู่สนทนาได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟัง หรือกดปุ่มควบคุมแต่อย่างใด
Equalize ที่ผู้ใช้งาน สามารถเลือกการตั้งค่าที่หลากหลายเพื่อให้ตรงกับคุณภาพเสียงและแนวเพลงที่กำลังฟัง รวมถึงสามารถสร้างและบันทึกการตั้งค่ารูปแบบ Equalize ที่ชื่นชอบเพื่อเรียกใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ในขณะเดียวกันยังให้เสียงคุณภาพสูงด้วย DSEE™ (Digital Sound Enhancement Engine) เมื่อเพลงต้นฉบับถูกบีบอัด เพลงจะสูญเสียองค์ประกอบความถี่สูงซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มรายละเอียดและความสมบูรณ์ของแทร็ก ซึ่งฟีเจอร์ DSEE จะคืนค่าเหล่านี้อย่างเที่ยงตรงเพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับการบันทึกต้นฉบับ พร้อมสร้างประสบการณ์การฟังเพลงที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ในส่วนของ Bluetooth connection Quality ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ 2 แบบ คือต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด หรือต้องการการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด
ดื่มด่ำกับการจำลองเวทีเสียงที่สมจริง
Sony LinkBuds รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง 360 Reality Audio พร้อมมอบประสบการณ์ดื่มด่ำไปกับเสียงรอบตัว ให้ความสมจริงราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตแสดงสดหรือในห้องอัดเสียงของศิลปิน ซึ่งฟีเจอร์ 360 Reality Audio จะทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันที่รองรับเท่านั้น และต้องมีการทำออพติไมซ์วิเคราะห์รูปร่างหูแต่ละข้าง เพื่อปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับหูผู้ใช้แต่ละบุคคล
ในปัจจุบันมีหลายแอปฯที่รองรับรับ 360 Reality Audio รวมถึงมีเพลงที่รองรับ 360 เยอะขึ้น แน่นอนว่าแอปฯเหล่านี้จะมีค่าบริการรายเดือน แต่ถ้าใครใช้งานอยู่แล้ว ก็ถือว่าคุ้มมาก ๆ เพราะสามารถใช้งานร่วมกับ Sony LinkBuds ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
Sony LinkBuds มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 12 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Sony Integrated Processor V1 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ใช้ในหูฟังตัวท็อปอย่าง Sony WH-1000XM4 อีกด้วย ในการตั้งค่าเบื้องต้น ทีมงานแนะนำให้เปิดการใช้งานตามนี้
- เปิดใช้งาน Priority on Sound Quality เพื่อเน้นในด้านคุณภาพเสียงเป็นหลัก
- เปิดใช้งาน DSEE หรือ Digital Sound Enhancement Engine เพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับการบันทึกต้นฉบับ
- เปิดใช้งาน Adaptive Volume Control ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปรับระดับเสียงตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ
สำหรับคาแรคเตอร์เสียงของ Sony LinkBuds จะมีความสะอาด โปร่งโล่ง ให้เวทีเสียงกว้างในระดับหนึ่ง เหมาะกับแนวเพลงที่เน้นเสียงร้อง ส่วนเสียงเบสอาจจะบางไปสักนิด เนื่องจากดีไซน์แบบวงแหวนที่เปิดโล่ง จึงแตกต่างจากหูฟังแบบ Earbud หรือ In-Ear ที่จะให้เสียงเบสที่ลงได้ลึกกว่า แต่ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่า Equalize ผ่านแอป Sony | Headphones Connect เพื่อเพิ่มเสียงเบสให้แน่นขึ้น ส่วนการใช้งานในสถานที่กลางแจ้ง เนื่องจากหูฟังรุ่นนี้มีการออกแบบในสไตล์โดนัท โดยมีรูตรงกลางเป็นส่วนที่เปิดให้เสียงจากภายนอกเข้ามา อีกทั้งยังไม่มี ANC จึงรับเสียงจากสภาพแวดล้อมรอบข้างเข้ามาในขณะฟังเพลงด้วย
การใช้งาน HANDS-FREE หูฟัง Sony LinkBuds ให้การโทรที่คมชัดและไร้เสียงรบกวน ด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับเสียงที่แม่นยำพร้อมการประมวลผลสัญญาณเสียงขั้นสูง บุคคลที่อยู่ปลายสายจะได้ยินเสียงสนทนาอย่างชัดเจน แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่มีเสียงดังก็ตาม และด้วยอัลกอริธึมการลดเสียงรบกวนของ Sony ได้รับการพัฒนาโดยใช้การเรียนรู้ของเครื่องจักร AI จากการใช้ตัวอย่างเสียงมากกว่า 500 ล้านตัวอย่าง เพื่อลดเสียงรบกวนรอบข้างและดึงเสียงของคุณออกมาอย่างชัดเจนในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
บทสรุป
Sony LinkBuds เป็นหูฟังไร้สายที่มาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ตัวหูฟังมีขนาดกะทัดรัดน้ำหนักเบา มอบการสวมใส่ที่กระชับเบาสบายไม่อึดอัด และไม่หลุดร่วงง่าย พร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือจะใส่ออกกำลังกายก็ยังไหว แถมยังมอบความปลอดภัยในการใช้งานกลางแจ้ง ด้วยดีไซน์วงแหวนที่เปิดให้เสียงจากภายนอกเข้ามา ทำให้เราสามารถฟังเพลงไปด้วย หรือใช้สนทนา ในขณะเดียวกันก็สามารถรับเสียงจากสภาพแวดล้อมรอบข้างเข้ามาได้อีกด้วย
อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์การกันน้ำได้ในระดับ IPX4 ที่สามารถป้องกันละอองน้ำจากเหงื่อ รองรับการควบคุมหูฟังได้ทั้งจากพื้นที่บนตัวผู้ฟังและบริเวณด้านหน้าใบหู ส่วนฟีเจอร์ก็อัดแน่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Speak-to-Chat, DSEE™ (Digital Sound Enhancement Engine), Equalize 360 Reality Audio, Adaptive Volume Control ที่ช่วยเสริมให้การฟังเพลงเต็มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน
สำหรับ Sony LinkBuds วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ในราคา 6,990 บาท โดยมีให้เลือก 2 สีให้เลือกใช้งาน ได้แก่ สีขาว และสีเทาดำ