ในช่วง WFH และเรียนออนไลน์ นอกจาก Notebook และสมาร์ตโฟนที่เป็นอุปกรณ์หลักแล้ว หนึ่งในดีไวซ์ที่หลายคนต้องใช้งานควบคู่ไปด้วยก็คงไม่พ้นหูฟังและลำโพงแบบพกพาอย่างแน่นอน แต่ทั้งสองดีไวซ์จะมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่บ้าง เช่นหูฟังเมื่อสวมใส่นาน ๆ อาจจะล้าหู และไม่คล่องตัวเมื่อต้องการสื่อสารกับคนรอบข้าง ส่วนลำโพงพกพาก็อาจจะส่งเสียงรบกวน และไม่เหมาะกับการสนทนาที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ส่งผลให้ลำโพงแบบคล้องคอจึงเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
สำหรับ Sony SRS-NB10 เป็นลำโพงแบบคล้องคอรุ่นล่าสุดที่ต่อยอดพร้อมแก้ปัญหาจากรุ่นก่อนหน้า ทั้งในแง่ขนาด น้ำหนัก การสวมใส่และควบคุม ซึ่งรอบนี้โซนี่ทำการบ้านมาได้ดีมาก เพราะ Sony SRS-NB10 มีขนาดที่กะทัดรัดลง แถมยังมาพร้อมน้ำหนักเพียง 113 กรัม เมื่อผสานกับการออกแบบและคุณภาพวัสดุเกรดพรีเมี่ยม จึงส่งผลให้การสวมใส่และใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่น ทั้งลำโพง Full-Range แบบ passive radiator ที่จัดวางตำแหน่งได้อย่างเหมาะสม ให้เสียงกระจ่าง คมชัดใสเคลียร์ และยังมาพร้อมไมค์สนทนาถึงสองตัว ช่วยให้การใช้งานด้าน HANDS-FREE เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ Sony SRS-NB10 ยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 แบตสุดอึดใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 20 ชั่วโมง พร้อมรองรับชาร์จไว โดยชาร์จ 10 นาที สามารถใช้งานได้ 60 นาที และรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX4 อีกด้วย
สเปคเบื้องต้น Sony SRS-NB10
- ขนาด 191x49x185 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 113 กรัม
- ลำโพงแบบ Full-Range ตอบสนองย่านความถี่ 20 Hz – 20,000 Hz (Sampling frequency 44.1 kHz)
- Bluetooth : เวอร์ชัน 5.1 รองรับโปรไฟล์ A2DP/AVRCP/HFP/HSP
- รองรับการถอดรหัสเสียง SBC, AAC
- รองรับฟีเจอร์ HANDS-FREE
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 20 ชั่วโมง
- พอร์ตชาร์ตชนิด USB-C
- ระยะเวลาในการชาร์จ 0 – 100% (4 ชั่วโมง)
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IPX4
- มี2 สีให้เลือกใช้งาน ได้แก่ สีดำและสีขาว
- ราคาเปิดตัว 4,990 บาท
Unboxing แกะกล่อง Sony SRS-NB10
ตัวกล่องมาในรูปทรงสีเหลี่ยมจัตุรัส พร้อมเลือกใช้โทนสีขาวสะอาดตา ด้านหน้าและด้านหลังกล่องจะโชว์รูปตัวลำโพง Sony SRS-NB10 และฟีเจอร์เด่น ๆ อย่างการใช้งานได้ยาวนาน 20 ชั่วโมงรองรับชาร์จไว, สามารถใช้งาน HANDS-FREE, กันน้ำกันฝุ่น IPX4 มีปุ่มเปิด/ปิดไมค์
ส่วนด้านล่างกล่องมาพร้อมรายละเอียดชื่อรุ่น, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลของผู้ผลิต นอกจากนี้ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Sony SRS-NB10 จะไม่มีส่วนประกอบที่เป็นพลาสติก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Sony ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- ลำโพง Sony SRS-NB10
- สายชาร์จชนิด Type-C
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + คู่มืออ้างอิง + คู่มือการลงทะเบียน My Sony & You
รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ
Sony SRS-NB10 เป็นลำโพงแบบคล้องคอที่มาพร้อมดีไซน์ในรูปทรงตัว C และ U ซึ่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยวัสดุจะเป็นโพลีคาร์บอเนตผสานด้วย rubber มีพื้นผิวสัมผัสที่ให้ความกระชับไม่ลื่นมือ และมาพร้อมลำโพงหุ้มด้วยตาข่ายผ้าที่จัดวางในตำแหน่งใต้ใบหูทั้งซ้ายขวา สำหรับตัวก้านฝั่งซ้าย (ในขณะสวมใส่) จะมีโลโก้ SONY ที่เห็นได้ชัดสะดุดตา
Sony SRS-NB10 พร้อมตอบโจทย์การใช้งาน HANDS-FREE ด้วยไมค์สนทนาถึง 2 ตัว โดยมีการติดตั้งไว้ที่ฝั่งขวาของตัวก้านลำโพง สำหรับด้านใต้ของตัวก้านลำโพงจะมีช่องระบายอากาศของลำโพง passive radiator ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงในย่านเสียงต่ำนั่นเอง ส่วนตัวก้านที่คล้องคอวัสดุจะเป็นยางที่มีความ flexible สูง ไม่หักงอและให้การคืนตัวที่ดี
ปลายด้านซ้ายของตัวก้านลำโพง (ในขณะสวมใส่) จะมีปุ่มเพิ่ม ลดเสียง ปุ่มเล่น/หยุดเพลง และใช้ในการ รับ/วางสาย
สำหรับฝั่งขวาของปลายก้านลำโพง จะมีปุ่มปิดไมค์, ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและ Bluetooth , ไฟแจ้งเตือนสถานะ และพอร์ตชาร์จแบบ USB-C พร้อมฝาปิดกันน้ำ
แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ในการชาร์จจนเต็มจาก 0 – 100% และรองรับการชาร์จไว โดยชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 60 นาที
ด้านการสวมใส่
Sony SRS-NB10 ออกแบบได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์คล้องลงบนบ่า ผ่านตัวก้านที่มีความโค้งมน ที่สอดรับตามหลักสรีรศาตร์ อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา ส่งผลให้การสวมใส่มีความกระชับไม่ลื่นไถล เมื่อผสานด้วยวัสดุที่มีคุณสมบัติกันลื่น จึงเหมาะกับการใช้งานไปพร้อม ๆ ทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปด้วย อีกทั้งตัวปุ่มกดยังจัดวางในตำแหน่งที่เรียกใช้งานได้ง่ายพร้อมป้องกันการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ
สรุปในด้านการสวมใส่ถือว่าสอบผ่านด้วยน้ำหนักที่เบา และมาพร้อมการออกแบบที่สอดรับกระชับเข้ากับสรีระของผู้ใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง สามารถใส่ออกกำลังกายอย่างการเดินบนลู่ หรือเดินกลางแจ้งได้แบบสบาย ๆ
การเชื่อมต่อ
ในด้านการเชื่อมต่อ สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยในการเชื่อมต่อครั้งแรก ให้กดปุ่มพาวเวอร์ ( Bluetooth) ค้างไว้ 5 วินาที จนไฟสีน้ำเงินกะพริบ จากนั้นเข้าไปที่การตั้งค่าของสมาร์ตโฟนหรือดีไวซ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ มองหาชื่อ SRS-NB10 และทำการเชื่อมต่อได้เลย สำหรับ Sony SRS-NB10 รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ได้พร้อมกัน สามารถประชุมคอนเฟอเรนซ์ และรับสายเรียกเข้าจากมือถือได้อย่างสะดวกคล่องตัว
ด้านการใช้งาน
Sony SRS-NB10 มาพร้อมลำโพงแบบ Full-Range ตอบสนองย่านความถี่ 20 Hz – 20,000 Hz (Sampling frequency 44.1 kHz) พร้อมจัดวางลำโพงในตำแหน่งเสียงที่เหมาะสมกับการรับฟัง หากเป็นการใช้งานในห้องประชุมใหญ่ ๆ ผู้ร่วมประชุมก็จะไม่ได้ยินเสียงที่ออกจากลำโพงของเรา (ขึ้นอยู่กับระยะห่างและการปรับระดับเสียง) นอกจากนี้ตัวลำโพงยังมาพร้อม passive radiator ให้เสียงย่านต่ำที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว สำหรับคุณภาพเสียงในภาพรวม Sony SRS-NB10 มีความกระจ่าง ใส เคลียร์ แต่แรงขับออกจะน้อยไปสักนิด จึงเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ปิดและมีเสียงรอบข้างที่ไม่ดังมากนัก
ส่วนการใช้งานด้าน HANDS-FREE โดดเด่นด้วยไมค์สนทนา 2 ตัว มาพร้อม Precise Voice Pickup Technology ที่ทำงานร่วมกับการประมวลผลสัญญาณเสียงขั้นสูง ส่งผลให้การสนทนาทั้งปลายสายและต้นสายเป็นไปอย่างราบรื่น ให้เสียงที่คมชัด ลดการสะท้อนกลับและเสียงก้อง รวมถึงตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี อีกทั้งยังมาพร้อมปุ่มเปิด/ปิดไมค์สนทนาในตัว อีกทั้งยังใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง จึงตอบโจทย์ WFH และเรียนออนไลน์ได้อย่างลงตัว
คุณภาพเสียงจากลำโพง
บทสรุป
Sony SRS-NB10 เป็นลำโพงคล้องคอที่โดดเด่นในแง่การสวมใส่ ด้วยน้ำหนักที่เบาออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมวัสดุเกรดพรีเมี่ยม ส่งผลให้การสวมใส่เป็นเวลานาน ๆ หรือจะสวมใส่ไปพร้อม ๆ ทำกิจกรรมอย่างอื่นไปด้วย ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีกว่าหูฟังไม่ว่าจะเป็นแบบอินเอียร์ หรือครอบหูฟูลไซส์ที่ผู้ใช้งานต้องสวมใส่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะรู้สึกอึดอัด ทั้งในแง่การสวมใส่เป็นเวลานานและการใช้งานที่บางครั้งต้องการสลับไปรับเสียงจากภายนอก ลำโพงแบบคล้องคอจึงเข้ามาตอบโจทย์ work from home เรียนออนไลน์ได้ดีกว่า ทั้งในแง่ความสบายในการสวมใส่ อีกทั้งยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะทำงานบ้าน หรือออกกำลังกายเบา ๆ ก็ให้ความคล่องตัวที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
สำหรับ Sony SRS-NB10 วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ ในราคา 4,990 บาท โดยมี2 สีให้เลือกใช้งาน ได้แก่ สีดำและสีขาว สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ Sony Store และตัวแทนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
