ทดสอบกล้องหน้า/หลัง
User Interface หรือหน้าตาเมนูกล้อง ยังคงเหมือนเดิม โดยมุมขวาบนของเมนูกล้องจะแสดงไอคอนรูปม่านชัตเตอร์ ซึ่งตรงนี้จะเป็นเมนูทางลัดเพื่อเข้าถึงโหมด Ultra wide angle, Bokeh, และ Super macro
ส่วนด้านบนของเมนูจะเป็นไอคอนที่เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้อง อาทิเช่น เปิด/ปิดการใช้งานแฟลช, โหมด HDR, Filter-Portrait light effect, อัตราส่วนของภาพ และการตั้งค่าโดยรวมของกล้อง
ไม่พลาดทุกความประทับใจด้วยกล้องหน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล พร้อม Eye Autofocus
นอกจากนี้ระบบโฟกัสบน Vivo V20 ยังมาพร้อมความชาญฉลาด โดยสามารถโฟกัสทั้งดวงตา, ใบหน้า, ร่างกาย, ติดตามวัตถุ เรียกว่าใช้งานได้ไม่ต่างจากกล้องมือโปรเลยทีเดียว
ทดสอบกล้องหน้า Vivo V20
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto
โหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งานบิวตี้
Beauty Mode ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
สำหรับรูปนี้ปรับให้ดวงตานางแบบดูกลมโตขึ้น เพื่อเปรียบเทียบให้่เห็นความแตกต่างจากภาพด้านบน
ทดสอบโหมด Portrait + Bokeh effect ซึ่งการละลายฉากหลังทำได้ดีมาก โดยให้ความละมุนดูมีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดของเส้นขอบได้ค่อนข้างเนียนตาอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
สำหรับโหมด Portrait จะมีไตล์ที่เลือกใช้งานได้ 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Fresh / Texture / Holiday / Rococo / Gray /1980s / Kyoto cherry / Film / Tokyo Style ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
Portrait light effect
ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม ตัวอัลกอริทึม AI ของ Vivo V20 จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 6 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background
Natural light Studio light Stereo light
Loop light, Rainbow light, Monochrome background
และยังยังมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่างจุใจถึง 19 รูปแบบ
AR Stickers
AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย
Selfie Softlight Band
Auto Mode
Portrait No Flash
Portrait Flash On
สำหรับฟีเจอร์ Selfie Softlight Band จะให้แสงที่นุ่มนวล ภาพดูมีมิติ และไม่สว่างจ้าจนเกินไป โดยใช้แสงสว่างจากหน้าจอแสดงผลทำหน้าที่เป็นแฟลช เพื่อช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่ไม่มีแสงได้อย่างสวยงามเสมือนถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว
โหมด Super Night Selfie จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือเวลากลางคืนได้อย่างคมชัด โดย AI Night Selfie และ Face Beauty ที่ช่วยปรับแสงสว่างให้กับใบหน้า พร้อมวิเคราะห์วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ภาพมีความสว่าง คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี และมีสัญญาณรบกวนหรือ Noise ที่น้อยมาก ๆ
ทดสอบการถ่ายวีดีโอ 4K Selfie Video
ทดสอบระบบกันสั่นในการถ่าย Selfie Video บน Vivo V20
ทดสอบการถ่ายเซลฟี่ Slow Motion 240 fps บน Vivo V20
Dual view video (Picture-in-Picture )เพิ่มความสามารถในการสร้างสรรค์ของเป็นสองเท่า ด้วยการบันทึกกล้องหน้าและกล้องหลังในเวลาเดียวกัน
Dual view video
Art portrait Colorful
Art portrait Bokeh
ทดสอบกล้องหลัง
AI Triple Camera 64 ล้านพิกเซล
จากรูปต้นฉบับได้ทำการย่อขนาดลงมาครึ่งหนึ่ง จากนั้นทำการ Crop ที่ 2000×1500 พิกเซล ตัวภาพก็ยังให้ดีเทลที่สามารถนำไปใช้งานได้แบบสบาย ๆ แต่หากเป็นกล้องที่มีความละเอียดต่ำ ก็จะสูญเสียรายละเอียดในภาพรวมออกไป จนไม่สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนในภาพตัวอย่างนี้
Normal mode
Zoom 2x
Zoom 10x
Vivo V20 รองรับการซูมแบบ Optical zoom 2x และ Digital zoom ได้สูงสุดที่ 10x
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 120 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป
Normal mode
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
Normal mode
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
Macro mode
Super macro
สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 2.5 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
Normal mode
Super macro
Super Night Mode
โหมด Normal
Super Night Mode มาพร้อมฟีเจอร์ AI noise cancellation ลดสัญญาณรบกวนหรือการเกิดนอยส์ของภาพ และ Sky Divider ช่วยให้ภาพถ่ายท้องฟ้าดูเป็นธรรมชาติ นำเสนอความงามยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน
โหมด Normal
Super Night Mode
Super Night Mode + Tripod Night Mode
ในโหมด Super Night Mode ยังรอง Tripod Night Mode หรือโหมดขาตั้งกล้อง ที่จะช่วยเปิดการรับแสงได้นานขึ้น ทำให้ภาพกลางคืนมีความสว่างและคมชัดขึ้นไปอีกระดับ
สำหรับ Tripod Night Mode ต้องใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง
Super Night Mode
สำหรับ Night Mode ยังรองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง และมี Style มาให้ใช้งานอีก 4 รูปแบบ ประกอบด้วย
Black& gold
Blue ice
Green orange
Cyberpunk
AI Image Matting
ฟีเจอร์ AI Image Matting มาพร้อมความสามารถในการไดคัทได้แบบมืออาชีพ สามารถเบลอหรือลบบุคคลออกจากในภาพ สามารถย่อ ขยายและเคลื่อย้ายภาพบุลคล ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งเปลี่ยนพื้นหลังได้อย่างอิสระ เรียกว่าจบในตัวแอป ไม่ต้องเอามาไดคัทผ่าน PC แต่อย่างใด
ภาพต้นฉบับ
ใช้งาน AI Image Matting โดยลบภาพบุคคลออก
ใช้งาน AI Image Matting โดยลบภาพบุคคลออกพร้อมเปลี่ยนฉากหลังใหม่
จากภาพต้นฉบับ จะเห็นว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในเฟรม ซึ่งเราสามารใช้ฟีเจอร์ AI Image Matting ลบบุคคลที่ไม่ต้องการออกไปได้ง่าย ๆ เพียงคลิ๊กเดียว และยังสามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลัง พร้อมย่อ/ขยาย ขยับรูปภาพบุคคลไปยังตำแหน่งอื่น ๆ ได้อย่างอิสระอีกด้วย
สำหรับภาพถ่ายทีมีองค์ประกอบของท้องฟ้า ฟีเจอร์ AI Image Matting สามารถปรับแต่งสีและรูปแบบของท้องฟ้า รวมถึงสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับท้องฟ้าได้อีกด้วย
ภาพต้นฉบับ
เปลี่ยนท้องฟ้าหม่นในวันฝนตกให้กลับมาสดใสได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว
และยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบท้องฟ้าได้อย่างหลากหลาย
AI Image Matting เปลี่ยนท้องฟ้าให้เป็นภาพเคลื่อนไหว
Memory Recaller
ย้อนเวลากลับไปและนำช่วงเวลานั้นกลับมาอีกครั้ง ด้วยฟังก์ชั่น Memory Recaller ทำให้ภาพเก่ากลับมาคมชัดได้ทันที ด้วยเครื่องมือตกแต่งสีอัจฉริยะ สามารถแก้ไขและเพิ่มสีสันให้ภาพเก่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ภาพต้นฉบับ
ใช้งาน Memory Recaller
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
Auto mode
Auto Mode
Auto Mode + เปิดใช้งานเลนส์ bokeh
Portrait light effect
สำหรับกล้องหลังมี Portrait light effect มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าเช่นกัน โดยประกอบไปด้วย Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่างจุใจถึง 19 รูปแบบเหมือนกล้องหน้าทุกประการ
Portrait mode
Portrait + Beauty
Portrait + Beauty
สำหรับโหมด Portrait ของกล้องหลัง จะมี Style มาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย
Natural, Vintage, Northland
Fashion, Sumer Party, Japanese Style
Monochrome, Silver salt, Wet
Portrait bokeh
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
f/0.95 – f/1.4 – f/2.0
f/2.8 – f/4.0 – f/5.6
f/8.0 – f/11 – f/16
Portrait Bokeh Effect
Default, Circle, Heart
Triangle, Stars, Pentagon
โหมด Portrait ของกล้องหลังสามารถเลือกใช้เอฟเฟกต์ของโบเก้ได้อีก 6 รูปแบบ โดยจะให้รูปทรงของโบเก้ที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็คล้ายกับโบเก้จากเลนส์แต่ละค่ายที่มีความหลากหลายเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง
Vivo V20 มาพร้อม AI Super Night เวอร์ชั่นล่าสุด ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนมีความสว่างเก็บดีเทลและลดน้อยส์หรือสัญญาณรบกวนได้ดียิ่งขึ้น
Auto Mode
Portrait Mode + Beauty
Night Mode
นอกจากนี้ ใน Night Mode ยังรองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง และมี Style มาให้ใช้งานอีก 4 รูปแบบ ประกอบด้วย
Black& gold – Blue ice
Green orange – Cyberpunk
จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อครับ
สรุป Vivo V20
Vivo V20 ยังคงต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่นพี่ V20 Pro 5G เกือบครบถ้วน ทั้งเรื่องของดีไซน์ ที่มาพร้อมทั้งความพรีเมี่ยมและความสดใส ส่วนกล้องหน้า/หลังนั้นไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยเทคโนโลยีโฟกัสดวงตา จึงช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลได้แม่นยำสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ และต้องบอกเลยว่ารอบนี้ Vivo จูน Software มาได้ดีมาก ๆ ส่งผลให้สามารถแสดงศักยภาพของตัว Hardware กล้อง ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับภาพรวมถือว่ายังคงความเป็นซีรีส์ V ที่ตอบทุกโจทย์การใช้งานไว้ได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนสิ่งที่ดูจะยังขาดไปคงเป็นเรื่องการรองรับ 5G แต่ก็ไม่ได้มีผลหรือนัยที่สำคัญต่อการใช้งาน ณ ปัจจุบันสักเท่าไหร่ และถึงแม้ว่าในช่วงหลัง ๆ บางค่ายจะออกมาเล่นเรื่องการอัดสเปค หรือทำราคาต่ำ ๆ กว่าคู่แข่งในเรทเดียวกัน แต่ถ้ามองในแง่ของ Brand loyalty , ศูนย์บริการ คุณภาพของตัวสินค้าและ Softwar ที่เสถียรแทบไม่พบปัญหากวนใจ เชื่อว่าแฟน ๆ จะพร้อมให้การต้อนรับ Vivo V20 อย่างแน่นอน
ตัวเล่นไฟล์วิดีโอ