ทดสอบกล้องหน้า/หลัง
User Interface หรือหน้าตาเมนูกล้อง ยังคงเหมือนเดิม สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือโหมดการถ่ายที่หลากหลายขึ้น ทั้งการถ่ายดวงจันทร์ ถ่ายดาวเต็มท้องฟ้า รวมไปถึงการตั้งค่าระบบกันสั่นของตัวกิมบอล ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับเทียบไมโครกิมบอลและเปิดใช้งานได้ที่เมนูการตั้งค่า
นอกจากนี้ระบบโฟกัสบน Vivo X50 Pro 5G ยังมาพร้อมความชาญฉลาด โดยสามารถโฟกัสทั้งดวงตา, ใบหน้า, ร่างกาย, ติดตามวัตถุ เรียกว่าใช้งานได้ไม่ต่างจากกล้องมือโปรเลยทีเดียว
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto
โหมด Portrait
โหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งานบิวตี้
สำหรับโหมด Portrait จะมีไตล์ที่เลือกใช้งานได้ 6 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Fresh / Texture / Gray / File / Kyoto cherry / Tokyo Syyle ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
Fresh / Texture / Gray
File / Kyoto cherry / Tokyo Style
และในโหมด Beauty จะมี Make Up แบบสำเร็จรูปมาให้ใช้งาน 6 รูปแบบ
1.Make Up 2.Vitality 3.Texture
4.Advanced 5.Orange 6.Western
ทดสอบโหมด Portrait + Bokeh effect ซึ่งการละลายฉากหลังทำได้ดีมาก โดยให้ความละมุนดูมีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดของเส้นขอบได้ค่อนข้างเนียนตาอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/1.0 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
f/1.0 – f/1.2 – f/2.0 – f/2.8
f/4.0 – f/5.6 – f/8.0 – f/16
Portrait light effect
ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม ตัวอัลกอริทึม AI ของ Vivo X50 Pro 5G จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 5 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background
Natural light, Studio light, Stereo light
Loop light, Rainbow light, Monochrome background
และยังยังมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่างจุใจถึง 19 รูปแบบ
AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย
Super Night Selfie
โหมด Super Night Selfie จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือเวลากลางได้อย่างคมชัด โดย AI Night Selfie และ Face Beauty สามารถวิเคราะห์วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ภาพมีความสว่าง คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี และมีสัญญาณรบกวนหรือ Noise ที่น้อยมาก ๆ
Auto & Super Night Selfie
ทดสอบโหมด Portrait ในที่แสงน้อย
Portrait No Flash
Portrait Flash On
สำหรับฟีเจอร์ Selfie Softlight Band จะให้แสงที่นุ่มนวล ภาพดูมีมิติ และไม่สว่างจ้าจนเกินไป โดยใช้แสงสว่างจากหน้าจอแสดงผลทำหน้าที่เป็นแฟลช เพื่อช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่ไม่มีแสงได้อย่างสวยงามเสมือนถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว
ทดสอบกล้องหลัง
เก็บทุกความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อม Optical Zoom 5x โดยไม่สูญเสียความคมชัด รวมถึง Hyper Zoom ที่ซูมได้ไกลถึง 60x อีกด้วย
การถ่ายภาพด้วย Vivo X50 Pro 5G จะช่วยให้ผู้ใช้งานหมดกังวลเรื่องภาพไม่คมชัดอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีกล้อง Gimbal ที่มาพร้อมกับการกันสั่น Double-ball โดยใช้หลักชดเชยการสั่นไหวจากการใช้งาน เพื่อให้ได้ภาพสามมิติแบบยืดหยุ่นครอบคลุมการสั่นไหวได้มากกว่า OIS ถึง 300% ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ชัดเจน และวิดีโอที่มีความเสถียรภาพมากขึ้น
Normal 1x
Zoom 2x
Zoom 3x
Zoom 4x
Zoom 5x
Zoom 10x
Zoom 20x
Zoom 30x
Zoom 40x
Zoom 50x
Zoom 60x
Normal mode
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 120 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป
Macro mode
Super macro
สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 2.5 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
Super Night Mode
โหมด Normal
Super Night Mode
โหมด Normal
Super Night Mode
Super Night Mode จะเป็นโหมดที่ใช้การถ่ายภาพซ้อนกันหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง
ซึ่ง Super Night Mode ไม่ได้ทำให้ภาพสว่างขึ้นมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยดึงดีเทลรายละเอียดของภาพกลับมาอีกทางหนึ่งด้วย สามารถดูการเปรียบเทียบได้จากภาพตัวอย่าง โดย
ภาพด้านล่างเมื่อเมื่อเปิดใช้ AI Night Mode แล้ว ภาพจะดูสว่างขึ้นและเพิ่มรายละเอียดในส่วนที่ขาดหายไปจากภาพด้านบน
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลังในโหมด Auto
Portrait Mode บน Vivo X50 Pro 5G มีความโดดเด่นด้วยการออกแบบเลนส์ถ่ายภาพบุคคลมาตรฐาน DSLR ขนาด 50 มม. F2.0 ซึ่งมีมุมมองที่ใกล้เคียงกับดวงตาของมนุษย์มากที่สุด ทำให้ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติเสมือนมองด้วยตาเปล่า
Portrait Mode
Portrait Mode
สำหรับโหมด Portrait ของกล้องหลัง มี Style มาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย
Natural
Vintage, Northland, Fashion, Sumer Party
Japanese Style, Monochrome, Silver salt, Wet
โหมด Portrait สามารถปรับในส่วนของ Bokeh หรือค่ารูรับแสงได้เหมือนกล้องหน้า แต่จะมีความพิเศษตรงที่สามารถเลือกเอฟเฟกต์ของโบเก้ได้อีก 6 รูปแบบ
Circle, Heart
Triangle, Stars, Pentagon
Portrait light effect
สำหรับกล้องหลังมี Portrait light effect มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้า โดยประกอบไปด้วย Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background
มีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่างจุใจถึง 19 รูปแบบเหมือนกล้องหน้าทุกประการ
AI Super Night
Vivo X50 Pro 5G มาพร้อม AI Super Night เวอร์ชั่นล่าสุด ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนมีความสว่างมากยิ่งขึ้น โดยในสภาพแวดล้อมที่มืดมาก X50 Pro จะปรับค่าความสว่าง 0 Lux ด้วยระบบกล้อง Gimbal พิเศษเฉพาะของ Vivo ช่วยขยายเวลาการเปิดรับแสง และการมองเห็นในเวลากลางคืนที่เหนือกว่าสายตามนุษย์
โหมด Auto
Night Mode
Night Mode
นอกจากนี้ ใน Night Mode ยังรองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง และมี Style มาให้ใช้งานอีก 4 รูปแบบ ประกอบด้วย
Black& gold
Blue ice
Green orange
Cyberpunk
จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อครับ
ในด้านการถ่ายวีดีโอก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ภาพนิ่ง ด้วยเทคโนโลยีกันสั่นแบบ Gimbal และระบบโฟกัสอันชาญฉลาด ผสานกับระบบบันทึกเสียงอันยอดเยี่ยม ทำให้ Vivo X50 Pro 5G สามารถถ่าย Vlogs ได้อย่างมืออาชีพ
สรุป Vivo X50 Pro 5G
เป็นเรือธงของค่าย Vivo ที่มีนวัตกรรมกล้องอันล้ำสมัย และพร้อมเปิดนิยามใหม่ให้การถ่ายภาพบนสมาร์ตต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ด้วยเทคโนโลยีกิมบอลที่เหนือกว่าระบบกันสั่น OIS แบบหลายขุม ผสานกับฟีเจอร์ที่ให้มาแบบอัดแน่น ทั้งระบบโฟกัสอันชาญฉลาด โหมดถ่ายภาพบุคคล โหมดกลางคืน และการซูม ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขึ้น ส่งผลให้ Vivo X50 Pro 5G พร้อมตอบโจทย์โดนใจผู้ที่รักการถ่ายภาพทั้งมือสมัครเล่นและในระดับมืออาชีพอย่างแน่นอน
และเมื่อมองในภาพรวม ทั้งดีไซน์สวยงามทันสมัย รองรับ 5G ใช้งานทั่วไปและเล่มเกมได้ลื่นไหล แถมยังมีชิปเสียงระดับ Hi-Fi คงต้องบอกเลยว่า นี่คือสมาร์ตโฟนไฮเอนด์ที่มีกล้องเทพและเด่นรอบด้าน แถมยังเปิดตัวด้วยราคาที่สมเหตุสมผลอีกด้วย
Vivo X50 Pro 5G วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคา 24,999 บาท โดยวางจำหน่ายเพียงสีเดียว คือ Alpha Grey พร้อมราคาพิเศษจาก AIS และ True ในราคาเริ่มต้นเพียง 13,989 บาท ท่านใดที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของ ได้ที่ตัวแทน จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วประเทศ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ www.vivo.co.th
