เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ vivo X70 Series สมาร์ตโฟนเรือธงในซีรีส์ X ที่มาพร้อมความร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ที่รอบนี้ได้มีการต่อยอดและยังคงพร้อมมอบประสบการณ์การถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอขึ้นไปอีกขั้นเหมือนเช่นเคย
สำหรับความน่าสนใจของ X70 Series ที่นอกจากจะจับมือเป็นพันธมิตรในการพัฒนาคุณภาพกล้องในระดับ Co-Engineer เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว vivo X Series ยังคงสืบทอดความโดดเด่นจากรุ่นพี่ X60 Pro มาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของดีไซน์ที่มอบความหรูหราพรีเมี่ยมและขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตระดับเรือธง สามารถตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปรวมถึงการเล่นเกมและผู้ใช้งานที่มองหาสมาร์ตโฟนจัดเต็มในด้านการถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างลงตัวอีกด้วย
สเปคเบื้องต้น vivo X70 Pro 5G
ขนาด | 158.30 มม. × 73.21 มม. × 7.99 มม. (Cosmic Black), 158.30 มม. × 73.21 มม. × 8.08 มม. (Aurora Dawn) |
น้ำหนัก | 183 กรัม (Cosmic Black), 184 กรัม (Aurora Dawn) |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ Ultra O Screen Display ชนิด AMOLED E5 ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 (FHD+) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR 10+ และการปกป้องดวงตา SGS Eye Care Display และ SGS Seamless |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต MTK Dimensity 1200 – vivo 5G Platform (6 nm) หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G77 MC9 |
RAM | 12GB +4 |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | ไม่รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 12 บนพื้นฐานของ Android 11 |
เชื่อมต่อ | 2.4GHz + 5GHz Wi-Fi MIMO; support Wi-Fi 5 and Wi-Fi 6; support Wi-Fi Display บลูทูธ 5.2 support A2DP, LE, , GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO, QZSS, A-GPS, Cellular Positioning, WLAN positioning |
กล้องถ่ายภาพ |
กล้องหลัง: 4 เลนส์ Quad Camera Co-engineered with ZEISS
——————————————————- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.45 โหมดการถ่าย |
รองรับระบบ |
รองรับการทำงาน Dual-SIM 2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby
|
แบตเตอรี่ | 4450mAh รองรับชาร์จไว Fast charging 44W (11V/4A) |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย Cosmic Black, Aurora Dawn |
ราคา | ราคาเปิดตัว XX,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งยังคงมาในโทนและรูปทรงเดิมที่ขับเน้นในเรื่องของความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความพรีเมี่ยมไว้ในตัวเหมือนเช่นเคย โดยด้านหน้าจะมีเพียงชื่อรุ่นและชูจุดเด่นด้วยข้อความกำกับในการร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคทั่วโลก
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับข้อความ Photography. Redefined ซึ่งเป็นสโลแกนของสมาร์ตโฟนซีรีส์ X ที่มีจุดเด่นด้านการถ่ายภาพในระดับมืออาชีพ สำหรับตัวเครื่องที่ทางทีมงานได้มารีวิวในครั้งนี้คือสี Aurora Dawn ที่ได้มีการติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่โรงงาน ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
1. อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5V– 2A / 9V – 2A / 11V – 4A Max – รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว vivo Fast charging 44W (11V/4A)
2. หูฟังสมอลทอร์คแบบอินเอียร์ รุ่น XE710 พร้อมจุกยางอีก 2 ขนาด
3. อแดปเตอร์ Type-C to Audio 3.5mm
4. สายดาต้าลิงค์แบบ Type-C
5. Soft Case TPU แบบใส
6. อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
7. ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ
รูปลักษณ์ดีไซน์/การออกแบบ
vivo X70 Pro 5G X70 Pro 5G มีความบางเพียง 7.99 มม. และน้ำหนัก 183 กรัม เป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่มาพร้อมหน้าจอโค้งดีไซน์สวยงามให้สัมผัสที่บางและเบา ในภาพรวมยังคงสืบถอด DNA ของรุ่นพี่ X60 Pro ที่มอบความหรูหราด้วยดีไซส์โค้งมน บนโครงสร้างที่บางเบาสวยงามแบบมีระดับ ผสานด้วยวัสดุพรีเมี่ยมด้วยกระจกฝาหลังและขอบเฟรมอะลูมิเนียม พร้อมตกแต่งด้านบนของตัวเครื่องด้วยสไตล์ Choker ที่มอบความรู้สึกหรูหราพรีเมี่ยมให้กับผู้ใช้งานตั้งแต่แรกสัมผัส
ยังคงมาพร้อมดีไซน์ Dual Tone Step และนำเสนอรูปลักษณ์ใหม่ มีความโดดเด่นด้วยการจัดวางรูปแบบกล้องในสไตล์ Cloud Valley ที่ไม่เหมือนใคร และฝาหลังใช้เทคโนโลยีใหม่ “fluorite AG” ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ให้ความรู้สึกถือใช้งานได้สะดวกสบายและไม่เกิดรอยนิ้วมืออีกด้วย
vivo X70 Pro 5G มี 2 สี ให้เลือกใช้งาน โดยสี Cosmic Black เป็นสีดำที่สื่อถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาล ดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ส่องแสงระยิบระยับทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกถึงพลังอันแท้จริงของธรรมชาติและชีวิต
ส่วนสี Aurora Dawn นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากแสงออโรร่าบนท้องฟ้าในช่วงเวลารุ่งอรุณ มอบสัมผัสความงดงามที่แม้ช่วงเวลาจะสั้นแต่ก็มีความหมายอย่างลึกซึ้ง
สรุปในภาพรวมตัวเครื่องมีความเพรียวบาง อีกทั้งยังมาพร้อมจอโค้งแบบ 3D ที่บางเบาและออกแบบตามหลัก Ergonomics จึงสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การจับถือพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว
จอแสดงผล Curved แบบโค้ง 3D มีจุดเด่นด้วย Flexible Screen COP ที่มีขอบดำที่เล็กและมีความบางกว่าสมาร์ตโฟนจอโค้งทั่ว ๆ ไป นอกจากนี้ vivo X70 5G & X70 Pro 5G ยังออกแบบให้รูกล้องมีขนาดเล็ก จึงให้พื้นที่หน้าจอแสดงผลที่กว้างมากขึ้น และมอบประสบการณ์รับชมที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย
ลำโพงสนทนามีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบของตัวเครื่องซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่แสดงผลได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงกลางของจอแสดงผล ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม ด้วยความละเอียดของกล้องหน้าที่สูงถึง 32 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์แบบอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็นโหมด Super Night Selfie, Portrait mode, Cinema Mode และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามในทุกสภาพแสงและทุกสถานการณ์
กล้องหลัง: 4 เลนส์ Quad Camera Co-engineered with ZEISS
vivo X70 Pro 5G โดดเด่นด้วย Gimbal Stabilization 3.0 & VIS 5-Axis Ultra Stable Video ที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้า พร้อมความร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาทางด้านวิศวกรรม (Co-Engineer) ร่วมกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งในครั้งนี้ได้มีการต่อยอดจาก X60 Series ขึ้นไปอีกขั้น โดยเลนส์กล้องของ vivo X70 Series ทุกรุ่นจะได้รับการเคลือบชิ้นเลนส์ในมาตรฐาน Zeiss T* พร้อมโลโก้ certified กำกับไว้อย่างชัดเจน
และประโยชน์ที่โดดเด่นของการเคลือบ Zeiss T* จะช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ค่าสีได้อย่างแม่นยำ ทำให้ทุกภาพถ่ายมีสีสันสดใสยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการเกิด Ghosting และ Stray light ในเวลากลางคืนได้อีกทางหนึ่งด้วย มอบประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำกับความงามอันบริสุทธิ์ของยามค่ำคืน
ด้านบนออกแบบในสไตล์ Choker หรือสร้อยคอ โดยมีการเว้าเป็นร่องเพื่อเพิ่มมิติให้ตัวเครื่องพร้อมสลักตัวอักษรเรืองแสง ที่ขับเน้นเรื่องกล้องอันเป็นจุดขายของ vivo X70 Pro 5G นั่นเอง นอกจากนี้ที่ฝั่งขวายังมี IR Blaster ที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เหมือนรีโมท และถัดไปจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวนและทำหน้าที่ในการบันทึกเสียงอีกด้วย
ด้านล่างประกอบไปด้วย ช่องถาดซิมการ์ด., ไมค์สนทนา, พอร์ต Type-C, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง, และเส้นเสาอากาศ สำหรับลำโพงหลัก แม้จะเป็นแบบโมโน แต่ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก ๆ ทั้งเรื่องความดัง เสียงย่านต่ำและมิติของเสียงที่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้การรับรองคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับภาพและเสียงด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์พร้อมเส้นเสาอากาศที่มุมบนและล่าง ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ แต่จะมีเส้นเสาอากาศเหมือนฝั่งขวา
ตัวถาดซิมของ vivo X70 Pro 5G เป็นแบบ Dual Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม แต่จะไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก
Unboxing vivo X70 5G
สเปคเบื้องต้น vivo X70 5G
ขนาด | 160.10 มม. × 75.39 มม. × 7.55 มม. |
181 กรัม (Cosmic Black), 182 กรัม (Aurora Dawn) | |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ Ultra O Screen Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 (FHD+) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR 10+ และการปกป้องดวงตา SGS Eye Care Display และ SGS Seamless |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต MTK Dimensity 1200 – vivo 5G Platform (6 nm) หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G77 MC9 |
RAM | 8GB +4 |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB |
microSD Card | ไม่รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 12 บนพื้นฐานของ Android 11 |
เชื่อมต่อ | 2.4GHz + 5GHz Wi-Fi MIMO; support Wi-Fi 5 and Wi-Fi 6; support Wi-Fi Display บลูทูธ 5.2 support A2DP, LE, , GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO, QZSS, A-GPS, Cellular Positioning, WLAN positioning |
กล้องถ่ายภาพ |
กล้องหลัง: 3 เลนส์ AI Triple Camera vivo ZEISS Co-engineered Imaging System
——————————————————- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.45 โหมดการถ่าย |
รองรับระบบ |
รองรับการทำงาน Dual-SIM 2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby
|
แบตเตอรี่ | 4400mAh รองรับชาร์จไว Fast charging 44W (11V/4A) |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย Cosmic Black, Aurora Dawn |
ราคา | ราคาเปิดตัว XX,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
ในด้านกล่องแพ็กเกจจิ้ง รวมถึงอุปกรณ์ภายในกล่องจะเหมือนกับ vivo X70 Pro 5G ทุกประการ
X70 5G มีความบางเพียง 7.55 มม. และน้ำหนัก 181 กรัม ยังคงมาพร้อมดีไซน์สวยงามที่มอบสัมผัสความบางเบา ซึ่งในภาพรวมจะไม่แตกต่างจาก vivo X70 Pro 5G มากนัก ทั้งการจัดวางรูปแบบกล้องด้วยสไตล์ Cloud Valley และฝาหลังแบบ fluorite AG ที่ไม่ก่อให้เกิดรอยนิ้วมือ
สำหรับความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นก็คือ vivo X70 Pro 5G มีหน้าจอ Curved แบบโค้ง 3D ในขณะที่ X70 5G ให้หน้าจอแสดงผลแบบ 2.5D และมีมิติขนาดตัวเครื่องที่แตกต่างกันเล็กน้อย
ส่วนสีมีให้ใช้งานทั้ง Cosmic Black, Aurora Dawn Cosmic Black เหมือน vivo X70 Pro 5G เช่นกัน โดยสีที่ทางทีมงานได้มารีวิวในครั้งนี้ก็คือ Cosmic Black ซึ่งเป็นสีดำที่สื่อถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาล และดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ส่องแสงระยิบระยับทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกถึงพลังอันแท้จริงของธรรมชาติและชีวิต
กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera vivo ZEISS Co-engineered Imaging System
กล้องหลังของ vivo X70 5G มาพร้อมฟีเจอร์และคุณสมบัติทางด้าน Hardware ที่ใกล้เคียงกับ vivo X70 Pro 5G โดยรองรับระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 3.0 & VIS 5-Axis Ultra Stable Video และการเคลือบ Zeiss T* ไม่แตกต่างไปจาก X70 Pro 5G สำหรับความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือเลนส์หลักของ vivo X70 5G จะมีความละเอียดที่ 40 ล้านพิกเซล และไม่มีเลนส์ Periscope Telephoto นั่นเอง
ดีไซน์ในภาพรวมทั้ง 2 รุ่น ไม่แตกต่างกันมากนัก ทั้งเทคโนโลยีและการจัดวางเลย์เอาท์ รวมถึงสีสันที่มีมาให้ใช้งาน
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่น vivo X70 5G & X70 Pro 5G
ชิปเซ็ต MTK Dimensity 1200 เทคโนโลยี Extended RAM พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องแบบ UFS 3.1
vivo X70 5G & X70 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต MTK Dimensity 1200 ที่ถือว่าเป็นชิประดับ flagship จากค่าย MediaTek ที่มอบความเร็วแรง ประหยัดพลังงาน ให้ประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านั้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานมือถือในทุกวันและประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Extended RAM ซึ่งเป็นการนำพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) ส่วนหนึ่งมาจัดสรรเพื่อใช้ร่วมกับ RAM หลัก หรือที่เรารู้จักในชื่อ Virtual Memory จึงสามารถใช้แอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเลือกใช้พื้นที่หน่วยความจำภายในตัวเครื่องชนิด UFS 3.1 ทำให้สามารถรับชมภาพยนตร์ วิดีโออย่างไม่มีสะดุด และอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูงพิเศษได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นได้อย่างง่ายดาย
ถ้าหากยังจำกันได้ vivo เป็นค่ายแรกที่นำเสนอ “นวัตกรรม In-Display Fingerprint Scanning” หรือการฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายในจอแสดงผล ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการอัพเกรดและพัฒนาตัวเซนเซอร์ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยเจนเนอเรชั่นล่าสุดมีการอัพเกรดตัวเซนเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ จึงส่งผลให้การทำงานมีความรวดเร็วแม่นยำที่ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ In-Display Fingerprint Scanning บน vivo X70 5G & X70 Pro 5G รองรับการบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้ว และนอกจากนี้ยังมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 8 รูปแบบ รวมถึงสามารถเปลี่ยนไอคอนที่แสดงบนหน้าจอได้อีก 7 รูป ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขณะใช้งานดูมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนระบบ Face Unlock บน vivo X70 5G & X70 Pro 5G มีความรวดเร็วแม่นยำไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และยังสามารถทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้โดยไม่มีปัญหา และมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 5 รูปแบบ อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลอย่างไม่มีสะดุดพร้อมรองรับ HDR10+ and Hi-Res Certification
มาพร้อมหน้าจอคุณภาพสูง ด้วยพาเนล AMOLED E5 (เฉพาะ X70 Pro 5G) ขนาดใหญ่เต็มตา 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 (FHD+) ในอัตราส่วน 19.8:9 และมีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 92.7 % อีกทั้งยังได้รับการรับรอง SGS Eye Care Display และ SGS Seamless ที่พร้อมมอบประสบการณ์ความบันเทิงขึ้นไปอีกขั้นด้วยอัตราการรีเฟรชสูงถึง 120Hz รองรับเทคโนโลยี HDR10+ และ Hi-Res Certification ให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับหน้าจอแสดงผลที่ชัดเจนและสบายตาพร้อมระบบเสียง Hi-Res ได้อย่างสมจริง
vivo X70 5G & X70 Pro 5G มี IR Blaster หรืออินฟาเรตพอร์ตที่ใช้ในการเป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ผ่านทางแอป รีโมตอัจฉริยะ ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยภายในเครื่อง โดยรองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลายแบรนด์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแอร์ โทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี ฯลฯ
vivo X70 Pro ให้แบตเตอรี่ความจุ 4450mAh ส่วน X70 5G มีความจุ 4400mAh พร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูงและมีขนาดบางเบา โดยทั้งสองรุ่น รองรับชาร์จไว Fast charging 44W (11V/4A) สามารถชาร์จได้สูงสุด 60% ในเวลา 30 นาที ที่ถือว่ารอบนี้อัพเกรดไปอีกขั้น ทั้งขนาดความจุที่เพิ่มขึ้นร่วมถึงยังสามารถชาร์จได้เร็วขึ้นจาก X60 Series อีกด้วย
อ่านต่อ… คลิ๊กที่นี่ >>> Pages 2