ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหน้า vivo X80 Series 5G ให้ความละเอียดมาที่ 32 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.45 พร้อมฟีเจอร์แบบอัดแน่นตามสไตล์ของ X ซีรีส์
ในส่วนของ User Interface ยังคงใช้ UI เดิมจาก X 70 Series
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องหน้า
โหมด Auto
AI Face Beauty
Nature & classic
สำหรับโหมด AI Face Beauty ใน Portrait Mode จะมี 2 โหมดสำเร็จรูปหลัก ได้แก่โหมดธรรมชาติและคลาสิก โดยโหมดธรรมชาติจะให้สกินโทนที่เน้นความสมจริง ดูเป็นธรรมชาติ ส่วนโหมดคลาสิก ตัวระบบ AI จะคำนวณความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ ซึ่งทั้งสองโหมดสามารถตอบโจทย์สำหรับสีผิวและความชื่นชอบที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
และในโหมด Beauty จะมี Make Up แบบสำเร็จรูปมาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ โดยสามารถตั้งค่าเพิ่มเติม เช่นเปลี่ยนสีลิปสติก, คิ้ว, แกมหรือดวงตาได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย
Portrait Mode
ทดสอบโหมด Portrait + Bokeh effect ซึ่งการละลายฉากหลังทำได้ดีมาก โดยให้ความละมุนดูมีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดของเส้นขอบได้ค่อนข้างเนียนตาอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
Multi-Style Portrait
สำหรับโหมด Multi-Style Portrait จะมีสไตล์ที่ให้เลือกใช้งานได้ถึง 23 รูปแบบ ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่าจุใจถึง 11 รูปแบบ
AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย
Double Exposure
Double Exposure หรือฟีเจอร์การรับแสงสองเท่า เป็นการรวมภาพจากกล้องหน้าและหลังเข้าด้วยกันเป็นภาพเดียว ส่งผลให้เกิดภาพที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังสามารถเลือกภาพพื้นหลังจากอัลบั้มและสไตล์ได้ 3 รูปแบบ รวมถึงเปิดใช้งานโหมดบิวตี้ได้อีกด้วย
Super Night Selfie
Super Night Selfie
โหมด Super Night Selfie จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือเวลากลางได้อย่างคมชัด โดย AI Night Selfie และ Face Beauty สามารถวิเคราะห์วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ภาพมีความสว่าง คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี และมีสัญญาณรบกวนหรือ Noise ที่น้อยมาก
Selfie Softlight Band
สำหรับฟีเจอร์ Selfie Softlight Band จะให้แสงที่นุ่มนวล ภาพดูมีมิติ และไม่สว่างจ้าจนเกินไป โดยใช้แสงสว่างจากหน้าจอแสดงผลทำหน้าที่เป็นแฟลช เพื่อช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่ไม่มีแสงได้อย่างสวยงามเสมือนถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว
ทดสอบกล้องหลัง
vivo X80 Pro 5G มาพร้อมกับเซนเซอร์ Ultra-Sensing GNV ตรวจจับแสงพิเศษ ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1/1.3 นิ้ว โดยเลนส์ทั้งหมดได้รับการเคลือบด้วย ZEISS T* Coating: โดยได้การรับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานของการเคลือบ ZEISS T* ซึ่งช่วยปรับปรุงให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ให้ค่าสีได้อย่างแม่นยำ ทำให้ทุกภาพที่คุณถ่าย มีสีสันที่สวยสด สมจริง
vivo X80 Pro 5G มาพร้อมฟีเจอร์ในด้านการถ่ายภาพแบบอัดแน่น ทั้งระบบกันสั่น Gimbal Stabilization ระบบโฟกัสเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ที่ช่วยให้การถ่ายกีฬาหรือกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาได้ดียิ่งขึ้น
ตอบโจทย์ได้ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพสูงสุด โดย vivo X80 Series 5G ได้มีการอัปเกรดทั้งในส่วนของคุณภาพ Hardware ทั้งตัวชิ้นเลนส์ และขนาดเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น มีการพัฒนาชิปเซ็ตของตัวเองอย่าง vivo Pro Imaging Chip V1+ ที่เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของการประมวลผลให้กับ vivo X80 Series 5G ขึ้นไปอีกขั้น ในส่วนของโหมดการถ่ายและฟีเจอร์ที่มีมาให้ก็ถือว่าจัดเต็ม ตอบทุกโจทย์การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้ในระดับมืออาชีพ
Professional 50MP
เก็บทุกความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่ความละเอียด 8160 x 6120 พิกเซล จะขยายหรือนำไป Crop ก็ให้คุณภาพที่สามารถต่อยอดการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
ตัวอย่างภาพถ่ายในระยะต่าง ๆ
ระยะปกติ
vivo X80 Series 5G รองรับการซูมแบบ Optical แบบไม่สูญเสียความคมชัดได้ที่ระยะ 5x และสามารถซูมแบบ Digital Zoom ได้ถึง 60x
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
ระยะปกติ
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
ระยะปกติ
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
รอบนี้ vivo X80 Series 5G ได้อัปเกรดเลนส์มุมกว้างให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยมีค่าบิดเบี้ยวของชิ้นเลนส์ที่ลดลงเหลือเพียง 1.5% จาก 10% ส่งผลให้ใหภาพไม่ถูกครอบตัดและให้มสัดส่วนที่ถูกต้องขึ้นอีกด้วย
ZEISS Natural Color
โหมดปกติ
ZEISS Natural Color
โหมดปกติ
ZEISS Natural Color
สำหรับ ZEISS Natural Color จะให้โทนภาพในสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของทางค่าย ซึ่งตัวสีจะมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรับแต่งจนจัดจ้าน มีความคลาสิกในสไตล์กล้องฟิลม์ อีกทั้งยังสามารถนำไปปรับแต่งได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
ถ่ายภาพเด็ก ภาพกีฬา รวมถึงสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย AI Object Autofocus ระบบโฟกัสเคลื่อนไหวอัตโนมัติ จากภาพตัวอย่างดอกไม้มีการสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากมีลมพัดผ่านนั่นเอง ถ้าถ่ายในโหมดปกติ ไม่เปิดระบบโฟกัสเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ก็อาจจะได้ภาพที่เบลอไม่คมชัด แต่จากภาพนี้ได้มีการล็อกโฟกัสให้ติดตามวัตถุตลอดเวลา จึงสามารถถ่ายภาพออกมาได้คมชัดสวยงาม และได้ผลลัพธ์ที่ดีในทุกสถานการณ์อีกด้วย
Super macro
โหมดปกติ
Super macro
Super macro บน vivo X80 Series 5G สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง ดอกไม้ หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
Super Night Mode
โหมดปกติ
Super Night Mode
vivo พัฒนาคุณสมบัติการถ่
ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกสรรโหมด Stylish Night Filters ซึ่งออกแบบโดยช่างภาพมืออาชีพโดยเฉพาะสำหรับ vivo ถ่ายภาพกลางคืนได้แบบฉบับมืออาชีพ
Super Night Mode
Super Night Mode + Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์มุมกว้างได้อีกด้วย
Super Night Mode zoom 2x
Super Night Mode zoom 5x
Super Night Mode สไตล์ ดำและทอง
ใน Super Night Mode ยังมี Style มาให้ใช้งานอีก 9 รูปแบบ ประกอบด้วย
ไซเบอร์พังก์, สปอตไลท์ชวนฝัน, พื้นผิวขาว, น้ำแข็งสีฟ้า
ส้มเขียว, สีแดงเข้ม, สีส้มฟ้า, สีส้มเทา
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
อีกหนึ่งจุดเด่นของ vivo X80 Series 5G ก็คือโหมด Portrait ด้วยเลนส์ทางยาว 50mm พร้อมระบบกันสั่นในตัว ให้การละลายฉากหลังได้ละมุนสวยงาม อีกทั้งยังมาพร้อม ZEISS T* Coating และ ZEISS Portrait style ต่าง ๆ ที่จะมอบความน่าตื่นตาตื่นใจไปกับโบเก้สวย ๆ เสมือนถ่ายด้วยกล้องโปรเลยทีเดียว
Portrait Mode
ที่ระยะ 2x จะให้คุณภาพเทียบเท่ากับกล้องในระยะ 50mm ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการละลายฉากหลังได้อย่างสวยงามสมจริง อีกทั้งยังเก็บขอบของตัวแบบได้ดีมาก ๆ อีกด้วย
Portrait Mode ที่ระยะ 1x
ที่ระยะ 1x และ 2x ผู้ใช้งาน สามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
ระยะ 5X
ดึงเสน่ห์ออกมาให้ทุกภาพถ่ายบุคคลด้วย ZEISS Portrait style
ZEISS Biotar
ZEISS portrait style จะช่วยรังสรรค์ภาพ bokeh และ facula ในระดับที่ลึกผ่าน vvivo X80 Series 5G ซึ่งทำให้จุดศูนย์รวมของการถ่ายภาพคนนั้นชัดเจนมากขึ้น ยกระดับจินตนาการของเลนส์ bokeh พร้อมมอบประสิทธิภาพการถ่ายภาพบุคคลที่สมจริงกว่าที่เคย
ZEISS Sonnar
ZEISS Planar
ZEISS Distagon
ZEISS Cinematic
นอกจาก ZEISS Portrait style ทั้ง 5 แบบแล้ว vivo X80 Series 5G ยังมี Portrait style สวย ๆ มาให้ใช้งานเพิ่มเติมอีก 6 รูปแบบ
ทดสอบ ZEISS Portrait style ในสภาพแสงกลางคืน
และมีฟิลเตอร์มาให้งานอย่างจุใจถึง 11 รูปแบบ
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลในที่แสงน้อย
Super Night Mode
vivo X80 Series 5G สามารถถ่ายภาพบุคคลยามค่ำคืนได้ดีขึ้น ด้วยคุณสมบัติทางด้าน Hardware ที่ผสานด้วยฟีเจอร์ Super Night Mode จะช่วยให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพบุคคลแม้จะต้องถ่ายในที่แสงน้อยก็ตาม
จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อ
นอกจากจะเด่นในด้านภาพนิ่งแล้ว vivo X80 Series 5G ยังจัดเต็มด้านวิดีโอตามคอนเซ็ปต์ Cinematics. Redefined. อย่างแท้จริง ด้วย X80 Series จะช่วยให้การถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง ZEISS Cinematic Video Bokeh เอฟเฟกต์และโบเก้ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้วิดีโอของคุณสวยงามดั่งฝัน AI Video Enhancement หมดกังวลเรื่องความมืด เพราะมี AI ช่วยสร้างความโดดเด่นในความมืด ให้ผลลัพธ์ที่ดีจนน่าทึ่ง
ZEISS Cinematic Video จะให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์ ด้วยการสร้างเอฟเฟกต์ของเลนส์ภาพยนตร์ ZEISS ได้อย่างแม่นยำ และสร้างแสงแฟลร์ที่ไม่เหมือนใครในวิดีโอและภาพถ่ายในอัตราส่วนภาพมาตรฐาน 2.39:1 พร้อมระบบโฟกัสอันชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพบุคคลหรือสิ่งของที่เคลื่อนไหว Active Centering OIS System ช่วยเพิ่มความเสถียรของแต่ละเฟรมได้สูงสุด เพื่อให้ทุกวิดีโอมีความราบรื่นและชัดเจน แม้ว่าวัตถุของคุณจะเคลื่อนไหวในกีฬาผาดโผน 360° Horizon Leveling Stabilization จะจับภาพนิ่งไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า วิ่งจ็อกกิ้ง ปาร์กัวร์ หรือแม้แต่กระโดดร่ม ให้คุณเก็บความตื่นเต้นทั้งหมดด้วยการทรงตัวที่สมบูรณ์แบบบน vivo X80 Series 5G
ทดสอบระบบกันสั่นบน vivo X80 Pro 5G
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X80 5G
บทสรุป
หากเคยประทับใจกับ vivo X70 Series มาก่อน เชื่อว่า vivo X80 Series 5G จะยิ่งมอบประสบการณ์การใช้งานในด้านการถ่ายภาพที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ทั้งการอัพเกรดทางด้าน Hardware และ Software พร้อมมอบประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอในระดับมืออาชีพ ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าทุกคู่แข่งในท้องตลาด และด้วยความร่วมมือกับค่าย ZEISS มาอย่างต่อเนื่อง รอบนี้จึงเป็นการยกระดับความเป็น Cinematics. Redefined. สมาร์ตโฟนเรือธงที่ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างสมบูรณ์แบบเหนือกว่าทุกคู่แข่งในตลาดอย่างแท้จริง
ราคาและช่องทางวางจำหน่าย
โดย vivo X80 Pro 5G และ X80 5G วางจำหน่ายในสี Cosmic Black และ Urban Blue ซึ่งสี Cosmic Black ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้ายามค่ำคืนและพลังอำนาจของจักรวาล โดยใช้สีดำที่เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวาล เสริมด้วยกลิตเตอร์สีเงินที่เปรียบเหมือนดวงดาวท่ามกลางท้องฟ้าในคืนอันมืดมิด ในขณะที่สี Urban Blue ได้แรงบันดาลใจจากสีฟ้าอ่อนของท้องทะเลที่ห่างไกลจากความวุ่นวายของชีวิตในเมือง ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลายและสุนทรี
vivo X80 Series 5G ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันศุกร์ ที่ 27 พฤษภาคม 2565 โดย vivo X80 Pro 5G จำหน่ายในราคา 39,999 บาท และ vivo X80 5G จำหน่ายในราคา 29,999 บาท ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ BaNANA, IT City, CSC, Jaymart, TG FONE, KINGKONG, BKK, Singer, Big C, Maxlink, Power Mall, Stamp และ Advice และผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, True, Dtac รวมถึง vivo Official Store บนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้ง LAZADA, Shopee, JD Central และ Thisshop