หากใครยังจำได้เมื่อกลางปี 2020 vivo ได้เปิดตัว vivo Y30 ที่มาพร้อมฝาหลังดีไซน์ Dazzling 3D Colors ที่ดูหรูหราพรีเมี่ยม พร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera และแบตสุดอึด 5,000mAh ล่าสุดปีนี้ vivo ได้ส่ง vivo Y30 5G รุ่นใหม่ที่รองรับ 5G พร้อมจุดเด่นดีไซน์บางเบา, จอใหญ่ 6.51 นิ้ว, กล้องหลังคู่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และ แบตเตอรี่สุดอึด 5,000mAh ในราคาสุดคุ้ม
อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเพียงใด มารับชมรีวิว vivo Y30 5G ไปพร้อมกันเลย
สเปคเบื้องต้น vivo Y30 5G
ขนาด | 164×75.84×8.2 มม. |
น้ำหนัก | 193 กรัม |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ Halo FullView™ Display ชนิด IPS ขนาด 6.51 นิ้ว อัตราส่วนจอแสดงผล 20:9 ความคมชัดระดับ HD+ (1600 × 720 พิกเซล ) |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Dimensity 700 ประมวลผล Octa-core (2×2.0 GHz Cortex-A77 & 6×1.8 GHz Cortex-A76) หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G76 |
RAM | 6GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB |
microSD Card | 1TB |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 12 บนพื้นฐานของ Android 12 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz บลูทูธ 5.1 support A2DP, LE, USB Type-C, OTG, GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO, QZSS |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง: 2 เลนส์ AI Dual Camera – เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 – เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 โหมดการถ่าย Photo, Portrait, Night, Video, 50MP, Panorama, Live Photo, Slow Motion, Time-Lapse, Pro, AR Stickers, Documents |
รองรับระบบ | รองรับการทำงาน Dual-SIM 2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby 2G GSM : B2/3/5/8 3G WCDMA : B1/2/4/5/8 4G FDD-LTE : B1/2/3/4/5/7/8/20/28 4G TDD-LTE : B38/40/41 (194M) 5G NR NSA : n1/n3/n28/n40/n41/n78 NR SA : n1/n3/n28/n40/n41/n78 |
แบตเตอรี่ | 5000mAh รองรับชาร์จ 10W |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย Starlight Black / Rainbow Fantasy |
ราคา | ราคาเปิดตัว 8,699 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องแพ็กเกจจิ้งของ vivo Y30 5G มาในโทนคลีนสีขาว ด้านหน้ากล่องมีชื่อรุ่นสีน้ำเงินเข้มตัดกับโลโก้ vivo สีเงิน และระบุขนาดความจุ RAM 6GB+ROM 128GB ไว้ที่มุมขวาด้านบน และด้านข้างกล่องทั้ง 2 ด้านก้มีโลโก้ vivo สีน้ำเงิน
ส่วนด้านหลังจะเน้นไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของ vivo Y30 5G ซึ่งประกอบไปด้วย ชิปเซ็ท Dimensity 700 5G, กล้องหลังคู่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh พร้อมด้วยข้อมูลการผลิต สีตัวเครื่อง เลขอีมี่ เป็นต้น
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง vivo Y30 5G ในสี Rainbow Fantasy ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- อแดปเตอร์ชาร์จ OUTPUT 5V-2A
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้า
- สายดาต้าลิงค์แบบ Type-C
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- Soft Case TPU แบบใส
อแดปเตอร์ชาร์จ OUTPUT 5V-2A
vivo Y30 5G มาพร้อมดีไซน์บางเบา ด้วยความบางเพียง 8.2 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 193 กรัม ให้ความรู้สึกสัมผัสสะดวกสบาย การจับถือมีความกระชับ สอดรับเข้ากับสรีระของฝามือได้เป็นอย่างดี โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Starlight Black สีดำด้าน และ Rainbow Fantasy สีรุ้งสดใส และเป็นสีที่ทางทีมงานได้มารีวิวครับ
“Halo FullView™ Display หน้าจอใหญ่เต็มตา รับชมคอนเทนต์สะใจ มอบประสบการณ์การรับชมที่ดียิ่งขึ้น”
vivo Y30 5G มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView™ Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 × 720 พิกเซล ) ในอัตราส่วน 20:9 ให้การแสดงผลที่เต็มตาทั้งการใช้งานทั่วไป ชมภาพยนตร์ และเล่นเกม
กล้องหน้าเซลฟีจัดเต็มด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 ถ่ายสวยในทุกสภาพแสง ตัวกล้องหน้าและเซ็นเซอร์วัดแสงถูกจัดวางอยู่ภายใต้เลย์เอาท์ของ Notch รูปทรงหยดน้ำที่มีขนาดเล็ก ส่วนลำโพงสนทนาจะวางตำแหน่งไว้ที่ขอบจอของตัวเครื่องซึ่งช่วยให้จอแสดงผลได้เต็มพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
กล้องหลังคู่ AI Dual Camera 50 ล้านพิกเซล ถ่ายสวย พร้อมโหมดโปเก้หลังละลาย
ตัวกล้องจัดวางเลย์เอาท์ในแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมมุมซ้ายด้านบน
สำหรับกล้องหลังคู่บน vivo Y30 5G มีรายละเอียดดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องถาดซิมการ์ด
สำหรับตัวถาดซิมของ vivo Y30 5G จะเป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ได้สูงถึง 1TB
ส่วนด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามด้วยไมค์สนทนา / พอร์ต USB / และลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ
ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Side-Mounted Fingerprint Scanner ที่ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 0.3 วินาที
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน vivo Y30 5G
ปลดล็อคความเร็วแรงด้วยเครือข่าย 5G ในรูปแบบ NSA และ SA
5G แบบ NSA (Non-Standalone) มีหลักการทำงานโดยใช้อุปกรณ์ร่วมกับเทคโนโลยี 4G LTE ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดต้นทุน และสามารถใช้งานได้ทันทีในปัจจุบัน
ส่วน SA (Standalone) จะเป็นการอัปเกรดอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้รองรับเทคโนโลยี 5G โดยเฉพาะ ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า ทั้งในเรื่องความเร็ว, latency, แบนด์วิธ และความเสถียร อีกทั้งยังรองรับอนาคตที่เทคโนโลยี 5G จะเปลี่ยนเป็น SA ทั้งหมด จึงตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่าสมาร์ตโฟนที่รองรับ NSA เพียงแบบเดียวนั่นเอง
vivo Y30 5G สามารถใช้งาน 5G ตั้งแต่แกะกล่อง และยังมาพร้อมความโดดเด่นด้วยการรองรับ 5G NR ในรูปแบบ NSA / SA (Dual-Mode) จึงช่วยทลายข้อจำกัดเดิม ๆ ของการใช้งานเดต้าที่พบความล่าช้าบน 3G / 4G เพราะเทคโนโลยี 5G นอกจากจะให้ความเร็วแรงแล้ว ยังมี latency ที่ต่ำ ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงหรือดาวน์โหลดข้อมูลได้เร็วขึ้น เปิดแอปพลิเคชั่นและใช้งานโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่สะดุดติดขัด
รวมถึงการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมออนไลน์ ก็ให้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจกว่าที่เคย ในภาพรวมต้องบอกเลยว่า vivo Y30 5G นั้นตอบโจทย์การใช้งานได้รอบด้านอย่างแท้จริง
ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้างและปุ่มเปิดปิดเครื่องจะเป็นแบบ 2 in 1 โดยมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง Side-Mounted Fingerprint Scanner ที่มีความเร็วในการปลดล็อคเพียง 0.3 วินาที นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย
โดยทั้ง 2 ระบบ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจมาก ในส่วนของระบบปลดล็อคด้วยใบหน้ามีเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวให้เลือกใช้งาน 5 รูปแบบ และนอกจากจะใช้ในการปลดล็อคหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นได้อีกทางหนึ่งด้วย
Halo FullView™ Display มอบประสบการณ์การรับชมที่ดียิ่งขึ้น
โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล Halo FullView Display ชนิด IPS LCD ให้สีสันสว่างสดใส มีความคมชัด สามารถแสดงขอบเขตสีได้สมจริงแม่นยำ มี Respond การตอบสนองที่อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ และมี Software ที่ช่วยปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น
อีกทั้งยังมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6.51 นิ้ว บนความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ในอัตราส่วน 20:9 และยังมาพร้อม Notch หรือรอยบากในรูปทรงหยดน้ำขนาดเล็ก เมื่อผสานกับขอบจอที่บางเฉียบ จึงส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
แบตเตอรี่ 5,000mAh ใช้งานได้ทั้งวัน
มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานครบวัน และเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงานที่ช่วยจัดการใช้พลังงานของแอปในเบื้องหลังอย่างชาญฉลาดอีกด้วย
ทั้งนี้ควรใช้สาย ชาร์จ และอแดปเตอร์ชาร์จที่ให้มาในกล่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพสูงสุดครับ