ทดสอบกล้องหน้า/หลัง
ครั้งแรกบนซีรีส์ Y กับการอัปเกรดทั้งกล้องหน้าและหลัง
Vivo Y72 5G มาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งสำคัญ ด้วยการจัดเต็มบนกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 16 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าเป็นการอัปเกรดทั้งกล้องหน้า/หลังเป็นครั้งแรกบนซีรีส์ Y อีกด้วย
Vivo Y72 5G ยังคงมาพร้อม User Interface หรือหน้าตาเมนูกล้อง ที่เหมือนรุ่นพี่ในซีรีส์ Y โดยมุมขวาบนของเมนูกล้องจะแสดงไอคอนรูปม่านชัตเตอร์ ซึ่งตรงนี้จะเป็นเมนูทางลัดเพื่อเข้าถึงโหมด Ultra wide angle, Bokeh, และ Super macro
ส่วนด้านบนของเมนูจะเป็นไอคอนที่เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้อง อาทิเช่น เปิด/ปิดการใช้งานแฟลช, โหมด HDR, Filter, อัตราส่วนของภาพ และการตั้งค่าโดยรวมของกล้อง
ครั้งแรกบนซีรีส์ Y ที่ให้กล้องหน้าความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล โดยมาพร้อมค่ารูรับแสง f/2.0 ที่ให้ความคมชัดและขับเคลื่อนด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์อันชาญฉลาด โดยจุดขายยังคงเป็น AI Face Beauty ที่สามารถวิเคราะห์เพศและใบหน้า พร้อมปรับแต่งให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามตรงใจผู้ใช้งานโดยไม่ต้องเสียเวลามาปรับแต่งในภายหลัง และยังมีโหมด 3D Face Shaping ที่สามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, ริมฝีปากอิ่ม, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว เป็นต้น
ทดสอบกล้องหน้า
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto ซึ่งยังคงรักษามาตรฐานที่ดีของค่าย Vivo ได้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของความคมชัด ไวท์บาลานซ์ที่แม่นยำ และถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติของภาพออกมาได้อย่างลงตัวอีกด้วย
AI Face Beauty
สำหรับโหมด AI Face Beauty ใน Portrait Mode ตัวระบบ AI จะคำนวนความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ โดยภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI จะให้โทนภาพที่ดูลงตัวเป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในทุกสถานการณ์
ทั้งนี้โหมด Beauty สามารถตั้งค่าระดับความสวยงามได้แบบอัตโนมัติ และตั้งค่าแบบกำหนดเองได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับ
Super Quadruple Beauty Mode ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
สำหรับรูปนี้ได้ทำการปรับให้ดวงตานางแบบดูกลมโตขึ้น เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างจากภาพทางด้านบนนั่นเอง
สำหรับ โหมด Portrait จะมีสไตล์มาให้ใช้งาน 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย “ค่าเริ่มต้น สดชื่น และภาพยนต์”
โหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Face Beauty และ Bokeh effect
มีฟิลเตอร์ให้ใช้งานอย่างหลากหลาย ซึ่งช่วยให้การถ่ายเซลฟี่มีความน่าตื่นตาตื่นใจ และยังสามารถแชร์ไปยังโซเชี่ยลต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามาตกแต่งผ่านแอปในภายหลังอีกด้วย
Portrait light effect
ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม ตัวอัลกอริทึม AI ของ Vivo 72 5G จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 5 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background
AR Stickers
AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย
Pose Master
ฟีเจอร์นี้มีหลักการทำงาน ด้วยการแสดงตัวอย่างไกด์ไลน์ในการแอคติ้ง หรือการโพสท่าทางนั่นเอง โดยจะมีเส้นประแสดงควบคู่กับภาพแอคติ้งตัวอย่าง ซึ่งผู้ใช้งานเพียงแค่ให้แบบแสดงท่าทางตามตัวอย่างและจัดองค์ประกอบให้แบบเข้าไปอยู่ในเส้นประ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพถ่ายที่สวยโดนใจไม่แพ้การโพสท่าจากนางแบบ นายแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว ฃ
ฟีเจอร์ Pose Master สามารใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง
ทดสอบกล้องหลัง
กล้องหลัง AI Triple Camera จัดเต็มด้วยความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เป็นครั้งแรกบนซีรีส์ Y และมีฟีเจอร์เหมือนกล้องหน้าเกือบทุกประการ
ครั้งแรกบนซีรีส์ Y ที่มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดถึง 64 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่ความละเอียด 9216 x 6912 พิกเซล
จากรูปต้นฉบับได้ทำการ Crop ที่ 2000×1500 พิกเซล ตัวภาพก็ยังให้ดีเทลที่สามารถนำไปใช้งานได้แบบสบาย ๆ แต่หากเป็นกล้องที่มีความละเอียดต่ำ ก็จะสูญเสียรายละเอียดในภาพรวมออกไป จนไม่สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนในภาพตัวอย่างนี้
Normal mode
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
Zoom 2x
Zoom 10x
Vivo Y72 5G รองรับการซูมแบบ Optical zoom 2x และ Digital zoom ได้สูงสุดที่ 10x
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
Normal mode
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
Normal mode
Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)
ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 120 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป
Super macro
Normal mode & Super macro
Super macro
สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง ดอกไม้ หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
Super Night Mode
โหมดปกติ
Super Night Mode
โหมดปกติ
Super Night Mode
Super Night Mode จะเป็นโหมดที่ใช้การถ่ายภาพซ้อนกันหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง
นอกจากนี้ ใน Super Night Mode ยังมี Style มาให้ใช้งานอีก 4 รูปแบบ ประกอบด้วย Black & gold, Blue ice, Green orange, Cyberpunk
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่โดดเด่น ด้วย Eye Autofocus หรือระบบโฟกัสดวงตา เหมือนในรุ่นพี่ ซีรีส์ X และ Y โดยสามารถเลือกการโฟกัสดวงตาได้ทั้งข้างซ้ายและขวา หรือจะเลือกแบบอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งการที่มีระบบโฟกัสดวงตาจะยิ่งช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจอีกด้วย
โหมดปกติ
โหมดปกติ
กล้องหลัง Vivo Y72 5G ให้คุณภาพที่น่าประทับใจ ทั้งในเรื่องความคมชัด ความแม่นยำของไวท์ บาลานซ์ และสกินโทนที่ให้ความเป็นธรรมชาติ
โหมด Auto เปิดใช้งานเลนส์ Bokeh
โหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Face Beauty
โหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Face Beauty
โหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน Bokeh effect และ AI Face Beauty
Portrait Bokeh
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
f/0.95 – f/1.4 – f/2.0
f/2.8 – f/4.0 – f/5.6
f/8.0 – f/11 – f/16
และโหมด Portrait ของกล้องหลัง ยังมี Style มาให้ใช้งาน 4 รูปแบบ ประกอบไปด้วย
ธรรมชาติ, วินเทจ, สไตล์ญี่ปุ่น และแฟชั่น
ด้วยเลนส์ Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษ ไม่ได้เด่นแค่การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์เพียงอย่างเดียว เมื่อนำมาใช้ถ่ายภาพบุคคล ก็จะช่วยให้แบบดูเพรียว ดูขายาวขึ้นอีกนิด ซึ่งตรงนี้สาว ๆ ต้องชอบกันอย่างแน่นอน
โหมด Super HDR สามารถถ่ายภาพย้อนแสงได้อย่างยอดเยี่ยม ปรับสมดุลสีสันของภาพอย่างแม่นยำ และเป็นธรรมชาติ
โดย Super HDR จะช่วยปรับสีสันแบบอัตโนมัติในส่วนของภาพที่สว่างจ้า และปรับรายละเอียดให้คมชัดในส่วนเงามืด เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบทุกรายละเอียด ประโยชน์ของโหมดนี้ก็คือ เมื่อเราถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างมาก ๆ หรือเมื่อย้อนแสง รวมถึงในที่แสงน้อย ถ้าเปิด HDR จะช่วยในเรื่องการเกลี่ยสภาพแสงโดยรวมและดึงดีเทลของภาพให้กลับมามีความสมดุล
Portrait light effect
มี Portrait light effect ให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้า โดยประกอบไปด้วย Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background
Normal , Studio light, Stereo light
Loop light, Rainbow light, Monochrome background
สำหรับกล้องหลังก็มีฟิลเตอร์ให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าทุกประการ
AI Portrait Framing
AI Portrait Framing ฟีเจอร์นี้จะมีหลักการทำงานโดยตรวจจับภาพใบหน้าบุคคลที่อยู่ในเฟรม พร้อมแนะนำการหันกล้องไปในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งก็คือการจัดองค์ประกอบของภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดนั่นเอง ตรงนี้ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพบุคคลได้ดีมาก แม้เราจะถ่ายรูปไม่เก่งก็ตาม
ตัวอย่างภาพที่ใช้งานฟีเจอร์ AI Portrait Framing
Memory Recaller
ย้อนเวลากลับไปและนำช่วงเวลานั้นกลับมาอีกครั้ง ด้วยฟังก์ชั่น Memory Recaller ทำให้ภาพเก่ากลับมาคมชัดได้ทันที ด้วยเครื่องมือตกแต่งสีอัจฉริยะ สามารถแก้ไขและเพิ่มสีสันให้ภาพเก่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ภาพต้นฉบับ
ใช้งาน Memory Recaller
AI Image Matting
ฟีเจอร์ AI Image Matting มาพร้อมความสามารถในการไดคัทได้แบบมืออาชีพ สามารถเบลอหรือลบบุคคลออกจากในภาพ สามารถย่อ ขยายและเคลื่อย้ายภาพบุลคล ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งเปลี่ยนพื้นหลังได้อย่างอิสระ เรียกว่าจบในตัวแอป ไม่ต้องเอามาไดคัทผ่าน PC แต่อย่างใด
ใช้งาน AI Image Matting โดยลบภาพบุคคลออกพร้อมเปลี่ยนฉากหลังใหม่
ภาพต้นฉบับ
จากภาพต้นฉบับ จะเห็นว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในเฟรม ซึ่งเราสามารใช้ฟีเจอร์ AI Image Matting ลบบุคคลที่ไม่ต้องการออกไปได้ง่าย ๆ เพียงคลิ๊กเดียว
นอกจากนี้รองรับการแก้ไขปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาก ๆ สามารถเลือกแก้ไขได้ทั้งหมดของภาพ หรือเฉพาะบุคคลและภาพพื้นหลังได้แบบอิสระ
ใช้งาน AI Image Matting
เปลี่ยนรูปภาพพื้นหลังได้ง่าย ๆ จากแบบสำเร็จรูปที่มีมาให้ในตัวแอป หรือจะเลือกจากภาพถ่ายภายในเครื่องก็ได้เช่นกัน แถมยังสามารถย่อขยายจัดวางตำแหน่งภาพบุคคลได้อย่างอิสระอีกด้วย
สำหรับภาพถ่ายทีมีองค์ประกอบของท้องฟ้า ฟีเจอร์ AI Image Matting สามารถปรับแต่งสีและรูปแบบของท้องฟ้า รวมถึงสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับท้องฟ้าได้อีกด้วย
รูปต้นฉบับ
AI Image Matting เลือกเปลี่ยนเฉพาะสีของท้องฟ้า
AI Image Matting เปลี่ยนท้องฟ้าให้เป็นภาพเคลื่อนไหว
จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อครับ
สรุป Vivo Y72 5G
เทรนด์สมาร์ตโฟน 5G ราคาเบา ๆ ปีนี้แข่งขันกันอย่างดุเดือด ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีหลายแบรนด์ในบ้านเราต่างก็เปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G ราคาจับต้องได้กันไปบ้างแล้ว แน่นอนว่าค่าย Vivo ก็ไม่ตกขบวนเช่นกัน แถมยังยกระดับซีรีส์ Y ให้กลายเป็น The Firts ในหลาย ๆ ด้านอีกด้วย ทั้งการรองรับ 5G ในรูปแบบ SA และ NSA สามารถใช้งานได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องกังวลการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี 5G SA ในอนาคต และยังมาพร้อมการอัปเกรดกล้องหน้า/หลัง โดยให้ฟีเจอร์มาแบบไม่มีกั๊ก ทั้งระบบโฟกัสดวงตา และโหมด Portrait ที่ยกฟีเจอร์เด่น ๆ จาก ซีรีส์ V มาให้เซอร์ไพส์อีกด้วย
สรุปในภาพรวม Vivo Y72 5G เป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่ครบครัน ครบเครื่อง ตอบทุกโจทย์การใช้งาน สามารถใช้งานได้ยาว ๆ ในราคาจับต้องได้อย่างแท้จริง
Vivo Y72 5G เปิดให้จองแล้ววันนี้ พร้อมของแถมสุดพิเศษ Bluetooth body weight scale มูลค่า 1,099 บาท และ Power Bank 10000mAh มูลค่า 799 บาท รับไปเลยทันที ฟรี! สำหรับผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 64 – 30 มี.ค. 64 ณ Vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ Vivo Official Online Store
โปรโมชั่น Vivo Y72 5G ผูกแพ็คเกจกับ AIS, truemove H และ dtac ราคาเริ่มต้นเพียง 2,989 บาทเท่านั้น
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่