รวมจุดเด่นกล้อง vivo V40 5G พร้อมภาพ Photo Set ชุดใหม่ !!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 10.7K views

vivo V40 5G มาพร้อมเลนส์ ZEISS ทั้งกล้องหน้าและหลัง โดดเด่นเหนือกว่าทุกคู่แข่งในด้านการถ่าย Portrait ด้วยความร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS เป็นรุ่นที่สองต่อจากรุ่นพี่ vivo V30 Pro 5G  โดยมีการอัปเกรดตัวเซนเซอร์แบบเดียวกับที่ใช้ใน X Series 

 

และยังคงมาพร้อมจุดแข็งก็คือแสงออร่า Aura Light Portrait ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับภาพถ่ายบุคคลได้อย่างโดดเด่น สามารถเก็บภาพทุกช่วงเวลาได้อย่างมีชีวิตชีวาไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน พร้อมส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ รังสรรค์ภาพถ่ายที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมองศาไหน ก็สามารถทำให้ผู้ใช้งานประทับใจกับคุณภาพได้เสมอ 

หลังจากทาง IbelieveIT ได้ทำการรีวิว vivo V40 5G ไปแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยกระแสตอบรับถือว่าดีมาก ๆ เพราะด้วยดีไซน์ใหม่ และสีสันที่โดนใจ รวมถึงความโดดเด่นในการถ่ายภาพที่ทำได้เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ส่งผลให้ vivo V40 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้ทั้งผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปและระดับมือโปรได้อย่างลงตัว 

และวันนี้ทาง IbelieveIT จะมาเผยความน่าสนใจและจุดเด่นของกล้อง vivo V40 5G ที่มาพร้อมทุกกล้องเลนส์ ZEISS ผ่าน Photo Set โดยจะเน้นไปที่จุดขายอย่าง Portrait เป็นหลัก

ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการถ่ายภาพ Portrait ด้วย ZEISS Multifocal Professional Photography เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพสู่มือผู้ใช้งานในรูปแบบที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยในการใช้งานที่โหมด Portrait หรือภาพคน ให้แตะที่ไอคอนรูปเลนส์ที่อยู่มุมล่างด้านซ้ายเพื่อเข้าสู่โหมดการถ่ายภาพ Portrait แบบสำเร็จรูป ที่มีให้เลือกใช้งานได้ถึง 3 ระยะ 

โหมด ZEISS Multifocal Portrait ของ vivo V40 5G จะมี Full focal length portrait lens package ที่ช่วยยกระดับการถ่าย Portrait ให้ง่ายขึ้น มีหลักการทำงานเสมือนการเปลี่ยนเลนส์บนกล้องบน Full Frame ซึ่งมีระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัสที่ครอบคลุมครบทุกระยะให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่ 24mm ,35mm ,50mm ,(85mm และ 100mm จะมีให้ใช้งานในรุ่น V40 Pro 5G) โดยสามารถดูรายละเอียดของการถ่ายในระยะโฟกัสที่เลือก รวมถึงสไตล์โบเก้ที่ถูกจับคู่ใช้งานให้แบบอัตโนมัติ 

ระยะ 24mm เป็นระยะที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพแนวท่องเที่ยว หรือเชิงสร้างสรรค์ และยังสามารถขับเน้นฉากหลังสำหรับสถานท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์อันโดดเด่น ไปพร้อม ๆ กับตัวแบบได้อย่างลงตัว โดยระยะ 24mm จะเลือกใช้แสงแฟลร ZEISS Distagon จับคู่กับโทนสีย้อนยุค ช่วยให้ภาพคนในระหว่างการเดินทางมีความโดดเด่น และชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ระยะ 24mm ยังเหมาะกับการถ่ายภาพ Portrait ในแนวนอนได้ดีอีกด้วย 

ระยะ 35mm เป็นระยะที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพบุคคลและภาพบรรยากาศ โดยการเบลอฉากหลังจะมีความลึกที่เพิ่มขึ้นมาจากระยะ 24mm 

สำหรับระยะ 35mm จะใช้แสงแฟลร์แนวภาพยนตร์แบบวัดสามค่า ZEISS B-Speed จับคู่กับระยะโฟกัสแบบเน้นคน 35mm (1.5x) จึงช่วยให้รู้สึกถึงการสื่อสารที่เน้นตัวบุคคลและเรื่องราวได้อย่างชัดเจน 

ระยะ 50mm สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว โดยมีให้เลือกสองแบบ ได้แก่ natural portrait เป็นการผสมผสานระหว่างแสงแฟลร์ทรงกลม พร้อมโฟกัส 50mm (2.2x) ซึ่งเป็นระยะเลนส์ที่ตรงกับตามนุษย์มากที่สุด ดังนั้นจึงให้ภาพพอร์ตเทรตที่เป็นธรรมชาติ สมจริง และดูโปรมากยิ่งขึ้นแม้ถ่ายจากระยะไกล ก็จะยังให้ภาพพอร์ตเทรตที่สดใสน่าทึ่งราวกับถ่ายในระยะใกล้เสมือนกล้องโปรนั่นเอง

ระยะ 50mm รูปแบบที่ 2 classic portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว ด้วยการผสมผสานระหว่างแสงแฟลร์แบบหมุน ZEISS Biotar โดยสามารถถ่ายภาพคนตามบรรยากาศที่ให้รูปร่างที่มีความโดดเด่น และโทนผิวที่สว่างมากขึ้น 

Bokeh Style Portrait

นอกจากจะมาพร้อมโหมดถ่ายภาพแบบสำเร็จรูปแล้ว vivo V40 5G ยังสามารถเลือกระยะโฟกัสและรูปแบบ Bokeh รวมถึง Style Portrait ได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย 

ระยะ 50mm พร้อมเปิดใช้โบเก้สไตล์ Nature

โบเก้สไตล์ Biotar ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Biotar 1.5/75 ให้โบเก้หมุนวนที่นำมาจากเอฟเฟกต์พิเศษของเลนส์กล้อง มอบประสบการณ์ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมตามสไตล์ ZEISS

โบเก้สไตล์ B-speed เพิ่มเอฟเฟกต์โบเก้รูปทรงสามเหลี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS classic high-speed cine ในยุค 1970 ตอนกลาง

โบเก้สไตล์ ZEISS Sonnar

เป็นโบเก้ที่ได้แรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Sonnar 2.8/180 มีจุดเด่นที่การเบลอละลายหลัง ทำให้พื้นหลังดูมีบรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับการถ่ายสตรีทพอร์ตเทรต

โบเก้สไตล์ ZEISS Planar โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Planar 2.8/80 ให้ภาพสไตล์คลาสสิกที่เก็บรายละเอียดวัตถุ ขณะที่พื้นหลังก็ให้ความคมชัดของโบเก้

โบเก้สไตล์ ZEISS Distagon ได้แรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Distagon 2.0/28 มอบโบเก้หกเหลี่ยมในพื้นหลัง เผยให้เห็นถึงความงดงามอันน่าประทับใจ ทำออกมาสำหรับการแสดงภาพเชิงศิลปะ

พอร์ตเทรตสไตล์ ZEISS Cine-flare ขณะถ่ายภาพท่ามกลางแสงจ้า จะทำให้เกิดแสงแฟลร์เหมือนในภาพยนตร์ ด้วยอัลกอริธึมขั้นสูงช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้ภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดและเป็นธรรมชาติ

 

โบเก้สไตล์ ZEISS Cinematic ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสไตล์ภาพยนตร์ด้วยอัตราส่วนภาพ 2.39:1 จะสร้างแสงแฟลร์วงรีและเอฟเฟกต์เส้นแสงสีน้ำเงิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้ไฟถนนในเวลากลางคืน

ทดสอบการถ่าย portrait ในสภาพแสงภายในอาคาร ซึ่งเราได้ใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน เช่นการไปร้านอาหาร คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า โดยจากการทดสอบพบว่า vivo V40 5G สามารถทำผลงานได้น่าประทับใจ ไม่แพ้การถ่ายในสภาพแสง Outdoor อย่างแน่นอน

ส่วนในสภาพแสงยามค่ำคืน หรือในที่แสงน้อย ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะ vivo V40 5G ยังคงถ่ายภาพ Portrait ได้ในระดับเทพ ด้วย Aura Light Portrait ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Smart Color Temperature Adjustment ระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะที่ทำงานในโหมดอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแสงออร่าให้เป็นโทนเย็นและโทนอุ่นได้หลายระดับตามความต้องการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแสงในขณะนั้น

นอกจากนี้ในสภาพแสงที่มีความหลากหลาย ตัว AI ก็จะคำนวณให้อย่างชาญฉลาด โดยบางครั้งจะเลือกอุณหภูมิแบบ Natural ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทนเย็นและโทนอุ่น ซึ่งบางครั้งจะเป็นไฟสีขาวที่ไม่สว่างจนเกินไป หรือบางครั้งก็จะเป็นไฟสีส้มอ่อน ๆ แต่ถ้าเป็นบรรยากาศในสภาพแสงที่มีโทนอุ่นมาก ๆ ไฟ Aura Light Portrait ก็จะเป็นสีส้มเข้ม ซึ่งโทนแสงสีส้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าและโทนสีผิวดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา

เลนส์ ZEISS สีสันสมจริง รองรับการถ่ายได้หลากหลายระยะ 

กล้องหลักเลนส์ ZEISS ความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์ GNJ ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56″ รูรับแสง f/1.88 มาพร้อมระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization)  

สำหรับกล้องตัวที่สองยังคงใช้เลนส์ ZEISS โดยเป็นกล้องที่ให้มุมกว้าง Ultra Wide (119 องศา) ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.0 ใช้เซนเซอร์ JN1 ตอบโจทย์การถ่ายภาพมุมกว้างและระยะ Macro ได้ดีเยี่ยม 

ระบบสีของ vivo จะให้สีสันที่สดใส เหมาะกับการถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์ ซึ่งให้ภาพที่มีชีวิตชีวาและสดใส ค้นพบโลกแห่งสีสัน และเก็บรักษาภาพความทรงจำให้สดใหม่อยู่เสมอ

ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษ ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล และยังมีประโยชน์มาก ๆ ในสถานที่คับแคบ และต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป

เปรียบเทียบภาพถ่ายในระยะปกติและ Ultra-Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

เปรียบเทียบภาพถ่ายในระยะปกติและ Ultra-Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

เปรียบเทียบภาพถ่ายในระยะปกติและ Ultra-Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

เปรียบเทียบภาพถ่ายในระยะปกติและ Ultra-Wide (มมุมมองกว้างพิเศษ)

เปรียบเทียบภาพถ่ายในระยะปกติและ Ultra-Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

vivo V40 5G มาพร้อม Food mode โดยใช้แสงออร่าเข้ามาเป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพอาหารให้ดูโดดเด่น ซึ่งจะให้สีที่ดูสดใส มีชีวิตชีวาและน่ากินยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับการซูมที่ 2x สามารถละลายฉากหลัง พร้อมขับเน้นรายละเอียดที่น่าสนใจของอาหารให้โดดเด่นขึ้นมาได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส 

อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของไวท์ บาลานซ์ โดยเมื่อเทียบกับรูปจากโหมดปกติ ตัวอาหารจะติดโทนสีส้มจากหลอดไฟภายในร้าน แต่เมื่อเปิดใช้งาน Food mode แสงออร่าจะช่วยให้อาหารมีสีสันที่สมจริงยิ่งขึ้น 

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ vivo V40 5G ได้ที่นี่ >>>> https://www.ibelieveit.net/review-vivo-v40-5g/

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ 🌟 ใหม่! vivo V40 Series 5G เกิดมาพร้อมทุกกล้องเลนส์ ZEISS 📸 เทคโนโลยีแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุ 5500mAh🔋ดีไซน์สุดล้ำ ตัวเครื่องบางเบา และมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 💦

🌟V40 5G (12GB + 256GB) ราคา 15,999.-
🌟V40 5G (12GB + 512GB) ราคา 17,999.-
 
เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สั่งซื้อ V40 5G ผ่านช่องทาง vivo online store: https://shop.vivo.com/th/product/2168
 
Facebook Comments

Related Posts