รีวิว “ฟีเจอร์กล้อง” Vivo V19 สมาร์ตโฟน 6 เลนส์ “Ignite your night” พร้อมจุดประกายยามค่ำคืนของคุณให้สว่างสดใสกว่าที่เคย !!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 6.5K views

รับชม รีวิว Vivo V19  กันไปแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะประทับใจกับสมาร์ตโฟนซีรีส์ V รุ่นล่าสุดจากค่ายวีโว่กันอย่างแน่นอน เพราะว่า Vivo V19 ยังคงรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมในด้านการถ่ายรูปได้ดีทั้งจากกล้องหน้าและหลัง นอกจากนี้ยังได้อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอมาให้แบบไม่มีกั๊ก จึงส่งผลให้ Vivo V19 เป็นสมาร์ตโฟน 6 เลนส์รุ่นล่าสุดของต้นปี 2020 ที่สามารถตอบโจทย์การถ่ายภาพได้อย่างสมบูรณ์ลงตัวในทุกระยะและทุกสถานการณ์ และวันนี้ ibelieveit จะพาไปสัมผัสไฮไลท์เด่น “ฟีเจอร์กล้อง” ของ Vivo V19 ที่จะชวนให้ตกหลุมรักและอยากจับจองเป็นเจ้าของสมาร์ตโฟนสุดครบเครื่องในราคาที่เอื้อมถึงครับ

Camera UI

User Interface หรือหน้าตาเมนูกล้อง ใช้เลย์เอาท์ใหม่เหมือนกับรุ่นพี่ Vivo V17 โดยมุมขวาบนของเมนูกล้องจะแสดงไอคอนรูปม่านชัตเตอร์ ซึ่งตรงนี้จะเป็นเมนูทางลัดเพื่อเข้าถึงโหมด Ultra wide angle, Bokeh, และ Super macro

ส่วนด้านบนของเมนูจะเป็นไอคอนที่เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้อง อาทิเช่น เปิด/ปิดการใช้งานแฟลช, โหมด HDR, Filter-Portrait light effect, อัตราส่วนของภาพ และการตั้งค่าโดยรวมของกล้อง

กล้องหน้าคู่ : กล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.08  กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.28

ทดสอบภาพจากกล้องหน้า 

Vivo V19 มาพร้อมกล้องหน้าคู่สุดคมชัดความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมมองกว้าง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

รองรับการถ่ายเซลฟี่มุมกว้างพิเศษ 105°  สามารถถ่ายเซลฟี่แบบหมู่คณะโดยไม่ตกหล่นเพื่อน ๆ รวมถึงสามารถเก็บวิวทิวทัศน์อันสวยงามตระการตาให้กว้างกว่าที่เคย และด้วยความสามารถของ AI ที่ช่วยป้องกันภาพบิดเบี้ยวสำหรับถ่ายภาพบุคคลมุมกว้าง พร้อมปรับแต่งฉากให้เหมาะสมที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบไหน ก็จะได้ภาพที่สมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน

AI Selfie HDR

AI Selfie HDR ประโยชน์ของโหมดนี้ก็คือ เมื่อเราถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างมาก ๆ หรือเมื่อย้อนแสง รวมถึงในที่แสงน้อย ถ้าเปิด HDR จะช่วยในเรื่องการเกลี่ยสภาพแสงโดยรวมและดึงดีเทลของภาพให้กลับมามีความสมดุล

ตัวอย่างภาพทางซ้ายมือท้องฟ้าจะสว่างจ้าและรายละเอียดของพื้นหลังบางส่วนหายไป รวมถึงใบหน้าของแบบจะดำเพราะย้อนแสง ส่วนภาพขวาเมื่อเปิด HDR แล้วจะมีการเกลี่ยแสงที่สมดุล ใบหน้าของแบบจะสว่างขึ้น อีกทั้งยังสามารถดึงรายละเอียดของแบ็คกราวด์กลับมาได้อย่างครบถ้วน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโหมดที่มีประโยชน์และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันของเรา

สำหรับ AI Selfie HDR ค่าเริ่มต้นจะเปิดไว้ให้แล้ว

ทดสอบกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลในโหมด Auto ที่ยังไม่ผ่านการปรับแต่งใด ๆ ภาพที่ได้มีความคมชัด ใสเคลียร์ สกินโทนมีความเป็นธรรมชาติและจัดการเรื่องไวท์บาลานซ์ได้ดีมาก

 

AI Face Beauty

เมื่อเปิดใช้งาน AI Face Beauty ภาพที่ได้ดูสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ เช่นสีของแก้มและลิปสติกเป็นต้น รวมไปถึงโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ

สำหรับโหมด AI Face Beauty ตัวระบบ AI จะคำนวนความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ โดยภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI ค่อนข้างดูลงตัวเป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในทุกสถานการณ์

โหมด Beauty สามารถตั้งค่าระดับความสวยงามได้แบบอัตโนมัติ และตั้งค่าแบบกำหนดเองได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับ

Super Quadruple Beauty Mode ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง

สำหรับรูปนี้ปรับให้ดวงตานางแบบดูกลมโตขึ้น เพื่อเปรียบเทียบให้่เห็นความแตกต่างจากภาพด้านบน

 

portrait mode

portrait mode ของ Vivo V19 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ โดยสามารถเลือกสไตล์ได้ 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย ค่าเริ่มต้น / สดชื่น / ภาพยนต์  ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง

 

ค่าเริ่มต้น

สดชื่น

ภาพยนต์

Bokeh effect

ทดสอบโหมด Portrait Bokeh effect ซึ่งการละลายฉากหลังทำได้ดีมาก โดยให้ความละมุนดูมีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดของเส้นขอบได้ค่อนข้างดีอีกด้วย

โหมด Portrait Bokeh effect ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Beauty Mode ได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสวยงามในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอขึ้นไปอีกระดับ

สำหรับรูปนี้เปิดใช้งาน Beauty Mode ที่ระดับ 50

Portrait Bokeh effect  เปิดใช้งาน Beauty Mode ที่ระดับ 100

การใช้งานโหมด Bokeh ให้เข้าไปที่โหมด Portrait และเลือกเลนส์ Bokeh จากไอคอนรูปม่านชัตเตอร์ที่อยู่ด้านขวามือ 

 

Portrait light effect

ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม ตัวอัลกอริทึม AI ของ Vivo V19 จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 5 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background

Natural light

Studio light

Stereo light

Loop light

Rainbow light

Monochrome background

นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่างจุใจถึง 20 รูปแบบ

 

Pose Master

ฟีเจอร์นี้มีหลักการทำงาน ด้วยการแสดงตัวอย่างไกด์ไลน์ในการแอคติ้ง หรือการโพสท่าทางนั่นเอง โดยจะมีเส้นประแสดงควบคู่กับภาพแอคติ้งตัวอย่าง ซึ่งผู้ใช้งานเพียงแค่ให้แบบแสดงท่าทางตามตัวอย่างและจัดองค์ประกอบให้แบบเข้าไปอยู่ในเส้นประ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพถ่ายที่สวยโดนใจไม่แพ้การโพสท่าจากนางแบบ นายแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ V19 ยังได้รับการอัพเกรดฟีเจอร์ Pose Master ขึ้นไปอีกขั้น โดยรองรับการถ่ายแบบเต็มตัว, ถ่ายคู่กับเพื่อน ๆ และสไตล์ต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่น Stylish, Sport, Travel เป็นต้น

ภาพตัวอย่างจาก Pose Master

ภาพตัวอย่างจาก Post Master (กล้องหลัง)

 

Selfie Softlight Band

Selfie Softlight Band จุดประกายความงามของคุณ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แสงน้อย หรือไม่มีแสง ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

Portrait No Flash

Portrait Flash On

สำหรับฟีเจอร์ Selfie Softlight Band จะให้แสงที่นุ่มนวล ภาพดูมีมิติ และไม่สว่างจ้าจนเกินไป โดยใช้แสงสว่างจากหน้าจอแสดงผลทำหน้าที่เป็นแฟลช  เพื่อช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่ไม่มีแสงได้อย่างสวยงามเสมือนถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว

 

AI Super Night Selfie จุดประกายความงามของค่ำคืน

Super Night Selfie

Super Night Selfie (Flash On)

หนึ่งไฮไลท์ที่เป็นจุดขายของ V19 ก็คือโหมด Super Night Selfie ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือเวลากลางคืนได้อย่างคมชัด โดย AI Night Selfie และ Face Beauty สามารถวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในยามค่ำคืนได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ภาพมีความสว่าง คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี และมีสัญญาณรบกวนหรือ Noise ที่น้อยมาก ๆ เรียกว่าทำผลงานได้ดีตามนิยาม “Ignite your night จุดประกายค่ำคืนของคุณ” อย่างแท้จริง

 

ทดสอบกล้องหลัง

กล้องหลัง: 4 เลนส์ AI Quad Camera  

  • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
  • เลนส์ Super Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4

เก็บทุกความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล

รูปนี้ทดสอบด้วยการ Crop 100% ที่ 2000×1500 พิกเซล ตัวภาพก็ยังสามารถนำมาใช้งานได้ แต่หากเป็นกล้องที่มีความละเอียดต่ำ ก็จะสูญเสียรายละเอียดในภาพรวมออกไป จนไม่สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนในภาพตัวอย่างนี้

และอีกหนึ่งประโยชน์ของกล้องที่มีความละเอียดสูง ก็คือสามารถต่อยอดนำภาพไปใช้งานได้ยืดหยุ่น เช่นนำไปอัดขยายได้ภาพที่มีขนาดใหญ่และยังคงความคมชัดไว้ได้นั่นเอง

 

Normal mode

Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)

Zoom 2x

ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 120 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล  รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป

 

เทียบภาพถ่ายในระยะต่าง ๆ ของ Vivo V19

Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)

Normal ระยะปรกติ

Zoom 2x

ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง

ทดสอบกล้องหลัง ด้วยการถ่ายภาพบุคคลในสภาพแสง Outdoor

กล้องหลังให้คุณภาพที่ดีไม่แพ้กล้องหน้า และสิ่งที่น่าประทับใจมาก ๆ ก็คือเรื่องของความคมชัด และมีไวท์บาลานซ์ที่แม่นยำ ส่วนสกินโทนก็ดูเป็นธรรมชาติ

เมื่อเปิดใช้โหมด Portrait Bokeh effect และ Beauty Mode ที่ระดับ 30 ส่งผลให้ภาพดูมีมิติขึ้น ผิวหน้าของนางแบบดูกระจ่างใส สามารถจบหลังกล้องโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด

 

สำหรับรูปที่ถ่ายด้วยโหมด Portrait จากกล้องหลังและกล้องหน้า เมื่อเราเปิดดูภาพในแอปอัลบั้ม จะมีรูปสัญลักษณ์ของรูรับแสงและข้อความกำกับ “Bokeh” เมื่อเราแตะที่ข้อความนี้ จะสามารถปรับเลือกจุดโฟกัสรวมไปถึงปรับค่ารูรับแสงตามที่เราต้องการ โดยค่ารูรับแสงจากโหมด Portrait จะเป็นการจำลองจาก Software เป็นหลัก

รูปนี้ปรับค่ารูรับแสงที่  f/0.95

Vivo V19 สามารถปรับค่ารูรับแสงได้กว้างสุดที่  f/0.95 ซึ่งจะเป็นการละลายฉากหลังได้มากที่สุด แต่ถ้าเราปรับรูรับแสงให้แคบลงมาการละลายฉากหลังก็จะลดน้อยลงไปนั่นเอง ตรงนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับได้ตามความเหมาะสม

เปรียบเทียบการเลือกปรับค่ารูรับแสงในแต่ละช่วง ตั้งแต่ f/1.4 จนไปถึง f/16

AI Portrait Framing

AI Portrait Framing ฟีเจอร์นี้จะมีหลักการทำงานโดยตรวจจับภาพใบหน้าบุคคลที่อยู่ในเฟรม พร้อมแนะนำการหันกล้องไปในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งก็คือการจัดองค์ประกอบของภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดนั่นเอง ตรงนี้ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพบุคคลได้ดีมาก แม้เราจะถ่ายรูปไม่เก่งก็ตาม

ตัวอย่างภาพที่ใช้งานฟีเจอร์ AI Portrait Framing 

 

Filter + Portrait light effect

เปิดใช้งานฟิลเตอร์

สำหรับกล้องหลังมี Filter และ Portrait light effect มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้า โดยประกอบไปด้วย Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background

 

AI Makeup

เป็นฟีเจอร์ “แต่งสวยหลังถ่ายเสร็จ”  โดย AI Makeup มีโหมดที่ช่วยเปลี่ยนการแต่งหน้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ซึ่งมีทั้ง Style ที่เป็นการแต่งหน้าสำเร็จรูปให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ

โหมดบิวตี้ ที่สามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, ริมฝีปากอิ่ม, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเติมเมคอัพเฉพาะส่วนได้ง่าย ๆ เช่นเติมสีลิปสติก บลัชออน และรูปแบบของคิ้ว

สุดท้ายคือฟีเจอร์ Slim ที่มีหลักการทำงานเหมือนกับ AI Body Shaping นั่นเอง โดยสามารถปรับแต่งรูปร่างให้ดูเพรียวบางสมส่วน เช่น ปรับในภาพรวมของรูปร่างหรือเฉพาะจุดที่ต้องการ เช่น ศีรษะ ไหล่ สะโพก ขา หรือเอวให้ดูเล็กลงได้เป็นต้น

 ทั้งนี้ AI Makeup สนับสนุนเฉพาะในอัลบั้ม โหมดกล้องไม่รองรับ

ภาพต้นฉบับ

ใช้งาน AI Makeup

ประโยชน์ของ AI Makeup จะช่วยให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องที่สะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น และให้ภาพสวยงามตอบโจทย์ตรงใจในสไตล์ที่เราชื่นชอบนั่นเอง

 

AI Body Shaping

โหมด Auto

เปิดใช้ฟีเจอร์ AI Body Shaping

เนื่องจากนางแบบมีรูปร่างที่ค่อนไปทางกะทัดรัด จึงได้ทำการปรับแต่งให้นางแบบขายาวขึ้นมาอีกนิดเพื่อเพิ่มความสูง จากภาพตัวอย่าง ภาพด้านบนใช้โหมด Auto ในการถ่าย ส่วนภาพด้านล่างเปิดใช้งาน AI Body Shaping ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นว่าขาของนางแบบเรามีความเพรียวบางลงและดูสูงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และแน่นอนว่ายังสามารถปรับแต่งได้อีกหลายส่วน เช่นปรับทั้งภาพรวมก็ได้ หรือเลือกปรับเฉพาะจุด เช่น ศีรษะ ไหล่ เอว ขาสะโพกเป็นต้น

สำหรับฟีเจอร์ AI Body Shaping ต้องบอกเลยว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดนใจ “หนุ่ม สาว” คนรุ่นใหม่อย่างแแน่นอน เพราะสามารถทลายข้อจำกัดในการถ่ายรูปแบบเดิม ๆ ที่หลายคนกังวลว่าถ่ายรูปออกมาแล้วจะดูอ้วน ดูแขนใหญ่ สะโพกใหญ่ ฯลฯ  ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย AI Body Shaping ครับ

 

AI Image Matting 

ระบบ AI บน V19 มีการอัพเดตความสามารถขึ้นไปอีกระดับ ก่อนหน้านั้นเราสามารถปรับแต่งรูปถ่ายของเราด้วย AI Makeup ทั้งในส่วนของใบหน้าและรูปร่างได้อย่างอิสระ เช่นอยากให้ใบหน้าเรียว ตาโต หรือขายาวสูงเพรียวขึ้นเป็นต้น

ล่าสุดฟีเอจร์ AI Image Matting มาพร้อมความสามารถในการไดคัทได้แบบมืออาชีพ สามารถเบลอหรือลบบุคคลออกจากในภาพ สามารถย่อ ขยายและเคลื่อย้ายภาพบุลคล ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งเปลี่ยนพื้นหลังได้อย่างอิสระ เรียกว่าจบในตัวแอป ไม่ต้องเอามาไดคัทผ่าน PC แต่อย่างใด

 

จากภาพต้นฉบับ จะเห็นว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในเฟรม ซึ่งเราสามารใช้ฟีเจอร์ AI Image Matting ลบบุคคลที่ไม่ต้องการออกไปได้ง่าย ๆ เพียงคลิ๊กเดียว

และยังสามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์ หรือรูปแบบของภาพพื้นหลังที่มีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย

รองรับการแก้ไขปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาก ๆ  สามารถเลือกแก้ไขได้ทั้งหมดของภาพ  หรือเฉพาะบุคคลและภาพพื้นหลังได้แบบอิสระ

ภาพต้นฉบับ

เปลี่ยนรูปภาพพื้นหลังได้ง่าย ๆ จากแบบสำเร็จรูปที่มีมาให้ในตัวแอป หรือจะเลือกจากภาพถ่ายภายในเครื่องก็ได้เช่นกัน แถมยังสามารถย่อขยายจัดวางตำแหน่งภาพบุคคลได้อย่างอิสระอีกด้วย

 

Super macro

Normal mode 

Super macro

สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน

Pro mode

สำหรับโหมด Pro หรือโหมดมืออาชีพจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เช่นการปรับค่า ไวท์บาลานซ์ได้ตรงกับความเป็นจริง สามารถชดเชยแสง และตั้งค่า ISO เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแสงในขณะนั้นเป็นต้น นอกจากนี้โหมดโปรยังสามารถบันทึกไฟล์ในรูปแบบ RAW ได้อีกด้วย

Auto mode

Pro mode

เปรียบเทียบกับภาพในโหมด Auto จะเห็นว่าภาพจากโหมด Auto นั้นเป็นการถ่ายกลางแจ้ง จึงทำให้ภาพมีความสว่างจ้าและให้ไวท์บาลานซ์ติดโทนเหลืองไปสักนิด เมื่อใช้งานโหมดโปร โดยตั้งค่าไวท์บาลานซ์ให้เป็นกลางแจ้ง พร้อมตั้งค่า ISO ไว้ที่ 200 จะเห็นได้ว่าสีของดอกบัว ใบบัว จะตรงกับความเป็นจริง และดึงรายละเอียดของกลีบบัวกลับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโหมดนี้จะเหมาะกับคนที่มีพื้นฐานทางด้านการถ่ายรูปมาบ้างแล้วนั่นเอง

 

Super Night Mode

โหมด Normal

Super Night Mode

Super Night Mode จะเป็นโหมดที่ใช้การถ่ายภาพซ้อนกันหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง

ซึ่ง Super Night Mode ไม่ได้ทำให้ภาพสว่างขึ้นมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยดึงดีเทลรายละเอียดของภาพกลับมาอีกทางหนึ่งด้วย สามารถดูการเปรียบเทียบได้จากภาพตัวอย่าง โดย

ภาพด้านล่างเมื่อเมื่อเปิดใช้ AI Night Mode แล้ว ภาพจะดูสว่างขึ้นและเพิ่มรายละเอียดในส่วนที่ขาดหายไปจากภาพด้านบน

Super Night Portrait

AI Super Night Mode เวอร์ชั่นใหม่ สามารถจับภาพถ่ายในระดับแสงที่แตกต่างกันหลาย ๆ ภาพในระยะเวลาอันสั้นเพื่อนำมารวมกัน จากนั้นจะทำการวิเคราะห์ ปรับค่าความสว่าง และความคมชัดของภาพให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ V19 ช่วยให้ภาพบุคคลเปล่งประกายได้แม้ในเวลากลางคืน

 

โหมดการถ่ายภาพอื่น ๆ บน Vivo V19 

Panorama

โหมด Panorama ของ Vivo V19 ใช้งานง่ายมาก  เวลาถ่ายให้เราเคลื่อนที่ช้า ๆ พยายามบังคับให้ลูกศรวิ่งไปตามแนวเส้นนำทางอย่างต่อเนื่อง แค่นี้เราก็จะได้ภาพพาโนรามาที่สวยเนียนกริบ ไม่เกิด distortion หรือการเหลื่อมของภาพให้หงุดหงิดใจ

Live Photo

Live Photo เป็นการถ่ายภาพนิ่งพร้อมบันทึกภาพเคลื่อนไหวสั้น ๆ เมื่อเปิดรูปที่ถ่ายในโหมด Live Photo บนแอปอัลบั้ม จะสามารถดูภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยการกดค้างที่รูปนั้น ๆ

Live Photo

Live Photo

AR Stickers

AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย

AR Stickers จากกล้องหลัง

ตัวอย่าง AR Stickers ในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว

Jovi Vision

Jovi Vision  “ตัวรู้จำรูปภาพ” ฟีเจอร์ที่ช่วยเชื่อมโยงความสามารถในด้านการค้นหาร่วมกับกล้องถ่ายรูปได้อย่างลงตัว  โดยเมื่อเราส่องกล้องไปที่วัตถุ อย่างเช่น เมาส์ ดอกไม้ อาหารหรือตึกอาคารต่าง ๆ ตัว Jovi Vision จะทำการค้นหาลักษณะของภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ จากนั้นจะแสดงข้อมูลพร้อมลิงก์ที่เกี่ยวช้องจากแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ อย่าง Lazada และ Shopee เป็นต้น

DOC

โหมด Doc หรือโหมดสแกนเอกสาร ที่สามารถสแกนเอกสารได้ง่าย ๆ ให้ตัวหนังสือคมชัดดุจเครื่องสแกน ฟีเจอร์นี้ใช้งานง่ายมาก แค่ส่องกล้องไปยังหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์ที่ต้องการสแกน เมื่อกดถ่ายแล้วตัวกล้องจะทำการครอปให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถทำการแก้ไขด้วยตัวเองในภายหลังผ่านทางแอปอัลบั้ม

 

TIME-LAPSE

โหมด TIME-LAPSE บน Vivo V19 สามารถเลือกระดับความเร็วได้ทั้งแบบอัตโนมัติและตามสภาพแวดล้อมนั้น ๆ

 

TIME-LAPSE

 

SLO-MO

SLO-MO

 

จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อครับ

Feature Video On Vivo V19 

นอกจากจะเด่นด้านภาพนิ่งแล้ว Vivo V19 ยังจัดเต็มด้วยฟีเจอร์ด้านการบันทึกวีดีโอที่อัดแน่นพร้อมตอบโจทย์สาย VLOG และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอได้เป็นอย่างดี โดย Vivo V19 มาพร้อมความสามารถในการบันทึกวีดีโอความละเอียดสูงถึง 4K และระบบกันสั่นแบบ EIS ที่ช่วยให้การถ่ายวีดีโอมีความสมูทราบลื่นที่ดีอีกด้วย

 

Ultra Stable Selfie Video

ตอบโจทย์สาย VLOG ด้วย gyroscope ที่ตรวจจับการสั่นของมือแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบกันสั่น EIS ที่ช่วยป้องกันการสั่นไหวของภาพ ส่งผลให้การถ่ายวีดีโอเซลฟี่มีความสมูท ราบรื่น โดยไม่ต้องพึงพาขาตั้งกล้อง

Ultra Stable Video

ทดสอบระบบกันสั่น EIS ของกล้องหลัง

Art Portrait Video

Art Portrait Video เลือกใช้พื้นหลังแบบ Mono

Art Portrait Video การถ่ายวีดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ

Art Portrait Video โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการแยกฉากแบบเรียลไทม์ ที่จะวิเคราะห์ความลึกตื้นของภาพ รักษาสีสันและความชัดลึกของภาพ รวมทั้งการประมวลผลพื้นหลังแบบขาวดำ สามารถถ่ายวีดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ อีกทั้งยังสามารถใส่ฟิลเตอร์ลงไปในวีดีโอ ทำให้รังสรรค์งานวีดีโอได้ในแบบ Vlogger ระดับมืออาชีพ

Art Portrait Video รองรับการใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

 

AI Video Editor

ปิดท้ายกันไปด้วยฟีเจอร์ AI Video Editor ที่มีให้ใช้งานบน Vivo V19 ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยตัดต่อ ตกแต่งวิดีโอของคุณเพียงแค่คลิกเดียว โดยสามารถสร้างสรรค์ภาพยนตร์ด้วยตัวคุณเองได้อย่างสะดวกง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องนำมาทำบน PC หรือลงแอปเพิ่มเติมแต่อย่างใด สำหรับวีดีโอนี้ได้ใส่เพลง, ฟิลเตอร์พื้นหลัง, กรอบและข้อความ ลงในวีดีโอผ่านแอปอัลบั้ม ซึ่งสามารถตัดต่อหรือรังสรรค์วีดีโอได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว

สามารถดูวีดีโอต้นฉบับได้ที่นี่ https://youtu.be/TVsWLgzf07g

 

สรุป 

เป็นอย่างไรกันบ้าง หลังจากได้รับชมความสามารถและฟีเจอร์ที่อัดแน่นของกล้องหน้าและหลังจาก Vivo V19 ที่ขับเคลื่อนด้วย Hardware คุณภาพ และยังมาพร้อมความชาญฉลาดของ AI ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นของค่าย Vivo กันไปแล้ว เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงประทับใจในความสามารถและจะช่วยทำให้ตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของ Vivo V19 สมาร์ตโฟน 6 เลนส์ ครบเครื่องสุดคุ้มกันได้ง่ายขึ้นนะครับ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้นี่ รีวิว Vivo V19 กล้องเซลฟี่คู่ 32MP หน้าจอ Ultra O Screen สุดคมชัด ผสานดีไซน์พรีเมี่ยม จัดเต็มด้วยกล้องหลัง AI 4 เลนส์ พร้อมแบตสุดอึดและชาร์จไว 33W !!!

 

Vivo V19  วางจำหน่ายแล้วในราคา 12,999  บาท  โดยมีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกัน ได้แก่  Gleam Black ( สีดำ) , Sleek Silver (สีเงิน) 

สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ตัวแทนจัดจำหน่าย สมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วประเทศ  และสามารถซื้อออนไลน์ได้ที่

Lazada https://bit.ly/2zB4l8g

Shopee https://bit.ly/2Skgh4Y 

Facebook Comments

Related Posts