หลังจากที่ realme เปิดตัว realme 9 Pro Series ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัว realme 10 Pro Series สมาร์ตโฟน Number Series รุ่นภาคต่อออกมาเป็นที่เรียบร้อย
โดยประกอบด้วย realme 10 Pro 5G และ realme 10 Pro+ 5G ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีจุดเด่นที่ดีไซน์พรีเมี่ยมสวยหรู พร้อมหน้าจอแสดงผลที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูง 120Hz และรองรับชาร์จไวสูงสุด 67W
สำหรับ realme 10 Pro 5G จะมีดีไซน์ขอบเหลี่ยมบางเพียง 8.1 มม. หน้าจอแสดงผลไร้ขอบ 120Hz พร้อมขอบด้านข้างบางพิเศษ 1 มม. ขับเคลื่อนด้วยชุมพลังชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 695 5G อันทรงพลัง และยังประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร และลำโพงคู่สเตอริโอที่สามารถเพิ่มระดับเสียงได้ถึง 200%
ส่วน realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลระดับเรือธงแบบโค้งตัวแรกในเซกเมนต์ โดยมีขอบด้านข้างบางเพียง 1.41 มม. และขอบด้านล่างบางเพียง 2.33 มม. ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 920 5G บนกระบวนการผลิต 6nm พร้อมหน่วยความจำภายในสูงสุด 256GB และลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมความละเอียดสูง
เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่า realme 10 Pro Series ทั้ง 2 รุ่นจะมีประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปชมรีวิวเต็มกันเลยครับ
สเปกเบื้องต้น realme 10 Pro 5G
ขนาด | สี Hyperspace: 163.7 x 74.2 x 8.3 มม. (LWT) สี Dark Matter&Nebula Blue: 163.7 x 74.2 x 8.1 มม. |
น้ำหนัก | สี Hyperspace: 192 กรัม สี Dark Matter&Nebula Blue: 190 กรัม |
หน้าจอ | IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (391 ppi) ขนาด 6.72 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.76% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 240Hz, ช่วงสี DCI-P3, ความสว่างสูงสุด 680nits พร้อมขอบด้านข้างบางพิเศษ 1 มม. |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM6375 Snapdragon 695 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 |
RAM | 8GB แบบ LPDDR4x รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 12GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB แบบ UFS 2.2 |
microSD Card | สูงสุด 1TB |
ระบบปฏิบัติการ | realmu UI 4.0 based on Android 13 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, hotspot Bluetooth 5.1, A2DP, LE, aptX HD GPS with A-GPS, GLONASS, BDS ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C 2.0, USB On-The-Go |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล Prolight Camera รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.67″, 0.64µm และระบบ PDAF – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G NR_SA: n1/n5/n8/n28A/n41/n78 5G NR_NSA: n41/n77/n78 4G LTE FDD: B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B19/B20/B28A TD-LTE: B34/B38/B39/B40/B41(2515-2675MHz) 3G WCDMA: B1/B2/B4/B5/B6/B8/B19 2G GSM: 850/900/1800/1900 |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC |
สี | Dark Matter, Nebula Blue และ Hyperspace |
ราคา | RAM 8GB+256GB ราคา 11,999 บาท |
สเปกเบื้องต้น realme 10 Pro+ 5G
ขนาด | Hyperspace: 161.5 x 73.9 x 7.78 มม. Dark Matter: 160.2 x 73.3 x 8 มม. |
น้ำหนัก | Hyperspace: 175 กรัม Dark Matter: 173 กรัม |
หน้าจอ | 120Hz Curved AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล (394 ppi) 1 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz และอัปได้สูงสุด 1260Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 800nits, รองรับ HDR10+ และใช้เทคโนโลยี PWM Dimming ถึง 2160Hz และขอบใต้หน้าจอที่บางเพียง 2.33 มม. |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 920 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68 MC4 |
RAM | 12GB แบบ LPDDR4x |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB แแบบ UFS 2.2 |
microSD Card | – |
ระบบปฏิบัติการ | realme UI 4.0 based on Android 13 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, hotspot GPS with A-GPS, GLONASS, BDS ช่องหูฟัง 3.5 มม. NFC พอร์ต USB Type-C 2.0, USB On-The-Go |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล Prolight Camera รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.67″, 0.64µm และระบบ PDAF – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G NR_SA: n40/n41/n78/n1/n3/n5/n8/n28a 5G NR_NSA: n41/n77/n78 4G LTE FDD: B1/B3/B5/B7/B8/B19/B28A TD-LTE: B34/B38/B39/B40/B41(2515-2675MHz) 3G WCDMA: B1/B2/B4/B5/B6/B8/B19 2G GSM: 850/900/1800/1900 |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC |
สี | Dark Matter, Nebula Blue และ Hyperspace |
ราคา | RAM 12GB+256GB ราคา 15,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 10 Pro 5G และ realme 10 Pro+ 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งมาโดยมาในโทนสีเหลืองตัดกับสีดำ ด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน โดยมุมขวาด้านบนมีข้อความระบุว่ารองรับ 5G และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme ขณะที่ด้านขวาข้างกล่องก็มีขื่อรุ่นระบุไว้ด้วย
ด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกัน เริ่มจาก realme 10 Pro 5G หน้าจอ 120Hz Boundless Display, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 695 5G, กล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ProLight Camera และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 33W
ส่วน realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมหน้าจอ 120Hz Curved Vision Display, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Dimensity 920 5G, กล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ProLight Camera และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 67W
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง realme 10 Pro 5G, realme 10 Pro+ 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC (realme 10 Pro 5G) และ 67W SuperVOOC (realme 10 Pro+ 5G)
- สายดาต้าลิงค์แบบ USC Type-C
- เคสพลาสติกใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 10 Pro 5G
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 10 Pro+ 5G
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
realme 10 Pro 5G มาในดีไซน์แบบ Hyperspace Design ด้วยดีไซน์สุดพรีเมี่ยมที่มีรูปแบบการเร่งความเร็วปริซึมและอนุภาคเนบิวลา นอกจากนี้ยังมาพร้อมขอบเรียบ ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 8.1 มม. (เฉพาะสี Dark Matter และ Nebula Blue) และการออกแบบที่คลาสสิก มอบความพรีเมี่ยมอย่างมีสไตล์ โดยมีให้เลือก 3 สีคือ Dark Matter, Nebula Blue และ Hyperspace
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ IPS LCD 120Hz Boundless Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (391 ppi) ขนาด 6.72 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.76% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 240Hz, ช่วงสี DCI-P3, ความสว่างสูงสุด 680nits
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี RAZR ล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยี InSeal, เทคโนโลยี TopNotch และ Active Antenna Switching ทำให้ realme 10 Pro 5G มาพร้อมกับขอบด้านข้างบางพิเศษ 1 มม. และขอบด้านบน 1.15 มม. โดดเด่นจากรุ่นอื่นๆ ที่หนากว่า มอบประสบการณ์การรับชมแบบเต็มจออย่างแท้จริง
ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.45
พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์คู่ Dual Camera โดยมีโมดูลกล้องขนาดใหญ่ 2 ตัววางเรียงในแนวตั้งที่ภายในมีเลนส์กล้องอย่างละตัว พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ด้านขวา และข้อความ MATRIX AI CAMERA และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme
โดยกล้องเลนส์คู่ Dual Camera ของ realme 10 Pro 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล Prolight Camera รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.67″, 0.64µm และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ SIM Card
โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 10 Pro 5G จะเป็นแบบ Hybird Slot แบ่งเป็นช่อง 1 ใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card และช่อง 2 ใส่ SIM Card หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card โดยรองรับได้สูงสุด 256GB
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้บนปุ่ม
ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม., ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ส่วน realme 10 Pro+ 5G ก็มีดีไซน์พรีเมี่ยมแบบ Hyperspace Design เหมือนกับ realme 10 Pro แต่มีดีไซน์ขอบโค้งที่สมมาตรเป็นพิเศษ ด้วยการผสมผสานที่น่าทึ่งของตัวเครื่องที่บาง น้ำหนักเบา และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
ทำให้ realme 10 Pro+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนแบตเตอรี่ 5000mAh ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมาทั่วโลก โดยบางเพียง 7.78 มม. และเบาเพียง 173 กรัม และมีให้เลือก 3 สีคือ Dark Matter, Nebula Blue และ Hyperspace
มาพร้อมหน้าจอระดับเรือธงแบบโค้งตัวแรกในเซกเมนต์ ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED 120Hz Curved Vision Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล (394 ppi) 1 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65% โดยมีความโค้งอันสมมาตร 61 องศา, อัตราส่วนความคมชัด 5,000,000:1 และทุ่มทุนผลิตหน้าจอ 15 ล้านดอลล่าร์
นอกจากนี้ยังมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz และอัปได้สูงสุด 1260Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 800nits, รองรับ HDR10+ และใช้เทคโนโลยี PWM Dimming ถึง 2160Hz
รวมทั้งยังมีขอบด้านล่างที่แคบที่สุดในไทยเพียง 2.33 มม. บนสมาร์ตโฟนจอโค้ง โดยขอบด้านข้างบางเพียง 1.41 มม. และขอบด้านล่างบางเพียง 2.33 มม. ผสานกับดีไซน์โค้งที่สมมาตรเป็นพิเศษทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มอบประสบการณ์การมองเห็นแบบไร้ขอบ และมาพร้อมกับด้ามจับที่ค่อนข้างสบาย คล้ายกับเรือธงที่มีราคาสูงกว่าสองเท่า
realme 10 Pro+ 5G ยังมาพร้อมเทคโนโลยี 2160Hz PWM Dimming เครื่องแรกของประเทศไทย มั่นใจในการถนอมสายตา ในสภาพแวดล้อมที่มืด (ความสว่างต่ำกว่า 90 nits) ที่ DC Dimming ไม่สามารถทำงานได้
realme 10 Pro+ 5G จะสลับไปที่โหมดลดแสง PWM 2160Hz โดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาสีที่แม่นยำบนจอแสดงผลพร้อมประสบการณ์ที่สบายตายิ่งขึ้น โดยมีประสิทธิภาพการลดแสงเพิ่มขึ้น4.5 เท่าเมื่อเทียบกับ 480Hz PWM ทั่วไปในสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ ( เช่น Samsung Galaxy S22 Ultra )
realme 10 Pro+ 5G เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอัลกอริทึ่ม X touch Anti mistouch ในทุกด้าน โดยอัลกอริทึม X touch Anti mistouch จะเพิ่มพื้นที่ป้องกันการสัมผัสผิดพลาดขึ้น 20% และได้รับการปรับแต่งอย่างชาญฉลาด เพื่อลดการสัมผัสผิดพลาดทั่วพื้นที่จอแสดงผล
จากเวลาตรวจจับที่ไม่คงที่ไปจนถึงการตรวจจับแบบไดนามิก ท้าให้กระบวนการตรวจจับมีประสิทธิภาพและสมเหตุสมผลมากขึ้น เพื่อระบุฉากจับพิเศษ 10 แบบเพื่อลดการสัมผัสผิด พื้นที่ป้องกันการสัมผัสที่ใหญ่ขึ้น 20% กว่า Gen 3
รวมทั้งระบุลายนิ้วมือ ครอบคลุมผู้คนหลากหลายมากขึ้นและสามารถแก้ปัญหาของนิ้วที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ครั้งแรกของโลกที่ได้รับการรับรอง Flicker Free จาก TÜV Rheinland รวมทั้งได้รับใบรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland ลดแสงสีฟ้า ปกป้องดวงตาและไม่มีเอฟเฟคส์หน้าจอเหลือง
realme 10 Pro+ 5G ใช้กระจกเสริมแรงสองชั้น 0.65 มม. ซึ่งให้ความทนทานต่อการตกกระแทกและความสามารถในการป้องกันการแตกร้าวได้ดียิ่งขึ้น realme 10 Pro+ 5G ผ่านการทดสอบการตกจากที่สูง 1 เมตร และการทดสอบการตกจากไมโครถึง 28,000 ครั้งในการทดสอบขั้นรุนแรงภายใน ผู้ใช้จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานที่ไร้กังวลบนจอแสดงผลแบบโค้งนี้
มุมซ้ายด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.45
ด้านหลังของ realme 10 Pro+ 5G มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว AI Triple Camera โดยมีโมดูลกล้องขนาดใหญ่ 2 ตัววางเรียงในแนวตั้งที่ภายในโมดูลด้านบนมีเลนส์หลัก ส่วนโมดูลด้านล่างมีเลนส์รองอีก 2 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ด้านขวา และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme
โดยกล้อง 3 ตัวของ realme 10 Pro+ 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล Prolight Camera รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.67″, 0.64µm และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ขณะที่ด้านซ้ายข้างเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่องหรือปุ่มกดใด
ขณะที่ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง
ส่วนด้านบนเครื่อง มีช่องลำโพงเสียง กับช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง
และด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง (ไม่มีช่องหูฟัง)
โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 10 Pro+ 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก